สรุป HR of the Future Class #1 : Future World โลกอนาคตที่ HR ต้องรู้

HIGHLIGHT 

  • คอร์ส HR of the Future ให้ความสำคัญกับประเด็น Generative AI จะกระทบเรื่องของคนเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง Work Flow ไปจนถึงผลกระทบต่อค่าแรงขั้นต่ำ ฉะนั้นทักษะที่สำคัญสำหรับ HR หรือ People Leader ยุคใหม่จึงต้องมองเห็นอนาคต เข้าใจเทรนด์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี
  • เมื่ออนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน CHRO หรือ CPO ในอนาคตจะไม่สามารถทำงาน Operation Task แบบเดิม ๆ อย่างเดียวอีกต่อไป โดยจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นมือขวาของ CEO ด้านทรัพยากรมนุษย์และวัฒนธรรมองค์กร
  • Impact = Process + People + Tech สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นประยุกต์ใช้ AI กับองค์กร โดยสามารถเริ่มต้นแค่เลือก Task บาง Task หรืองานบางงานมาทดลองใช้ AI เพื่อทำความเข้าใจกับมันอย่างแท้จริง

HR of the Future Class 1 Future World

เริ่มต้นขึ้นแล้วกับคอร์ส HR of the Future รุ่นที่ 1 จาก Disrupt หลักสูตรเข้มข้น 5 สัปดาห์ ที่ครอบคลุมทุกเรื่องสำหรับ People Leader และ HR ยุคใหม่ ออกแบบหลักสูตรโดย Co-Deans ทั้งสองท่าน คุณกระทิง – เรืองโรจน์ พูนผล Group Chairman, KBTG และ คุณเจี๊ยบ – กานติมา เลอเลิศยุติธรรม

ประเดิมการบรรยายวันแรกกับหัวข้อ Future World​ โลกอนาคตที่เราทุกคนกำลังจะเผชิญหน้า เมื่ออนาคตเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเสมอ

นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ HR และ People Leader ในทุกองค์กรต้องตั้งรับให้ทัน ซึ่ง HREX สรุปมาให้แล้ว ดังนี้

HR of the Future Class 1 Future World

จับตา HR of the Future เมื่อ AI สั่นสะเทือนโลกการทำงาน

คุณกระทิง เล่าให้ฟังถึงเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะยุค AI ที่ Chat-GPT มีจำนวนผู้ใช้งาน 100 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน เร็วกว่า TikTok ที่ใช้เวลา 9 เดือน ซึ่งเขาคาดการณ์ว่า ในอนาคตจะมีเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เวลาสั้นลงเรื่อย ๆ เสมอ

นี่จึงเป็นสัญญาณของการมาถึงของยุค AI ที่มันจะไม่ใช่ไฟฟ้า แค่คืออากาศที่ขาดไม่ได้ (AI Won’t be Electricity But AI Will be AIR)

ทั้งนี้ Generative AI จะกระทบเรื่องของคนเป็นอย่างมาก โดยผู้ที่ใช้งาน AI เป็นจะเข้ามาช่วยปลดล็อกความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น ช่วยทำบทความ ทำภาพ ทำวิดีโอ หรือกระทั่ง Programmer ที่ทำงานร่วม AI จะลดเวลาการทำงานลง 55% แต่เพิ่ม Productivity และยังลดต้นทุนด้วย

ขณะที่กลุ่ม Job Automation จะถูกกลืนไปราว 63% เพราะงานบางงาน AI สามารถเข้ามาแทนที่ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ เพราะคนที่ใช้งาน AI เป็น จะเข้ามาแทนคนที่ใช้งาน AI ไม่เป็นต่างหาก

สิ่งเหล่านี้จะกระทบเรื่อง WorkFlow อย่างมหาศาลในองค์กร และมีผลต่อค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน ฉะนั้นทักษะที่สำคัญสำหรับ HR หรือ People Leader ยุคใหม่จึงต้องมองเห็นอนาคต เข้าใจเทรนด์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยีนั่นเอง

HR of the Future Class 1 Future World

ความท้าทายของผู้นำแห่งอนาคต

อนาคตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทั้งเรื่องเทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม, ความคาดหวังของสังคม, ความตึงเครียดทางการเมือง, การแข่งขันทางธุรกิจ, วัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป, การบริหารคนต่างเจนฯ รวมไปถึงความเสี่ยง Black Swan โดยเฉพาะความปลอดภัยทางไซเบอร์

สอดคล้องกับการสำรวจ CEO จาก Asia Pacific ที่คาดการณ์ว่าปี 2023-2024 จะเป็นปีที่มีการเติบโตต่ำที่สุด ทั้งนี้ปัญหาหลักขององค์กรยังเป็นเรื่องพื้นฐานอย่าง พฤติกรรมของพนักงานไม่สอดคล้องกับ Company Value หนำซ้ำยังมีความท้าทายจากภายนอกมากมาย เช่น เรื่อง ESG, Sustainability และ DEI 

นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า มีพนักงานเพียง 57% ที่มีความสุขกับงาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขเรื่องเงิน การเติมเต็ม (Fulfilling) หรือการทำงานที่มีความหมาย สอดคล้องกับเป้าหมายตัวเอง

ฉะนั้นผู้นำในอนาคตจะต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความคาดหวังของพนักงานที่เพิ่มขึ้นในเรื่องค่าตอบแทนที่ยุติธรรม งานที่มีความหมาย ความน่าเชื่อถือ และความไว้ใจต่อโลกไฮบริด

