HIGHLIGHT
|
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของชีวิตประจำวัน การบริหารทรัพยากรบุคคลหรือ HR ก็เป็นอีกหน่วยงานที่หนีไม่พ้น กระทั่งองค์กรทั่วโลกเริ่มหันมาใช้ HR Tech หรือ เทคโนโลยีด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงานกันแล้ว
แล้วทำไม HR ต้องใช้ HR Tech แล้ว ? บทความนี้หาคำตอบให้
HR Tech คืออะไร
HR Tech ย่อมาจาก HR Technology หมายถึง การใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว สะดวก ลดภาระงาน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
ทั้งนี้ Gartner เผยผลสำรวจที่บอกว่า 48% ของ HR วางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณ HR Tech ในปี 2024 เป็นอันดับที่ 1 ถึง 3 ปีซ้อน
โดยผู้นำด้าน HR มองว่า เทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจ ช่วยให้องค์กรเติบโต และลดต้นทุน เช่น ระบบการทำงานอัตโนมัติหรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI (Artificial Intelligence) ที่จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่มากขึ้น
เรียกว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ HR Tech เป็นที่เรียบร้อย
ประวัติศาสตร์ HR Tech ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับการบริหารคน |
การใช้ HR Tech ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
แม้ว่าการใช้ HR Tech จะมีช่วยองค์กรในหลากหลายด้าน ทว่าการสำรวจของ Gartner ยังพบว่า การใช้ HR Tech นั้นจะประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนเพียงเล็กน้อย (32%) หรือไม่ประสบความสำเร็จเลย (26%)
ฮานน์ นีย์เบิร์ก (Hanne Nieberg) Director จาก Gartner HR practice ให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงในการใช้ HR Tech จะต้องใช้เวลา เนื่องจากการนำเทคโนโลยีมาใช้งานเป็นโปรเจกต์ที่ซับซ้อน ใช้เวลาหลายปี ทำให้ผลลัพธ์จากการลงทุนที่คาดหวังอาจยังไม่ปรากฏทันที “การพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ สร้างความคาดหวังที่สูงเกินจริงจนยากจะทำให้สำเร็จได้เร็ว”
ฉะนั้น เพื่อให้การลงทุน HR Tech ประสบความสำเร็จ ผู้นำ HR จำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบ ดังนี้
- ประเมินผลประโยชน์ที่เป็นไปได้อย่างรอบคอบ
- พิจารณาข้อเสนอของผู้ให้บริการอย่างละเอียด
- สร้างมาตรการการวัดผลตั้งแต่ต้นอย่างชัดเจน
- เร่งการนำไปใช้ของผู้ใช้งาน (User) โดยเปิดช่องทางรับข้อเสนอแนะจากพนักงานเสมอ
- จัดสรรทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง เช่น อินเทอร์เน็ต, อุปกรณ์ต่าง ๆ
- ปรับงบการลงทุนใน HR Tech ให้สอดคล้องกับความพร้อมทางดิจิทัลของผู้ใช้งาน
ประเภทของ HR Tech ที่ได้รับความนิยม
เทคโนโลยีที่ใช้ในการบริหารทรัพยากรบุคคลมีหลายประเภท โดหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีดังนี้:
1. ซอฟต์แวร์การจัดการข้อมูลพนักงาน (HRIS)
Human Resource Information System เป็นระบบที่ช่วยในการจัดการข้อมูลของพนักงาน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล การเข้าทำงาน การประเมินผล และการพัฒนาทักษะ ทำให้สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ATHM, Humanica, TIGERSOFT, empeo ฯลฯ
2. ระบบการสรรหาบุคลากรออนไลน์ (ATS)
Applicant Tracking System เป็นระบบที่ช่วยในการจัดการกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน ตั้งแต่การประกาศตำแหน่งงาน การรับสมัคร และการประเมินผู้สมัคร ทำให้กระบวนการสรรหามีความรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น โปรแกรมฟรีอย่าง ATS จาก Reerecoen
3. เทคโนโลยีการพัฒนาทักษะและการประเมินผล (LMS)
Learning Management System เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเทรนนิ่ง รวมถึงการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการประเมินผลการทำงานของพนักงาน การให้คำแนะนำ และการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ เช่น Conicle, FrogGenius ฯลฯ
