สรุปเรื่องที่ HR ต้องรู้จากเสวนา Sexy Employer : เคล็ดลับเสริมจุดเด่นขององค์กรเพื่อดึงดูด Talents

ช่วงต้นปีถือเป็นฤดูแห่งการเปลี่ยนงาน ซึ่งการที่ผู้สมัครงานจะเลือกสมัครงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ก็มักจะพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เช่นเงินเดือน, สวัสดิการ, โอกาสเติบโตทางอาชีพ, ความสอดคล้องกับ Career Path ที่วางเอาไว้ ฯลฯ ยิ่งเมื่อรวมกับสถิติล่าสุดที่ระบุว่าเรามีคนอยู่ในตลาดแรงงานน้อยกว่าที่เคย องค์กรต้อง “แย่งคนเก่ง” กันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

เหตุนี้เราจึงต้องถามตัวเองให้ดีว่าโครงสร้างของบริษัทที่เรามีอยู่นั้นโดดเด่นกว่าบริษัทคู่แข่ง หรือมีความน่าสนใจพอที่จะโน้มน้าวผู้สมัครให้เลือกทำงานกับเราหรือไม่ หากยังไม่แน่ใจ คุณคือกลุ่มเป้าหมายของงานเสวนานี้

Sexy Employer คืออะไร และจะช่วยให้องค์กรของเราโดดเด่นขึ้นได้อย่างไร หาคำตอบไปพร้อมกับวิทยากรชั้นนำอย่างคุณชัยวัฒน์ จุฑากรณ์ AVP of MINOR FOOD รับรองว่าเสวนานี้จะเปลี่ยนมุมมองของ HR ให้ทันสมัยและเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้นแน่นอน

สรุปเสวนา Sexy Employer

คุณชัยวัฒน์กล่าวว่ากระบวนการสรรหาบุคลากรในปัจจุบันน่าสนใจมาก ไม่เว้นแม้แต่ที่ Minor Food เอง ซึ่งกำลังเจอความท้าทายหลายต่อหลายอย่าง ในที่นี้เราต้องเข้าใจว่าแรงงานคนที่ดีคือรากฐานในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า  ไม่ว่าจะเป็นการขยายไปต่างประเทศ หรือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ดังนั้นองค์กรจึงจำเป็นต้องมี Talents และมีศักยภาพในการดึงดูดคนเก่งมาร่วมงานกับเรา

เขากล่าวเสริมว่าเวลาบริษัทจะขยายไปเปิดร้านในต่างจังหวัด ปัญหาของจังหวัดเหล่านั้นคือการมี Talent Pool เพียงแห่งเดียว คนเปลี่ยนงานกันง่ายมาก และการเปลี่ยนงานแต่ละครั้งก็เกิดผลกระทบตามมามากมาย ดังนั้นเราจะทำอย่างไรให้องค์กรของเรามีแหล่งของพนักงานเพิ่มมากขึ้น นี่คือคำถามสำคัญที่ต้องหาคำตอบและรับมือให้ได้

Minor มีรูปแบบการหาคนอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1. คนที่เดินเข้ามาสมัครงานกับเราและมีความสนใจในสินค้าของเรา
2. Minor จะไปร่วมเป็นพันธมิตรกับสถานศึกษาต่าง ๆ เพื่อนำเสนอให้เห็นว่าการทำงานกับไมเนอร์จะเกิดประโยชน์อย่างไร  โดยจุดเด่นคือไมเนอร์จะไม่ได้มองคนเป็นแรงงานทั่วไป แต่มองเป็น Future Leader ซึ่งแนวคิดนี้จะทำให้คนมองเห็น Career Path ชัดเจนขึ้น
3. Minor มี Youth Career Development Program คือการจ้างพนักงานที่มีอายุ 16-18 ปีมาเป็นพนักงานระยะสั้น (90 วัน) โครงการนี้จะช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน และช่วยลดการผูกมัดกับพนักงาน ทำให้บริหารจัดการเรื่อง Labor Workforce ได้ง่ายขึ้น

คุณชัยวัฒน์กล่าวเสริมว่า Minor Food ต้องการคนที่สามารถ Perform ตามแผนงานที่องค์กรวางแผน (Purpose) เอาไว้ได้ โดยไมเนอร์เปรียบว่าพวกเขาต้องการสร้างคนให้เป็นเสือ โดยมีการทำโครงการที่เรียกว่า Tiger Award หมายความว่าคน ๆ นั้นจะต้องมีความคล่องแคล่วว่องไว (Agility), ปรับตัวได้ดี, มีสัญชาตญาณของนักสู้ (Hunting) นี่คือคาแรกเตอร์ที่ไมเนอร์อยากให้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกคน เพราะโลกของไมเนอร์เปลี่ยนเร็วมาก, มีความแตกต่าง, มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากตลาดนี้ถือเป็น ‘Super Red Ocean’ หากเราไม่เข้าใจตรงนี้ เราก็จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของท้องตลาดได้อย่างที่ตั้งใจ

คนในปัจจุบันอยากทำงานในองค์กรีที่ทำให้เขารู้สึกมีตัวตน รู้สึกว่าตนมีคุณค่า (Meaningful) ความเซ็กซี่ของไมเนอร์จึงเป็นความเข้าใจว่าพนักงานต้องการอะไร และสามารถเป็นเวทีให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพเหล่านั้นออกมา ในที่นี้องค์กรต้องเข้าใจว่าบริษัทไม่ได้เป็น “ผู้เลือก” เพียงอย่างเดียว แต่ Talent ก็เป็นคนเลือกองค์กรด้วย และพอเราหาคนเก่งมาได้แล้ว เราก็ต้องมาคิดต่อว่าเราจะรักษา (Retention) คนเก่งได้อย่างไร, ปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรได้อย่างไร เป็นต้น

ผู้บรรยายกล่าวว่าหากองค์กรต้องการก้าวไปเป็น Sexy Employer เราต้องเริ่มจากการตอบให้ได้ก่อนว่าเป้าหมายคืออะไร (Stand For What?) เมื่อรู้แล้ว คนที่ใช่ก็จะเดินมาหาเรา ซึ่งถือเป็นการกรองในระดับหนึ่ง จากนั้นก็วางแผนนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายนั้น อย่างที่ไมเนอร์มี Flexible Work Arrangement คือเข้างานกี่โมงก็ได้ขอให้ครบ 8 ชั่วโมง ไม่ได้เป็น Hybrid Working อย่างที่องค์กรอื่น ๆ เป็น

แต่นโยบายเหล่านี้มาจากการเลือกสิ่งที่เหมาะกับกระบวนการทำงานและวิถีชีวิตของพนักงานจริง ๆ ไม่ได้ทำเพียงเพราะเห็นว่าองค์กรอื่นทำแล้วก็อยากทำตาม นอกจากนี้คนของไมเนอร์จะมีความเป็น Entrepreneurship สูงมาก เพราะองค์กรจะให้โอกาสพนักงานทำเต็มที่ สามารถทำผิดพลาดได้ ทุกคนสามารถเรียนรู้ไปด้วยกัน และช่วยกันแก้ไขไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นเป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ตามต้องรู้ว่า Key Learning ของความผิดพลาดนั้น ๆ คืออะไร ผ่านการคิดแบบ Design Thinking ที่ไมเนอร์จะปลูกฝังให้กับพนักงานทุกระดับ

ผู้บรรยายปิดท้ายด้วยการพูดถึงวัฒนธรรมของการร่วมมือกัน (Collaboration) ซึ่งไมเนอร์เป็น Flat Organization ไม่ได้มีลำดับขั้น (Hierarchy) พนักงานสามารถพูดคุยกับหัวหน้างานหรือผู้บริหารเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลย องค์กรที่เซ็กซี่จึงจำเป็นต้องเป็นพื้นที่ให้คนรู้สึกสบายใจในการเสนอมุมมองของตนออกมา กล่าวโดยง่ายว่าแนวคิดเหล่านี้จะนำไปสู่ Sense of Ownership ได้นั่นเอง

ถ้าองค์กรอยากเป็น Sexy Employer ดูบ้าง จะต้องทำอย่างไร? ผู้บรรยายกล่าวว่าเราต้องทำดังนี้

1. ต้องรู้จักเป้าหมายขององค์กร (Purpose) : ดูว่าองค์กรมีจุดเด่นอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นบ้าง และจุดเด่นนั้นจะทำให้คนเก่งหันมาสนใจได้อย่างไร
2. ต้องไม่เลียนแบบคนอื่น เพราะจะทำให้เราขาดจุดเด่น ไม่น่าสนใจ
3. ต้องมีวิธีคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสม เช่นหากเรารู้ว่าผู้สมัครต้องการความรวดเร็ว แต่เราไปคัดเลือกด้วยกระบวนการแบบ Tradition ที่ใช้เวลานาน ผู้สมัครก็จะไม่รอเรา

คุณชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่างาน HR เป็นงานที่ท้าทายมากในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาพนักงาน, การดูแลพนักงาน ดังนั้นเขาจึงอยากให้กำลังใจด้วยการอธิบายว่างาน HR ต้องใช้ทักษะทั้งเรื่องทั่วไปและต้องมีความเห็นอกเห็นใจพนักงานไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญเราต้องหมั่นให้กำลังใจตัวเองด้วย เช่นหากเราเห็นว่าพนักงานกล้าที่จะมาพูดคุยกับพวกเรา ก็ถือว่าเราทำหน้าที่ HR ได้ดีแล้ว เป็น HR Professional ที่มีศักยภาพเพียงพอแล้ว การเชื่อมั่นในตัวเองจะทำให้เราเป็น HR ที่ก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปได้แน่นอน

Minor Food เลือกใช้คำว่า Sexy Employer เพราะเป็นคำที่คนตีความได้ง่าย ไม่ใช่คำที่ Traditional แต่เป็นคำที่ทันสมัย ดูโฉบเฉี่ยว สามารถสะท้อนให้คนรุ่นใหม่รู้สึก “สนุก” ไม่ซ้ำเดิม ถือเป็นคำที่ไมเนอร์หยิบมาเป็นกิมมิคน่ารัก ๆ เพื่อสะท้อนถึงความร่วมสมัยเข้ากับโลกการทำงานในปี 2024 นั่นเอง