พนักงานคาดหวังให้ผู้นำยุคใหม่มีชุดทักษะและความคิดใหม่ๆ ทั้งยังคาดหวังให้ท้าทายชุดความคิดเดิม ๆ ที่เราใช้ในโลกการทำงานมานานหลายทศวรรษ เช่น โครงสร้างองค์กรแบบดั้งเดิม หรือการสั่งงานแบบควบคุม

ฉะนั้นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในอนาคตจะคัดเลือกและดูแลผู้นำเหล่านี้ และลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาความเป็นผู้นำ โดยเฉพาะผู้จัดการระดับกลาง ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้การจัดการแบบผสมผสานและยืนหยุ่นให้เกิดขึ้นจริงภายในทีม

HR of the Future Class 1 Future World

อนาคต CHRO / CPO หน้าตาประมาณไหน ?

ในเมื่ออนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน HR ต้องสามารถสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมต้นทุนที่ต้องใช้ไป กับการรักษาทาเลนท์และการใช้เทคโนโลยีในองค์กร เพราะการทำหน้าที่ Operation Task แบบเดิม ๆ อย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป CHRO/CPO จะต้องสามารถเป็นมือขวาของ CEO ในด้านทุนมนุษย์และวัฒนธรรมองค์กร ดังนี้

1. HR ต้องเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนธุรกิจ

หลาย ๆ CHRO หรือ CPO เป็น Business Operation มาก่อน เพราะต้องสร้าง Business Acumen และ Business Strategy Development ฉะนั้น HR จึงต้องเข้าใจ Business Model เพื่อพูดภาษาเดียวกัน หรือเข้าใจว่าองค์กรของเรา ให้ Value อะไรอยู่

2. HR ต้องแนะนำ CEO และบอร์ดบริหารเรื่องคนและวัฒนธรรมได้

ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ CEO ได้ โดยเฉพาะมุมมองเรื่องของคนและวัฒนธรรมองค์กร เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ รวมไปถึงยังสามารถเป็นที่ปรึกษากับบอร์ดบริหารในการหาผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO และ C-Level ต่อไปได้อีกด้วย

3. HR ต้องเอาชนะใจ Talent

ไม่เพียง HR ต้องหาบุคคลากรที่ right role, right people, at right time เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจ แต่ยังต้องนำพนักงานที่มีความสามารถ (Talent) มาบูรณาการใน Business Strategy ที่สำคัญต้องน้อมรับ DEI และนำเสนอคุณค่า (Value) ของงานให้พนักงานเข้าใจ เหมือนที่ KBTG ออกแบบ Employee Value ว่า Treat EMPLOYEE like CUSTOMER แม้ลูกค้าคือพระเจ้า แต่พนักงานคือทุกสิ่ง

4. HR ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ขององค์กร

HR เข้าไปอยู่ใน Employee Cycle เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงองค์กรร่วมกัน และอำนวยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และรวดเร็ว สร้างความคล่องตัวและความสามารถในการฟื้นตัวขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจต่อไป

5. HR ต้องเข้าใจสถานการณ์ของ Stakeholder

HR ต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก ส่งเสริมความต้องการของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และจัดการตัวชี้วัดขององค์กรให้สอดคล้องไปกับความคาดหวังภายนอก อาทิ การต้องเข้าใจเรื่อง AI Adoption เพื่อกลับมา Rethink Organizational Process สร้าง Task ใหม่ โอกาสใหม่ และงานใหม่ที่มีศักยภาพมากขึ้น

6. HR ต้องเป็นที่ปรึกษาและโค้ชที่ไว้ใจได้

นับเป็นข้อที่สำคัญที่สุด เมื่อ HR ต้องสามารถให้คำแนะนำ CEO ถึงการมี Leader Style ต้องการเถียง กล้าพูด และกล้าทำ สร้างความไว้วางใจให้กับเหล่าผู้นำ ผ่านการให้ข้อมูลเชิงลึกและข้อเสนอแนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับองค์กร

HR of the Future Class 1 Future World

บทสรุป

ถึงแม้หลายองค์กรมักวางเรื่อง “คน” ไว้เป็น Priory หลัง ๆ เสมอ แต่เราอยากให้ปรับ Mindset ใหม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงองค์กรจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากคน โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเติบโต

Impact = Process + People + Tech

สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นประยุกต์ใช้ ขอเพียงแค่ HR เลือก Task บาง Task หรืองานบางงานที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้ AI ทดลองใช้เพื่อทำความเข้าใจกับมันอย่างแท้จริง

ท้ายที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าโลกการทำงานอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปทิศทางใด หรือหน้าตาเป็นแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ โลกการทำงานได้เปลี่ยนไปแล้ว

แล้วทำไม HR ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง ?

สำหรับใครที่สนใจหลักสูตร HR of the Future สามารถติดตามรายละเอียดได้และสมัครแสดงความสนใจรุ่นที่ 2 ได้ที่ https://uhvug5i4sgr.typeform.com/hrofthefuture2 และ https://www.disruptignite.com/hrofthefuture 

5 เหตุผลที่ควรใช้ Disrupt Corporate Program เทรนนิ่งยุคใหม่ ที่ช่วยเปลี่ยนผ่านองค์กรอย่างแข็งแกร่งจากภายใน

ผู้เขียน

Sahatorn Petvirojchai

Sahatorn Petvirojchai

Manager of HREX.asia who works in media platforms for a long time. Interested in Global Culture, Marketing, and Self Development.

บทความที่เกี่ยวข้อง