“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

HIGHLIGHT

  • เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย มีโครงสร้างองค์กรที่ฝ่าย HR อยู่ภายใต้ผู้บริหารด้านการเงินและบริหารกลาง ซึ่งคุณประวินทร์ คุโรวาท มองว่าเป็นข้อดี เพราะสามารถบริหารองค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ง่ายขึ้น
  • แม้จะต้องบริหารทั้งเงินและคน แต่คุณประวินทร์มองว่า คนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดขององค์กร เพราะคนคือฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและต่อยอดให้ทรัพยากรด้านอื่นๆ ขององค์กรเติบโตต่อไป
  • คุณประวินทร์มองว่า HR มีบทบาทสำคัญมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพราะ HR ที่เจียไต๋มีพันธกิจหลักคือการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจด้วยคนของเจียไต๋ที่เรียกว่า เจียไต๋แมน ตั้งแต่การเลือกสรรคนดีและคนเก่ง พัฒนาให้มีศักยภาพในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

เราได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า HR ไม่ใช่งานหลังบ้านอีกต่อไป แต่ต้องประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อสนับสนุนให้องค์กรเติบโต เหมือนที่คุณ ประวินทร์ คุโรวาท ประธานบริหารด้านการเงินและบริหารกลาง บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์นี้ว่า “HR มีความสำคัญต่อองค์กร และต้องเป็นพาร์ทเนอร์กับทุกคนในองค์กร เพราะ HR มีบทบาทสำคัญมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจด้วยคนของเรา”

ปี 2022 ที่ผ่านมา บริษัทผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทยอย่าง เจียไต๋ ได้รับรางวัล “Best Companies to Work for” จาก HR Asia วันนี้เราจึงพูดคุยกับคุณ ประวินทร์ถึงแนวคิดในการบริหารจัดการคนในองค์กร และมุมมองต่อ HR ในสายตาผู้บริหารระดับสูงว่า HR นั้นสนับสนุนให้องค์กรเติบโตได้อย่างไร ?

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

ก่อนอื่นอยากทราบว่า ทำไมเจียไต๋ถึงให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลอยู่ภายใต้ผู้บริหารการเงินและบริหารกลาง ไม่ได้แยกผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลออกมาเหมือนองค์กรทั่วไป ?

ประวินทร์: เราเพิ่งเปลี่ยนโครงสร้างเมื่อสัก 2 ปีที่ผ่านมาครับ รวมงาน Corporate Office ทั้งหมดมาอยู่ภายใต้ CFO (Chief Financial Officer) คือตำแหน่งการเงินบวกกับการบริหารกลาง ซึ่งคำว่าบริหารกลางคืองานองค์กรส่วนกลางทั้งหมด เช่น หน่วยงานบัญชี IT HR สื่อสารองค์กร จัดซื้อและบริการกลาง งานปฎิบัติการนำเข้าและส่งออก ตลอดจนการพัฒนาความยั่งยืนและการบริหารจัดการความเสี่ยง ทุกหน่วยงานอยู่ภายใต้ผู้บริหารคนเดียว

ในเชิงโครงสร้างมันช่วยให้ง่ายต่อการบริหารงานองค์กรในภาพรวมครับ และทำให้ทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายง่ายขึ้น ตัดสินใจหรือดำเนินงานต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานก็จะมีหัวหน้ารับผิดชอบในส่วนงานของตัวเองอยู่ ภายใต้ทิศทางและเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน

ซึ่งแม้โครงสร้างองค์กรเราอาจจะไม่เหมือนที่อื่น แต่เราก็คิดว่าโครงสร้างแบบนี้มีความเหมาะสมตามบริบทองค์กรของเรา และจะช่วยให้เจียไต๋ไปต่อได้เร็วและมีการทำงานเป็น One Team มากขึ้นครับ

ด้วยตำแหน่งที่ดูเรื่องการเงินและการบริหารจัดการ อยากทราบว่าคุณสร้างความสมดุลระหว่างเรื่องคนและเรื่องเงินอย่างไร ?

ประวินทร์: ไม่ยากเลยครับ ผมมองว่าให้แต่ละฟังก์ชั่นต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เรื่องเงินก็ต้องจัดการให้ดี HR ก็ต้องทำฟังก์ชั่นเรื่องคนให้ดี ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ทุกอย่างก็จะออกมาดีเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่มีบางฟังก์ชั่นไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อนั้นก็จะเกิดปัญหา และทำให้ทุกอย่างรวนไปหมด

ผมพยายามส่งเสริมให้แต่ละหน่วยงานทำงานด้วยกันเป็นทีม เพื่อสร้างผลลัพธ์ หรือ impact ที่ใหญ่ขึ้นให้กับองค์กร หน่วยงานทุกหน่วยงานจึงร่วมคิดและทำไปด้วยกัน ฉะนั้นเวลาเลือกคน เราต้องเลือกคนที่มีทัศนคติและความสามารถตรงกับทิศทางที่เราจะไป

ผมมองเป็นข้อดีนะครับ เพราะทุกอย่างจะสามารถเดินไปในทิศทางเดียวกัน ปัญหาของการแยกโครงสร้างหน่วยงาน Support ขององค์กรเป็นส่วน ๆ คือเราควบคุมคนอื่นไม่ได้ สมมติคุณต้องดูแลงบประมาณ แต่บางเรื่องคุณก็บอก IT ให้ทำตามทุกอย่างไม่ได้ เพราะคุณไม่ใช่นายของเขา แต่สำหรับโครงสร้างการบริหารองค์กรในรูปแบบนี้ ทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางไปพร้อม ๆ กับควบคุมต้นทุน ทำให้องค์กรเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ผลพลอยได้คือ หน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้โครงสร้างองค์กรแบบนี้จะสามารถทำงานข้ามฟังก์ชั่นกันได้ดี เพราะทำงานภายใต้วัตถุประสงค์เดียวกัน และถือ KPI หลักร่วมกัน

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

แน่นอนว่าองค์กรหนึ่งประกอบด้วย Asset ที่หลากหลาย ในฐานะตำแหน่งผู้บริหารการเงินและบริหารกลาง คุณคิดว่า Human Asset สำคัญอย่างไร

ประวินทร์: สำหรับองค์กรด้านการเกษตรอย่างเจียไต๋ ‘คน’ เป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนทุกสิ่งนะครับ แม้ว่าทุกวันนี้จะมี Digitalization เข้ามา แต่เทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องมีคนในการกำกับการใช้งานอยู่ดี ซึ่งคนก็ต้องมีความรู้ความสามารถด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อเรื่องธุรกิจ การเจรจากับพาร์ทเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการพูดคุยกับลูกค้าร้านเกษตร เราคงใช้เครื่องจักรมาดำเนินการเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นทางบริษัทเองจึงให้ความสำคัญกับเรื่อง Human Capital เป็นอันดับหนึ่งเลย

เพราะเราเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในองค์กรขับเคลื่อนด้วยคน ตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบน เราจึงเน้นการเลือกคนที่ใช่ต่อองค์กร มีทัศนคติ (Attitude) ที่เหมาะสม มีความสามารถ (Capability) พร้อม และมีกรอบความคิด (Mindset) ที่ถูกต้อง แล้วนำเขามาพัฒนาให้เติบโตขึ้นไป

ดังนั้นคำตอบง่าย ๆ คือคนคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จของเรา เพราะเราต้องการคนที่มาช่วยทำให้องค์กรเติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งในแง่รายได้ และการต่อยอดจากทรัพยากรด้านอื่น ๆ

ทราบมาว่าเจียไต๋ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย สุขภาวะจิตใจ และสุขลักษณะภายใต้ Happy Workplace แล้วนิยามของ Happy Workplace ของเจียไต๋คืออะไร ?

ประวินทร์: Happy Workplace คือการมาทำงานแล้วรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านหลังที่ 2 จนพนักงานอยากมาทำงานทุกวัน อยากมาเจอคนที่ทำงาน อยากใช้ชีวิตในที่ทำงาน อันนี้คือการทำงานแล้วมีความสุข

เราก็พยายามสร้างบ้านให้น่าอยู่ เช่น สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของเราที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีห้องยิมออกกำลังกาย มีห้องตีกอล์ฟ-ซ้อมกอล์ฟแบบ Simulator เพราะเราอยากให้ออฟฟิศน่าอยู่ น่าทำงาน มี Co-Working Space เยอะมาก ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ไปนั่งทำงานมุมไหนก็ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ได้ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องการเสริมสร้างให้ทุกคนมีความสุขในการทำงาน ผ่านองค์ประกอบ 3 อย่างครับ

หนึ่ง Happy Body & Mind เพราะยุคนี้คนมีความเครียดเยอะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานด้วย เราจึงดูแลจิตใจพนักงานของเราด้วย ในปีนี้ก็มีแผนที่ชัดเจนเรื่อง Mental Health ต่าง ๆ ทาง HR มีโปรแกรมทำแบบสำรวจพนักงานทุกคนว่าอยู่ในความเครียดระดับใด และจะมีโปรแกรมต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วย เช่น โปรแกรมการนวด โปรแกรมธรรมะเพื่อความสบายใจ หรือโปรแกรมจากผู้รู้ทางสังคมที่จะมาถ่ายทอดการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ประเด็นความเครียดจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราให้ความสำคัญในปีนี้

สองคือ Happy Living ผ่านการออกแบบสำนักงานให้เหมือนบ้านที่สวยงาม ทันสมัย น่าอยู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีพื้นที่ให้เขาสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและความผ่อนคลาย ตอบโจทย์เรื่องความสุข ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยากอยู่กับองค์กรของเราไปนาน ๆ ครับ

สุดท้ายคือ Happy Teamwork หรือการสร้างการมีส่วนร่วมในเจียไต๋ เพราะตอนนี้เรามีการผสมผสานของหลายเจนเนอเรชั่น เราพยายามเสริมสร้าง Teamwork ให้เกิดขึ้นได้ ผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง โดยทุกคนยึดมั่นใน Core Values เดียวกัน มีพฤติกรรมพื้นฐานที่ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในเวลาเดียวกันองค์กรก็ยังเปิดกว้างให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับองค์กรได้เช่นกัน 

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกองค์กรเผชิญหน้ากับ COVID-19 เจียไต๋เองรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร และได้เรียนรู้อะไรจากวิกฤตครั้งนี้บ้าง ?

ประวินทร์: สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก COVID-19 คือเรามีการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล (Digital Savvy) มากขึ้นในทุก ๆ ระดับ และเราก็คุ้นเคยกับการใช้ MS Team และ Zoom มากขึ้นด้วย (หัวเราะ)

จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เรามีการลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะด้าน Digital ให้พนักงานทุกคน เราทำจริงจังมากเลยนะครับ เพิ่มทักษะดิจิทัลแบบ End to End ทั้งหมดเลย เพื่อให้ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในเจนฯ ไหนก็ตามเข้าใจโลกดิจิทัล รวมถึงกลุ่มผู้บริหารด้วย เรามองว่าทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น

ต่อมาที่เราได้เรียนรู้จากโควิดคือ ในการทำงานบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเน้นรูปแบบมากเกินไป ควรจะเน้นผลลัพธ์ให้มากขึ้น จากที่เรามี Work From Home ก็ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ แล้วมัน Working From Anywhere ก็ได้เหมือนกันนะ ทุกวันนี้บางองค์กรก็ยัง Working From Anywhere อยู่เลย องค์กรเราอยู่มา 100 ปีก็ไม่เคย Working From Anywhere นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราลองทำ ก็รู้เลยว่าทุกคนทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีการติดตามงานและเน้นที่ผลลัพธ์ครับ

ผลพวงสุดท้ายจากโควิดคือ เกิดพฤติกรรมของแรงงานที่เปลี่ยนไป เช่น คนที่เคย Work From Home มาแล้ว หลายคนก็ติดใจเพราะมีเวลาจัดการ Work Life Balance ได้ดีขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง บางคนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย แน่นอนว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงของคนในองค์กรที่อยากทำงานแบบ Hybrid หรือ Flexible มากขึ้น ไม่ใช่การมาทำงาน 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็นทุกวัน ตอนนี้เราก็กำลังอยู่ในระหว่างปรับเปลี่ยนเรื่องนี้ ว่ารูปแบบการทำงานในองค์กรที่เหมาะสมควรจะมีรูปแบบไหน เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและการดำรงอยู่ขององค์กร ฉะนั้นองค์กร 100 ปีของเราก็ต้องปรับเหมือนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย นโยบายบางอย่างที่ล้าหลังหรือไม่เข้ากับยุคสมัยแล้ว เราก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นครับ

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

ประเด็นความหลากหลาย DEI (Diversity, Equity และ Inclusion) เป็นประเด็นหลักของรางวัล Best Companies to Work for ในปี 2022 นิยามความหลากหลายของคุณคืออะไร ?

ประวินทร์: สำหรับผมคือการทำงานกับใครก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด ถ้าเขาเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น เป็นคนที่มี Mindset ที่ถูกต้องต่อองค์กร และพร้อมที่จะเติบโตพัฒนาไปกับองค์กร

ผมมองที่ผลลัพธ์เป็นหลักเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือเพศที่ 3 ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าคุณสามารถส่งมอบในสิ่งที่องค์กรต้องการได้ เราพร้อมต้อนรับทุกคน และพร้อมให้ทุกคนเติบโตในองค์กรได้เท่าเทียมกัน

ฉะนั้น Performance เป็นตัวนำครับ มากกว่าเพศ วัฒนธรรม ศาสนา หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำงาน ล่าสุดเรามีการปรับนโยบายวันลาต่าง ๆ เพิ่มขึ้น มีวันลาเพิ่มในเดือนเกิด หรือสามารถลาไปแต่งงานได้ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะชาย-หญิงเท่านั้น เรากำลังโปรโมทเรื่องความหลากหลายในองค์กรมากขึ้น เปิดกว้างกับทุกคน เจียไต๋เองก็มีสัดส่วนผู้บริหารผู้หญิงมากถึง 31% ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ในการเป็นผู้นำในองค์กร สิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดให้เห็นว่าผู้หญิงก็มีโอกาสเติบโตในองค์กรของเราเช่นกัน

“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

หากมองในภาพรวม อะไรคือความท้าทายของ HR ต่อจากนี้ ?

ประวินทร์: ผมว่าความท้าทายแรกของ HR คือการรักษาพนักงาน (Retain) คนดี คนเก่ง ให้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ แน่นอนว่าจากสภาพโควิดทำให้เกิดผลพวงหลาย ๆ ด้านในชีวิตของเรา แล้วก็มีผลกระทบหลาย ๆ อย่างต่อตลาดแรงงานทั้งภายในและภายนอก หน้าที่ของ HR คือต้องสร้างสมดุลระหว่างแรงงานภายในที่อยู่ให้ดี ทำยังไงให้คนอยากอยู่กับองค์กร รักและผูกพันกับองค์กร เพื่อทำงานและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร เพราะตอนนี้ตลาดแรงงานเปิดแล้ว คนมีโอกาสเปลี่ยนงานเสมอ คนเก่ง ๆ มีโอกาสถูกดึงตัว นี่จึงเป็นสิ่งที่ HR ต้องดูแลคนภายในให้ดี เหมือนที่เจียไต๋ใส่ใจเรื่อง Heart & Mind, Happy Workplace สิ่งเหล่านี้ก็คือความพยายามในการรักษาคนของเรา

ขณะเดียวกัน เราจะดึงดูด Talent ภายนอกเข้ามาได้อย่างไร เราก็ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายบางอย่างตามที่กล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการทำงาน สวัสดิการต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับยุคสมัยครับ สิ่งเหล่านี้คือที่ HR ต้องสร้างความสมดุล ทั้งดูแลคนในและดึงดูดคนนอกด้วย

การที่เจียไต๋ส่งประกวดรางวัลของ HR Asia ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ต้องการทำให้คนภายนอกรู้จักเจียไต๋ในอีกมุมหนึ่ง เพราะคนอื่นจะมองเราเป็นองค์กรที่เก่า (หัวเราะ) การได้รับรางวัล Best Companies to Work for ในปีที่ผ่าน ก็การเปิดตัวให้คนอื่นรู้ว่า เรามีความทันสมัย เราเก่าแต่ไม่แก่เลย เพราะเรามีออฟฟิศน่าอยู่ มีกลุ่มคนทำงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ เราเองก็ต้องการสื่อสารกับโลกภายนอกให้มากขึ้น ทำให้คนที่ทำงานอยู่กับเรามีความภาคภูมิใจ แล้วก็ดึงดูดพนักงานคนเก่งจากข้างนอกเข้ามาในองค์กร

คุณคิดว่าทำไม HR ถึงสนับสนุนการเติบโตขององค์กรได้

ประวินทร์: HR เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดวัฒนธรรมขององค์กร ซึ่งผมมองว่า ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น ทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึง HR ได้

ในอดีต HR มักถูกมองเป็นผู้เก็บความลับ เข้าถึงยาก แต่บทบาทของ HR ในทุกวันนี้เปลี่ยนไป HR ต้องโปร่งใส (Transparent) ต้องตอบได้ว่าอะไรใช่-ไม่ใช่ มีเหตุผลในการอธิบาย ไม่ใช่ว่าทุกอย่างคือความลับ

อย่างที่สอง HR มีบทบาทสำคัญมากในการสร้างและพัฒนาคนเพื่อให้สามารถแข่งขันและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจขององค์กร รวมถึงการเสนอจัดวางคนให้เหมาะกับความต้องการขององค์กรและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่อาจเปลี่ยนไป รวมถึงการสร้าง Talent Pool ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การสืบทอดตำแหน่งสำคัญต่าง ๆขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นการคิดเชิงกลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของเจียไต๋ครับ

ฟ“HR วันนี้ต้องช่วยธุรกิจให้เติบโต” คุยกับ ประวินทร์ คุโรวาท จาก เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย

คุณคิดว่าเจียไต๋แตกต่างจากองค์กรอื่นอย่างไร

ประวินทร์: วันนี้ แม้เจียไต๋จะเป็นองค์กรที่อยู่มานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่เราก็เป็นองค์กรที่ทันสมัย มีระบบ IT แบบ World-class มีคนรุ่นใหม่อยู่เป็นจำนวนมาก อายุเฉลี่ย 30 ต้น ๆ เองนะครับ มีวัฒนธรรมการทำงานที่ดี ที่เจียไต๋ แม้ว่าเราจะวัดกันที่ผลงาน (Performance – Based) แต่เราก็มี Empathy หรือมีความเอื้ออาทรต่อกันที่สูงมากในองค์กร ผมคิดว่านี่เป็นจุดที่เจียไต๋ไม่เหมือนกับที่อื่น และด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้ ‘คน’ ของเราสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับองค์กร เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำนวัตกรรมการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนต่อไปครับ

ผู้เขียน

HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง