5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR

Highlight

  • เป็นเรื่องดีหากผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลร่วมมือกันคิดหานโยบายที่จะช่วยบ่มเพาะความปลอดภัยเชิงจิตวิทยาในองค์กร เพื่อให้องค์กรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และความสำเร็จอย่างแท้จริง
  • ที่ทำงานไม่ควรเป็นแค่สถานที่ แต่ที่ทำงานที่ดีหมายถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพของคนทำงาน 
  • คนทำงาน HR สามารถนำวิธีการและแนวคิด Design Thinking ไปปรับใช้เพื่อช่วยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาด้านการทำงานต่าง ๆ ของพนักงานได้
  • งาน HR เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารสูงมาก จึงต้องมีเทคนิคด้านการสื่อสารในระดับต่างๆ รวมถึงการสื่อสารในการทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รักษาความสัมพันธ์ และเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
  • ปัญหาสุขภาพจิตเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญในองค์กรยุคใหม่ การที่องค์กรมีนโยบายที่ช่วยดูแลใส่ใจพนักงานในด้านสุขภาพจิต ย่อมส่งผลดีต่อองค์กรในระยะยาว

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

1. องค์กรไม่กลัว (Fearless Organization)

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

Amy C. Edmondson เขียน, ทิพย์นภา หวนสุริยา แปล

คำโปรยปก

ในโลกที่ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือ (VUCA) องค์กรต้องการความกล้าหาญที่จะฝ่าคลื่นลมยิ่งกว่ายุคไหน ๆ ทว่าแม้จะจ้างคนมีพรสวรรค์มามากเพียงใด ความเก่งก็ไม่อาจฉายแสงหากถูก “ความกลัว” บดบัง แนวคิดชั้นเลิศกลับถูกแช่แข็ง และหายนะอาจเกิดขึ้นได้ภายใต้วัฒนธรรมความกลัว

เอมี ซี. เอ็ดมอนด์สัน ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยธุรกิจฮาร์วาร์ด และผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดแห่งปี 2021 โดย Thinkers50 กลั่นกรองประสบการณ์วิจัยกว่า 30 ปี สู่แนวคิด “ความปลอดภัยเชิงจิตวิทยา” เพื่อแนะแนวทางก้าวข้ามความกลัวที่คอยฉุดรั้งประสิทธิภาพขององค์กร และเปิดพื้นที่ให้คนทำงานได้เติบโตอย่างสร้างสรรค์ ผ่านองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ทำได้จริง อาทิ

  • แนวทางสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เปิดรับความเห็นต่าง ข้อผิดพลาด และไอเดียนอกกรอบ
  • “ชุดเครื่องมือของผู้นำ“ และวิธีตอบสนองอย่างสร้างสรรค์ต่อความคิดเห็น
  • กลยุทธ์การสร้างนวัตกรรมผ่านเสรีภาพที่จะล้มเหลว” และการกระตุ้นความล้มเหลวที่ชาญฉลาด
  • บทเรียนจากกรณีศึกษาหลากหลายแวดวง ทั้งพิกซาร์ กูเกิลเอ็กซ์ นาซา ไปจนถึงภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

มาเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า เปลี่ยนความเงียบเป็นความเห็น และเปลี่ยนความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ นี่คือคู่มือชั้นยอดสำหรับสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งจากภายใน และส่งเสริมให้คนทำงานซึ่งเป็น “หัวใจ” ขององค์กร เรียนรู้และเติบโตได้โดยปราศจากความกลัว

ทำไม HR ควรอ่าน?

วัฒนธรรมความกลัว ไม่ว่าจะกลัวความผิดพลาด กลัวล้มเหลว กลัวเห็นต่าง ฯลฯ เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จขององค์กร และขัดขวางการเติบโตของพนักงาน จึงเป็นเรื่องดีหากผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคลร่วมมือกันคิดหานโยบายที่จะช่วยบ่มเพาะความปลอดภัยเชิงจิตวิทยาในองค์กร เพื่อให้องค์กรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์และความสำเร็จอย่างแท้จริง

2. ที่ (น่า) ทำงาน: ศาสตร์และศิลป์แห่งการสร้างที่ทำงานชั้นยอด (The Best Place to Work)

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

Ron Friedman เขียน, นรา สุภัคโรจน์ แปล

คำโปรยปก

  • ทำไมที่ทำงานชั้นยอดถึงยอมจ้างคุณมา ‘เล่น’
  • เราจะออกแบบออฟฟิศอย่างไรให้ ‘ใส่ใจทุกรายละเอียด’ และ ‘ส่งเสริมพลังสร้างสรรค์’ ไปพร้อมกัน
  • ทำไมบริษัทที่ประสบ ‘ความสำเร็จ’ ถึงให้รางวัลกับ ‘ความล้มเหลว’
  • กลวิธีเปลี่ยน ‘กลุ่มคนแปลกหน้า’ ให้กลายเป็น ‘ชุมชน’ ต้องทำอย่างไร
  • ที่ทำงานสมัยใหม่ก้าวข้ามปัญหา ‘work-life balance’ แล้วผสมผสานงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว เข้าด้วยกันอย่างลงตัวได้อย่างไร
  • ทำไมพนักงานที่มี ‘ความสุข’ หมายถึง ‘กำไร’ ที่มากขึ้น
  • คาสิโน โลกวิดีโอเกม และนักเจรจาต่อรองกับคนร้าย สอนอะไรเรา เรื่องงานและที่ทำงาน

The Best Place to Work โดย รอน ฟรีดแมน นักจิตวิทยาสังคม ผู้สนใจศึกษาแรงจูงใจของมนุษย์และพฤติกรรมองค์การ ตอบโจทย์ท้าทายเรื่อง ‘ศาสตร์และศิลป์แห่งการสร้างที่ทำงานชั้นยอด’ ในโลกยุคใหม่ ผ่านข้อค้นพบล่าสุดจากงานวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม การบริหารจัดการ ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ ร่วมด้วยกลเม็ดเคล็ดลับจากบริษัทชั้นนำ เช่น กูเกิล แอมะซอน และสตาร์บัคส์

หนังสือเล่มนี้เสนอคำตอบสำหรับผู้บริหารและว่าที่ผู้นำแห่งอนาคต เพื่อออกแบบและลงแรงสร้าง ที่ (น่า) ทำงาน’ ในฝัน ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ นวัตกรรม ความสุข ความรู้สึกผูกพันและมีส่วนร่วม ผลงานที่น่าภาคภูมิ และคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทำงานทุกคน

ทำไม HR ควรอ่าน?

ที่ทำงานไม่ควรเป็นแค่สถานที่ แต่ที่ทำงานที่ดีหมายถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพของคนทำงาน หนังสือเล่มนี้จะชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมการทำงานส่งผลต่อคนทำงานได้มากเพียงใด และเราจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความสุขในการทำงานให้คนทำงานผ่านการสร้าง “ที่ (น่า) ทำงาน” ได้อย่างไร

3. Designing Your Work Life: คู่มือออกแบบชีวิตที่ใช่-งานที่ชอบ ด้วย Design Thinking

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

Bill Burnett และ Dave Evans เขียน, นรา สุภัคโรจน์ แปล

คำโปรยปก

  • “งาน” คือองค์ประกอบสำคัญในชีวิตมนุษย์ คนเราทำงานเฉลี่ยอย่างน้อย 80,000 ชั่วโมงตลอดทั้งชีวิต ทว่าสถิติคนทำงานทั่วโลกที่ทำงานอย่าง “ไร้สุข” กลับสูงถึง 85 เปอร์เซ็นต์!
  • คุณเป็นหนึ่งใน 85 เปอร์เซ็นต์นี้ใช่หรือไม่
  • คุณเฝ้ารอให้ถึงวันศุกร์ และเกลียดวันจันทร์เป็นที่สุดใช่ไหม
  • คุณไม่มีความสุขกับงาน เหลือทนกับเจ้านาย รู้สึกว่างานไร้ความหมาย และคิดว่าการลาออกคือคำตอบอยู่หรือเปล่า
  • หนังสือเล่มนี้จะบอกคุณว่า อย่าเพิ่งลาออก มาออกแบบงานกันใหม่ดีกว่า!