4. แพลตฟอร์มการสื่อสารภายในองค์กร
การใช้แพลตฟอร์มการสื่อสารภายในองค์กร เช่น Slack, Microsoft Teams หรือ Lark ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ลดปัญหาการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนและการผิดพลาดในงาน
ประโยชน์ของ HR Tech
การนำ HR Tech มาใช้ในการบริหารทรัพยากรบุคคลมีประโยชน์หลากหลายประการ ได้แก่:
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน: เทคโนโลยีช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนและทำให้สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การลดข้อผิดพลาด: การใช้เทคโนโลยีช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยมือ ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
- การเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน: เทคโนโลยีช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน
- การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน: เทคโนโลยีช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
ความท้าทายของ HR Tech
แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีประโยชน์มากมาย แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารทรัพยากรบุคคลก็มีความท้าทายเช่นกัน ได้แก่:
- การฝึกอบรมและปรับตัวของพนักงาน: พนักงานบางคนอาจมีความไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมและการสนับสนุนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวได้
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล: การจัดการข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนต้องมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
- การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว: เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต้องมีความสามารถในการปรับตัวและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มในอนาคตของ HR Tech
การใช้เทคโนโลยีในการบริหารทรัพยากรบุคคลมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต แนวโน้มสำคัญ ๆ ได้แก่:
- การพัฒนาเทคโนโลยี VR และ AR: VR และ AR จะถูกนำมาใช้ในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน
- การใช้เทคโนโลยี Blockchain: Blockchain จะช่วยในการจัดเก็บข้อมูลพนักงานอย่างปลอดภัยและมีความโปร่งใส
- การใช้ AI และ Machine Learning: AI และ Machine Learning จะเข้ามามีบทบาทในการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน รวมถึงการประเมินผลและการพัฒนาทักษะ
HR มีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้
Q: HR จะประยุกต์ใช้ AI ยังไงได้บ้าง ?
มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่อง AI แถมยังมีหลายตัว หลายโปรแกรมเหลือเกิน แล้ว HR จะใช้งานอย่างไรได้บ้าง
A: สื่งที่ AI ช่วยงาน HR จะเน้นไปในเรื่องการบริหารจัดการ รวมถึงงานบริการต่าง ๆ ในองค์กร
1. AI สามารถช่วยงานด้านตรวจสอบประวัติผู้สมัคร การเก็บรวบรวมข้อมูลจากโปรไฟล์โซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงประวัติงานออนไลน์ของพนักงาน
2. AI สามารถใช้ระบุทักษะ (Competency)ของพนักกงานแต่ละกลุ่มงานได้ รวมถึงทักษะที่ควรส่งเสริมเพิ่มเติมให้พนักงานแต่ละคน เป็นการจัดหลักสูตรฝึกอบรมเฉพาะตัวบุคคลให้แก่พนักงาน
3. AI ช่วยงานธุรการได้ รวมถึงการสื่อสารภายในองค์กร การส่งเอกสาร การติดตามอีเมล และงานอื่นๆ ที่เป็นงานบริการในสำนักงาน
,,, (คลิกดูคำตอบทั้งหมด👇)
บทสรุป
เพราะ ประวัติศาสตร์ใช้ HR Tech ยังไม่สิ้นสุดที่ตรงนี้ แถมยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้การพัฒนาทางเทคโนโลยียังไม่หยุดยั้ง เรื่องราวของ HR Tech จึงนับว่ายังมี “อนาคต” ที่มากมายรอเราอยู่ เว้นแต่เพียงว่า HR อย่างเราก็เริ่มใช้มันเมื่อไหร่ เพื่อให้องค์กรเติบโตไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยี
หากต้องการใช้ HR Tech ในด้านต่าง ๆ สามารถเข้ามาค้นหาได้ที่ HREX
ที่มา |