เคยตั้งคำถามไหมว่าในโลกหลังโควิด-19 ที่รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราจะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่างไร ?
Conicle เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ และเชื่อมั่นว่ามนุษย์สามารถพัฒนาจากจุดเล็ก ๆ ไปยังจุดที่ใหญ่ขึ้นได้หากมีบางอย่างมากระตุ้น (Ignite) ให้เกิดกระบวนการเรียนรู้จนสามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้ (Enable) ทั้งนี้การเรียนรู้แต่ละครั้งไม่ได้มีประโยชน์แค่จากการทำตามเป้าหมายสำเร็จเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ที่ได้ระหว่างทาง (Journey) จากการเป็นคนช่างสังเกตและรู้จักตั้งคำถาม (Curiously) ดังนั้นการเรียนรู้จึงไม่มีวันสิ้นสุดตามเทรนด์ที่เรียกว่า Lifelong Learning
เหตุนี้ Conicle จึงมุ่งพัฒนาแฟลตฟอร์มและโซลูชั่นด้านการเรียนรู้สำหรับองค์กรขึ้นมา โดยตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมโมเดลแห่งการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากรยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่องด้วยการสร้างช่องทางเรียนรู้แบบครบวงจร (Total Learning Solutions) ตอบโจทย์ทั้งองค์กรและบุคคลทั่วไป พร้อมต่อยอดจาก HRTech ไปสู่ PeopleTech โดยตั้งเป้าเติบโตอีก 10 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า
สิ่งที่ HR ต้องรู้จากงานแถลงข่าวมีอะไรบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่
เทรนด์การเรียนรู้ในปัจจุบันเป็นอย่างไร
ปัจจุบันเป็นยุคที่ข้อมูล (Data) ขยายตัวเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของมนุษย์ไปแล้ว พิสูจน์ได้จากที่เราสามารถหาข้อมูลทุกอย่างได้ด้วยปลายนิ้วบน Search Engine หรือการใช้ตัวช่วยนำทางอย่าง Google Map ทั้งนี้มีสถิติที่น่าสนใจบอกว่ามนุษย์ยุคปัจจุบันจะต้องเปลี่ยนงานราว 7 ครั้ง และมีถึง 5 ครั้งที่เป็นอาชีพซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นี่คือเหตุผลที่คนต้อง Reskill และ Upskill อยู่ตลอดเวลา เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็วกว่าที่เคยเป็นในอดีต มนุษย์จึงต้องรู้จักปรับตัว (Adaptation) และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ อย่างไรก็ตามแม้รูปแบบงานจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่รากฐานทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือการสร้างที่ทำงานที่ดีสำหรับทุกฝ่าย (The Best Place to Work) ภายใต้แนวคิดว่าองค์กรที่ดีจะเป็นรากฐานที่ทำให้สังคมดีขึ้น
องค์ประกอบของการเรียนเรียนรู้ (Learning Elements) มีอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ผู้เรียน, กระบวนการ, ผลลัพธ์ โดยสิ่งที่ Conicle กำลังทำคือการพัฒนา ‘กระบวนการ’ (ขั้นตอนตรงกลาง) เพราะเป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง และมีผลโดยตรงต่อการสร้างแรงบันดาลในการเรียน
คนมักมีข้ออ้างที่ทำให้ไม่กล้าไปแตะกระบวนการเรียนรู้ โดยอุปสรรค (Obstacles) หลักคือเรื่องของเวลา ทั้งนี้ Conicle ได้ทำวิจัยและพบว่าการทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม (Engagement) จะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 7 เท่า ซึ่งการสร้างพฤติกรรม (Behavior) ตรงนี้มีองค์ประกอบคือแรงบันดาลใจ (Motivation) + ทักษะ (Ability) + สิ่งกระตุ้น (Trigger) ดังนั้นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ (Learning Experiences) ที่ดีคือกลไกที่มองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด
McKinsey กล่าวว่า องค์กรจะประสบความสำเร็จมากขึ้น 2.5 เท่า หากเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) แต่การเรียนรู้แบบเดิม ๆ มักถูกมองว่าน่าเบื่อ ไม่ดึงดูด ทาง Conicle จึงใช้วิธีเปลี่ยนห้องเรียน (Class) เป็นสนามเด็กเล่น (Playground) คือการช่วยให้ทุกคนเรียนไปด้วยเล่นไปด้วย (Play & Learn) ส่งผลให้การเรียนรู้กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกวันโดยธรรมชาติ ไม่รู้สึกกดดันอีกต่อไป
นอกจากนี้ Workplace Learning ในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปมาก โดย Conicle ได้ทำแบบสำรวจและพบสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนรู้ในที่ทำงานว่าเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว, ความซับซ้อนทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปจนโมเดลธุรกิจต่าง ๆ เข้าใจได้ยากขึ้น, ความหลากหลายในที่ทำงาน ทั้งด้านอายุ เชื้อชาติ ทัศนคติ และท้ายสุดคือเรื่องการจัดสมดุลชีวิต (Work Life Balance)
ในที่นี้แม้ความต้องการเรียนรู้ของแต่ละคนแม้จะมีเป้าหมายเหมือนกัน แต่วิธีที่ใช้เรียนรู้นั้นอาจแตกต่างกันได้ เราจึงต้องเรียนรู้ว่าผู้เรียนมีลักษณะนิสัยอย่างไร มีความต้องการแบบใด และหาวิธีนำเสนอให้ตอบโจทย์ดังกล่าวมากที่สุด (Personalization)
เหตุผลเหล่านี้ทำให้ Conicle มองว่า Lifelong Learning เป็นตลาดใหญ่มาก แถมยังเป็นตลาดใหม่ที่ไม่ได้เข้าไปทดแทนตลาดเก่า เพราะโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีตลาดใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา และแม้จะเป็นคนที่เรียนจบปริญญาแล้วก็ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาเช่นกัน
จุดเด่นของ Conicle คือเป็นรายเดียวในตลาดที่นำเสนอ Total Learning Solutions ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรครอบคลุม 3 บริการได้แก่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ (Learning Experience Platform), คอนเทนต์การเรียนรู้ (Learning Experience Content), บริการที่ปรึกษาให้คำแนะนำและออกแบบการเรียนรู้ (Learning Experience Service) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่ง หรือหาแนวทางให้ลูกค้าใช้แพลตฟอร์มอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด