HIGHLIGHT
|
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนกระบวนการทำงานของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิง และหนึ่งในนั้นคือการเกิดขึ้นของ Workation หรือ Workcation เทรนด์การทำงานแบบใหม่ที่เปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวให้กลายเป็นที่ทำงาน ผ่านการเที่ยวไปด้วย ทำงานไปด้วย ตามผลกระทบของรูปแบบ Work From Anywhere
ในฐานะคนทำงานย่อมเป็นเรื่องดีที่อิสระมากขึ้น ขณะที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR ผู้ต้องรับหน้าที่ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์กลับต้องคิดหนักว่าจะรับมือกับเทรนด์การทำงานรูปแบบนี้ยังไง เพื่อรักษาความมีส่วนร่วมและความผูกพันกับองค์กรให้คงอยู่ พร้อมทั้งรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีเหมือนเดิม
บทความนี้จึงจะพูดถึงเทรนด์ Workation ที่เกิดขึ้นว่าจะกระทบองค์กรอย่างไรบ้าง ข้อดี-ข้อเสียของ Workation ประโยชน์ของ Workation ต่อพนักงาน และการปรับตัวที่องค์กรต้องเข้าใจ
Contents
Workcation คืออะไร
อธิบายแบบง่าย ๆ Workation คือรูปแบบการทำงานที่ทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย เป็นรูปแบบการทำงานที่เลือกได้ว่าจะทำงานจากที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ เป็นการทำงานที่อิสระเช่นเดียวกับ Work From Anywhere เพียงแต่ว่า Workation จะอนุญาตให้พนักงานท่องเที่ยวพักผ่อนไปในเวลาเดียวกัน ไม่ได้นั่งทำงานเคร่งเครียดอย่างเดียว
คำว่า Workation หรือ Workcation มาจาก WORK (ทำงาน) + VACATION (ท่องเที่ยว) เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาสักระยะแล้ว เพียงแต่ว่าในประเทศไทยอาจจะยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่เพราะยังเป็นเรื่องใหม่ โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ทุกองค์กรปรับเปลี่ยนการทำงานจากการเข้าออฟฟิศเป็นทำงานที่ไหนก็ได้แทน พนักงานจึงเลือกทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วยกันมากขึ้น
ทำไม Workation กลายเป็นเทรนด์ในการทำงานยุคใหม่
หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่กันหมด รวมไปถึงวิถีการทำงานที่กลายมาเป็น Work at Home อย่างไรก็ตาม การทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียวก็มีข้อเสียตามมามากมายเช่นกัน เช่น ประเด็นทางจิตใจที่ห่อเหี่ยว ความไม่สะดวกภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งภาระหน้าที่อื่นที่ต้องทำ ฯลฯ ซึ่งหลังจากสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายและหลายคนได้รับวัคซีนมากขึ้น ทำให้เกิดการต่อยอดเป็น Work From Anywhere สอดรับกับเทรนด์ Workation ที่มีมานานในประเทศมาก่อนแล้ว กลายเป็นว่า Workation ก็ได้รับการพูดถึงในวงกว้างมากขึ้น
เช่นเดียวกับรายงานของ Booking.com ในปี 2020 ที่เก็บสำรวจจากนักเดินทาง 20,000 คนจาก 28 ประเทศทั่วโลกพบว่า 37% ของผู้เดินทางทั่วโลกตัดสินใจเดินทางไปที่อื่นเพื่อทำงานแบบฉบับ Workation โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่ตัวเลขสูงที่สุดถึง 42% จากผลสำรวจทั้งหมด
เทรนด์ดังกล่าวทำให้หลายประเทศริเริ่มนโยบายเพื่อสนับสนุนการ Workcation นักท่องเที่ยว (และคนทำงาน) จากชาติอื่นมากขึ้น ยกตัวอย่าง ประเทศดูไบที่เปิดโครงการวีซ่า 12 เดือนสำหรับผู้ที่จะเข้ามา พร้อมทั้งสนับสนุนและบริการการใช้ co-working spaces อย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดคนเข้ามาในประเทศ
ประกอบกับข่าวในปี 2021 ที่ Holidu’s Workation Index จัดอันดับเมืองที่เหมาะสำหรับ Workation มากที่สุดประจำปี 2021 (The Best Citities for a Workation 2021) ซึ่งอันดับที่ 1 ก็คือ กรุงเทพมหานคร นี่เอง กระทั่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ริเริ่มโครงการ Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศเลยทีเดียว
10 อันดับเมืองที่เหมาะสำหรับ Workation ที่สุดในโลก ปี 2021
- กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
- นิวเดลี ประเทศอินเดีย
- ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
- บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
- บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา
- บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
- มุมไบ ประเทศอินเดีย
- อิสตันบูล ประเทศตุรกี
- บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
- ภูเก็ต ประเทศไทย
ที่มา: mgronline.com
ข้อดีและข้อเสียของ Workcation
ข้อดีของ Workation
- การเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และไม่ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย
- มองเห็นงานในอีกมุมมองซึ่งจะช่วยให้พัฒนาปรับปรุงงานตัวเองให้ดีขึ้น
- ช่วยลดระดับความเครียดโดยไม่ต้องลางาน
- จัดสรรเวลาทำงานได้อย่างอิสระ
- สามารถพบปะผู้คนใหม่ ๆ ที่ทำงานในลักษณะ ตำแหน่ง หรือรูปแบบคล้าย ๆ เพื่อเรียนรู้และปรึกษาซึ่งกันและกัน
- ได้พบวัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้
- ประสบการณ์การเดินทางจะทำให้เติบโตในชีวิตส่วนตัว
- มีผลงานวิจัยมากมายที่บอกว่า การทำงานทางไกลช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้
- หากพนักงาน Workcation ด้วยกันเป็นหมู่คณะ ก็จะสร้างทีมสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นได้
- เป็นแรงจูงใจชั้นดีในการดึงดูดผู้สมัครงานใหม่และรักษาพนักงานเดิมในการอยู่ต่อกับองค์กรของเรา
ข้อเสียของ Workation
- ไม่ใช่ทุกงาน ทุกตำแหน่งที่สามารถ Workcation ได้ โดยเฉพาะงานบริการและงานที่ต้องใช้กำลัง
- อาจไม่เหมาะสำหรับบางคน โดยเฉพาะคนที่ต้องการสมาธิในการทำงานแบบไม่มีสิ่งรบกวน
- มีค่ายใช้จ่ายในการเดินทาง รวมไปถึงความต้องการทางเทคโนโลยี เช่น สัญญาอินเทอร์เน็ตไวไฟ, คอมพิวเตอร์แลปท็อป หรือแม้กระทั่งวีซ่าหากจะเดินทางไป Workation ต่างประเทศก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน
- การติดต่อสื่อสารลำบากหากไม่มีเทคโนโลยีรองรับ โดยเฉพาะการประชุมออนไลน์ที่มักจะสร้างปัญหามากกว่าประสบผลสำเร็จ
- การทำงานอาจทำลายความรู้สึกพักผ่อน จนไม่สามารถผ่อนคลายหรือสนุกกับ Workcation ได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้นหากแบ่งเวลาการทำงานไม่ได้ ก็จะสูญเสียเวลาอันมีค่านี้ไป
Workation เป็นเครื่องมือในการสร้าง Team Building ได้
Workation ไม่จำเป็นต้องให้ต่างคนต่างไป องค์กรเองก็สามารถจัดนโยบาย Workcation ได้แบบบหมู่คณะ เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารจัดกลุ่มไปทำงานกันเองได้อิสระ เครื่องมือนี้แตกต่างจาก Company Outings ที่ลักษณะแกมบังคับ และเป็นการไปเพื่ออบรม สังสรรค์ หรือทำกิจกรรมมากกว่านั่งทำงานจริง ๆ
ทั้งนี้ หากองค์กรต้องการ Workation เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างทีมสัมพันธ์ เรามีเหตุผลหลัก ๆ 6 ข้อมาช่วยสนับสนุนให้องค์กรของคุณน้อมรับนโยบาย Workation ไปพิจารณาดังนี้
1. พนักงานจะรู้จักกันมากขึ้น
การเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกันจะสร้างโอกาสให้พนักงานเปิดใจ ซึ่งถึงแม้จะมีงานวิจัยบอกว่า การมี “เพื่อน” ในที่ทำงานจะเพิ่มระดับความพึงพอใจ เพิ่มการักษาพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น แต่ลองคิดดูว่าเรามีเพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตร เราจะมีความสุขขนาดไหนในทุกเช้าแห่งการทำงาน
2. ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น
การพาตัวเองออกจากบริบทเดิม ๆ จะช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์พุ่งทยายจนสามารถคิดไอเดียใหม่ ๆ กลยุทธ์ใหม่ ๆ ได้ รวมไปการร่วมกลุ่มกันก็จะเกิดการปะทะสังสรรค์ของความคิดที่จะต่อยอดกันไปมาจนเกิดความคิดที่ดีที่สุดออกมานั่นเอง
3. ประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
Workcation จะช่วยตัดสิ่งรบกวนในออฟฟิศออกไป เช่น การประชุม การพบปะผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ฯลฯ ทำให้พนักงานมีโฟกัสในการทำงานมากขึ้น เช่นเดียวกัน ก็จะโฟกัสกับการพักผ่อนได้เต็มที่ ทำให้การท่องเที่ยวเปรียบเสมือนการชาร์จพลัง เพราะหลังกลับจาก Workation ยังช่วยจิตใจและร่างกายของคุณพร้อมทำงานในออฟฟิศต่อไป
4. เปิดมุมมองใหม่
การเปลี่ยนสถานที่ทำงานทำให้เกิดบรรยากาศใหม่ ๆ ในบทสนทนา ช่วยให้เกิดแนวคิดที่แตกต่างไปจากการนั่งประชุมในห้องออฟฟิศ เราอาจจะได้เห็นมุมมองอื่นของเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ก็ได้
5. ผ่อนคลายมากขึ้น
ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักและมีประสิทธิภาพเพียงใด สมอง ร่างกาย และจิตใตของคุณต้องการพักผ่อน Workation จะช่วยบาลานซ์ไม่ให้คุณละเลยสุขภาพของตัวเอง การปล่อยตัวเองช้าลงบ้างเพียงสัปดาห์เดียว จะช่วยให้พนักงานปลดปล่อยความตึงเครียดได้
6. แรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น
ทีงานวิจัยว่าพนักงานที่ไม่มีแรงจูงใจในการทำงานจะสูญเสียประสิทธิภาพลง 31% ความคิดสร้างสรรค์ลดลง 3 เท่า และ 87% ตัดสินใจลาออก และแรงจูงใจที่ดีที่สุดก็คือแรงจูงใจภายใน ดังนั้นนโยบาย Workation จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสร้างแรงจูงใจที่นอกเหนือไปจากโบนัสหรือค่าตอบแทน เพราะมันให้ได้ทั้งความยืดหยุ่นในการทำงาน ความอิสระ การเรียนรู้ใหม่ๆ และบรรยากาศความรื่นรมย์ เราจึงสามารถสร้าง Team-Building ผ่าน Workation ได้
ถ้าองค์กรอยาก Workation ต้องเตรียมตัวอย่างไร
สำหรับองค์กรที่พิจารณานโยบาย Workation แล้วเกิดสนใจ เรามีเทคนิคการเตรียมตัวพื้นฐานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้แบบง่าย ๆ ได้ดังนี้
1. สนับสนุน Workation สำหรับการสร้าง Team-Building – ย้ำแล้วย้ำอีกกับประโยชน์ของ Workation ที่สามารถสร้างนโยบายในการทำงานเป็นทีมได้ ไม่เพียงจะเพิ่มความสนุกสนานร่วมกัน ยังส่งเสริมให้สายสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วย
2. ปรับปรุงนโยบายวันหยุดงาน – จริง ๆ แล้ว Workation ก็คือการไปทำงานเหมือนกันจึงไม่ควรกระทบกับนโยบาย ควรจัดการแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างนโยบาย Workation และนโยบาย Vacation เพื่อป้องกันการสับสน และเปิดโอกาสให้พนักงานได้หยุดพักผ่อนแบบจริง ๆ รวมไปชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นด้วย
3. เตรียมเทคโนโลยีให้พร้อม – ทั้งเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงาน และเทคโนโลยีในการประเมินผลและวัดผลปฏิบัติงาน เนื่องจากองค์กรยังต้องเห็นผลลัพธ์ในการทำงานที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้นการ Workation ก็จะเปล่าประโยชน์
4. กำหนดเป้าหมาย โครงการ หรือแผนการทำงานที่ชัดเจน – เพราะ Workation ไม่ใช่การท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างเดียว แต่คือการทำงานด้วย จึงต้องมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การทำโปรเจกต์ใดโปรเจกต์ให้สำเร็จ,การสร้างแคมเปญการตลาดใหม่ ฯลฯ ฉะนั้นอย่าหลุดโฟกัสเรื่อผลลัพธ์ของงานเด็ดขาด
บทสรุป
Workation หรือการทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในโลกการทำงาน ที่ทุก ๆ องค์กรสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็นเครื่องมือที่สร้างทีมสัมพันธ์และรักษาพนักงานคนเก่งให้ยังอยู่กับองค์กรของเราได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
ถึงแม้ในประเทศไทยจะยังเป็นเทรนด์ใหม่ แต่ต่างประเทศเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติกันแล้ว ทำให้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Workation ที่ยังให้พวกเราศึกษากันอีกสารพัด เพื่อนำมาสร้างสรรค์นโยบายที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ
Workation จึงมีเรื่องราวให้น่าค้นหาอีกมากมาย และยังรอให้ทุกองค์กรน้อมรับเทรนด์นี้อยู่