Designing Your Work Life ผลงานเล่มล่าสุดจากผู้เขียน Designing Your Life ชวนมาออกแบบชีวิต-การงานที่ปรารถนา ด้วยวิธีคิดอย่างนักออกแบบ หรือ Design Thinking พร้อมเจาะลึกแนวทางรับมือกับปัญหาสารพันของคนทำงาน อาทิ เราควรเลือกเงินหรือความหมาย ทำอย่างไรเมื่องานท่วมจนรับไม่ไหว เราจะใช้ประโยชน์จากการเมืองในที่ทำงานได้หรือไม่ และอะไรคือทักษะสำคัญของการงานแห่งอนาคต

หาก Designing Your Life คือเรื่องของจินตนาการและการออกแบบอนาคตที่วาดฝัน

Designing Your Work Life ก็คือการลงมือสร้างจินตนาการและอนาคตเหล่านั้นให้เป็นจริง

พร้อมจะออกแบบชีวิตที่ใช่-งานที่ชอบ” กันหรือยัง?

ทำไม HR ควรอ่าน?

หนังสือเล่มนี้จะพาไปประยุกต์ใช้ Design Thinking เพื่อช่วยออกแบบชีวิตการทำงาน ซึ่งนอกจากจะใช้ออกแบบการทำงานของคนทำงานเองแล้ว คนทำงาน HR สามารถนำวิธีการและแนวคิดในเล่มไปปรับใช้เพื่อช่วยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาด้านการทำงานต่าง ๆ ของพนักงานได้ เช่น หากพนักงานคิดจะลาออก จะช่วยออกแบบงานใหม่ให้ดีขึ้นได้อย่างไรเพื่อรักษาพนักงานไว้

4. วิชาสานสัมพันธ์: เคล็ดลับการสื่อสาร-สร้างสัมพันธ์ในโลกธุรกิจและชีวิตส่วนตัว (Connect: Building Exceptional Relationships with Family, Friends and Colleagues)

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

David L. Bradford และ Carole Robin เขียน, สานุช ณ ถลาง แปล

คำโปรยปก

จากคอร์สเรียนยอดนิยมตลอดกาลของหลักสูตรปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สู่คู่มือเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งและทรงพลัง!

ความสัมพันธ์ที่ดีคือกุญแจของชีวิตที่ประสบความสำเร็จทั้งในโลกการทำงานและชีวิตส่วนตัว และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพก็คือหัวใจของทุกความสัมพันธ์ เดวิด แบรดฟอร์ด และ แคโรล โรบิน ผู้พัฒนาวิชา Interpersonal Dynamics หรือ Touchy-Feely ร่วมกันสกัดแก่นวิชาอันทรงพลัง ผสมผสานองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มาเป็นหลักการสื่อสารอย่างมี IQ – EQ เพื่อฝ่าทางตันและพิชิตยอดเขาแห่งความสัมพันธ์ ด้วยหลากหลายเคล็ดลับที่ใช้ได้จริง เช่น

  • วิธีเปิดเผยตัวตนและความเปราะบางด้วย “กฎ 15 เปอร์เซ็นต์”
  • การให้ฟีดแบ็กแบบ “ไม่ข้ามเส้น” และ “เจาะจงพฤติกรรม”
  • เทคนิคกะเทาะเปลือก “ความขัดแย้ง” เพื่อแก้ปัญหาฝังลึก
  • วิธีใช้ “อารมณ์” อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หนทางรักษา “สมดุล” และ “ขีดเส้น” ความสัมพันธ์

เพราะทุกความสำเร็จมีรากฐานจากความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน เจ้านายลูกน้อง หรือผู้บริหารธุรกิจ วิชาสานสัมพันธ์ จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีรักษา ต่อยอด เติมเต็มความสัมพันธ์ “แบบพิเศษ” เพื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์จากผิวเผินเป็นผูกพัน จากง่อนแง่นเป็นแข็งแกร่ง จากคู่แข่งเป็นคู่คิด และเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่มุ่งสู่เป้าหมายได้ด้วยการสื่อสารที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง

ทำไม HR ควรอ่าน?

งาน HR เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารสูงมาก หนังสือเล่มนี้คือคู่มือชั้นยอดที่ให้เทคนิคด้านการสื่อสารในระดับต่างๆ รวมถึงการสื่อสารในการทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รักษาความสัมพันธ์ และเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เช่น การให้ฟีดแบ็กอย่างตรงไปตรงมาและไม่ล้ำเส้น การสื่อสารเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง เป็นต้น

5. ตำรับด่วนซ่อมใจ (The Instant Mood Fix)

5 หนังสือแนะนำสำหรับคนทำงาน HR โดย Bookscape

Dr. Olivia Remes เขียน, สุญญาตา เมี้ยนละม้าย แปล

คำโปรยปก

เครียด ตระหนก วิตก ลังเลใจ อารมณ์อะไรก็ซ่อมได้!

จะดีแค่ไหนถ้ามียาขนานพิเศษที่ช่วยบรรเทาสารพัดอาการทางใจได้เหมือนที่เรากินยาแก้เจ็บป่วยทางกาย ดร.โอลิเวีย รีมส์ ระบุอารมณ์เชิงลบ 10 ประเภท ที่ปิดกั้นศักยภาพและกัดกร่อนจิตใจหากปล่อยให้เรื้อรัง ตั้งแต่ความรู้สึกถูกปฏิเสธ เหงา สิ้นหวัง กังวล ขาดแรงจูงใจ หรือรู้สึกท่วมท้นจนเกินรับไหว

ณ วินาทีที่อารมณ์ถั่งโถมเข้าใส่ ตำรับด่วนซ่อมใจ เล่มนี้ช่วยคุณได้ด้วย “ยาฉุกเฉิน” ชนิดอ่านจบในสองนาทีเพื่อกอบกู้ในกรณีวิกฤต สอดแทรกข้อมูลวิทยาศาสตร์เบื้องหลังสารพัดอารมณ์ พร้อมกลยุทธ์ระยะยาวที่เป็นดั่ง “วัคซีน” เพื่อรับมือและสร้างภูมิคุ้มกันในอนาคตด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณอาจคาดไม่ถึง เช่น ประโยชน์ของการ “ทำชุ่ยๆ” ไปก่อน วิธีกอบกู้ตัวเองผ่านการเขียน ฯลฯ

เพราะเราต่างมีวันที่หลงทาง หมดไฟ และใจพัง หนังสือเล่มนี้จะเป็นเสมือน “กล่องยาสามัญประจำใจ” ที่จะช่วยประคองคุณออกจากพายุทางอารมณ์ และพร้อมลุกขึ้นใหม่ด้วยใจที่แข็งแรงอีกครั้ง

ทำไม HR ควรอ่าน?

ปัญหาสุขภาพจิตเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญในองค์กรยุคใหม่ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนตำรับด่วนที่ให้เทคนิคเยียวยาจิตใจ ซึ่งหลายปัญหาในเล่มเป็นสิ่งที่คนทำงานน่าจะประสบพบเจอกันบ่อยครั้ง เช่น งานท่วมท้นจนรับมือไม่ไหว ตัดสินใจไม่ได้เด็ดขาด หรือภาวะหมดไฟขาดแรงจูงใจที่พบบ่อยในยุคนี้ การที่องค์กรมีนโยบายที่ช่วยดูแลใส่ใจพนักงานในด้านสุขภาพจิต ย่อมส่งผลดีต่อองค์กรในระยะยาว หนังสือเล่มนี้จึงนับเหมาะทั้งกับคนทำงาน HR รวมถึงเหมาะจะมีไว้ติดชั้นหนังสือในออฟฟิศด้วยเช่นกัน

ผู้เขียน

HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง