ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

HIGHLIGHT

  • เกือบ 20 ปีแรกในการทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย ลี่ – ศันสนา สุขะนันท์ ไม่เคยทำงานสาย HR ไม่ถนัดเรื่องการบริหารทรัพยากรมนุษย์ แต่เธอได้รับความไว้วางใจจาก CEO ของ KBANK ให้ทำงานดังกล่าว และเมื่อผู้บริหารมองเห็นศักยภาพ เธอจึงไม่ปฏิเสธความท้าทายนี้
  • กสิกรไทยเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมคุณค่าพนักงาน ด้วยหลัก EVP (Limitless Growth | Talented People | Better Opportunitiess through powerful resource) การให้โอกาสหลากหลายสนับสนุนให้พนักงานได้มีโอกาสปล่อยศักยภาพ อีกทั้งการได้ทำงานร่วมกับทีมที่มีความสามารถช่วยกันบรรลุเป้าหมาย โดยเน้นการลงมือทำ การมีทรัพยากรที่ใช้ได้หลากหลาย และได้เรียนรู้จากสิ่งที่ทำจริง ซึ่งถึงเธอจะบอกว่าไม่มีความรู้เรื่อง HR แต่เพราะกสิกรไทยมีปัจจัยช่วยสนับสนุนเหล่านี้ จึงเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้เธอนำพาทีมอย่างเต็มที่ บวกกับเธอเองก็มีพลังความสนใจให้ความสำคัญเรื่องความเป็นผู้นำอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเชื่อมั่นว่าการมีทีมที่ดีที่ธนาคารกสิกรไทยช่วยให้สามารถฝ่าฟันทุกความท้าทายไปได้แน่นอน
  • ช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นช่วงที่เธอเพิ่งมารับงานนี้ที่ KBANK ไม่กี่เดือน แต่เธอและทีม HR ก็ทุ่มเทเต็มที่ ในการดูแลพนักงานทุกด้าน ไม่ว่าจะจัดหาวัคซีน หรือดูแลเมื่อเจ็บป่วย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเป็นบทเรียนสำคัญให้ได้เรียนรู้ว่า ธนาคารกสิกรไทยจะไม่สามารถบริหารงานแบบเดิมได้อีกต่อไป
  • การที่ KBANK ได้รางวัล Best Companies to Work For จาก HR Asia เมื่อปี 2022 จึงถือเป็นรางวัลที่มีค่าต่อทั้งทีม HR ของกสิกรไทย และต่อทุกคนในบริษัท หากไม่มีพนักงานทุกคน เธอเชื่อว่าย่อมไม่มีทางได้ครอบครองรางวัลนี้อย่างแน่นอน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เป็น HR จำนวนไม่น้อยไม่ได้เรียนจบสายนี้มาก่อน ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะโลกทุกวันนี้การทำงานไม่ตรงสายถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

แต่ถ้าเกิดคนที่ทำงานสายอื่นมาตลอดชีวิต จู่ ๆ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารงานด้าน HR ล่ะ กรณีนี้แตกต่างไปจากกรณีอื่นหรือไม่ ?

หากถาม คุณลี่ – ศันสนา สุขะนันท์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย (บริหารสายงานทรัพยากรบุคคล) ผู้จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ MBA สายการเงินจาก University of Wisconsin-Madison และที่ผ่านมาทำงานเกี่ยวข้องกับตัวเลขเสมอจะให้คำตอบว่า “ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของเรา ถ้าพร้อมเรียนรู้ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ”

ซึ่งไม่มากไม่น้อย เป็นจุดที่ทำให้ KBANK ได้รับรางวัล Best Companies To Work For In Asia ประจำปี 2022 จาก HR Asia ไปครอง

แนวคิดเรื่องการบริหารคนของคนที่ไม่ได้ทำงาน HR มาก่อนอย่างเธอเป็นเช่นไร และ HR จำนวนมากสามารถเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้อีกบ้าง ติดตามได้เลยในบทสัมภาษณ์นี้

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

คุณทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยมานานกว่า 21 ปี แต่เพิ่งทำงานด้าน HR ไม่นาน การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมความท้าทายอย่างไรบ้าง

ศันสนา: ท้าทายมากค่ะ เพราะเส้นทางอาชีพตั้งแต่เรียนจบ ได้ทำงานแรกด้าน Project Finance และ Investment Bank ที่ ภัทรธนกิจ หรือ Phatra Securities ในปัจจุบัน อยู่ 6 ปี ก่อนไปเป็น Fund Manager อยู่ที่ หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย 2 ปี ก่อนจะมาทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยในเดือนสิงหาคมปี 2002

พอเข้ามาตอนนั้นเป็นช่วงหลังวิกฤติต้มยำกุ้งพอดี ก็ได้ไปดูงานด้านเครดิต หลังจากนั้นไปทำ Retail ต่อมาไปทำ Finance แล้วกลับมาทำ Retail อีกรอบ ก่อนจะไปดูแลด้าน Operational Risk และ Cyber Risk Management

ต่อมาได้รับมอบหมายจากพี่เปิ้ล (ขัตติยา อินทรวิชัย – CEO แห่ง KBANK) ให้มาดูแลงานด้าน HR ซึ่งกำลังจะครบ 3 ปีแล้วในเดือนสิงหาคมนี้ ตอนนั้นเราสนใจเรื่องคนอยู่แล้ว เราแคร์คนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรา คนที่อยู่ในทีมเดียวกัน ในองค์กรเดียวกัน และเราก็มี Mentality ที่พร้อมจะเรียนรู้เสมอ หรือ Growth Mindset ซึ่งสำคัญมาก เราพร้อมพัฒนา ไม่คิดว่าเป็นน้ำเต็มแก้ว เพราะไม่ว่าใครก็ต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในองค์กรที่เปลี่ยนแปลงตลอด

พอมีมุมมองและความเชื่อเรื่องนี้เลยคิดว่า ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบงานก็ตาม แต่ถ้าเราได้รับความไว้วางใจ เราก็ต้องทำงานนี้ให้ดีที่สุด

ก่อนรับงานนี้ที่ธนาคารกสิกรไทย คุณพอมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง HR อย่างไรบ้าง

ศันสนา: ต้องบอกว่าแทบไม่มีเลย เราพอรู้ว่าในการบริหารคนต้องมีความเป็นหัวหน้าแบบหนึ่ง สิ่งที่เราทำในฐานะหัวหน้าคือเราพยายาม Integrate คนให้เข้ากับวิถีการทำงาน

แต่เรื่องศัพท์เทคนิค ความรู้เชิงเทคนิค เช่น HR Compensation หรือ Structure Design เป็นอย่างไร เราไม่มีองค์ความรู้นั้นเลย แต่เราเชื่อว่า CHRO (Chief Human Resource Officer) อาจไม่ต้องรู้ลงลึกก็ได้ แต่ในฐานะ CHRO ของ KBANK เราต้องบริหารจัดการงานที่ซับซ้อนให้ได้ ว่าจะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร

งาน HR ไม่ได้มีแค่เรื่องเชิงเทคนิค แต่ to begin with ยังมีส่วนที่เป็นหลักการหรือ Principle คนที่จะเป็น CHRO หรือคนเป็นผู้นำน่าจะต้องรู้และเข้าใจสิ่งนั้นอยู่แล้วว่า จะบริหารเรื่อง HR อย่างไร เราอาจไม่รู้วิธีดูเรื่องการคำนวนค่าตอบแทนในรายละเอียด แต่ต้องรู้หลักการในการให้ค่าตอบแทนว่า มันคืออะไร

แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจงาน HR เสมอนะ ไปสมัครเรียนเข้าคอร์สนั้นคอร์สนี้ ไปดูงาน ก็ช่วยให้เข้าใจงานการบริหารทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น

ต้องปรับตัวนานแค่ไหนถึงรู้สึกว่าเริ่มลงตัวกับงานด้าน HR ที่ธนาคารกสิกรไทย

ศันสนา: ปรับตัวนานไหมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ต้องปรับตัวจนได้ และไม่ใช่แค่เราเท่านั้นแต่ทั้งทีม HR ต้องปรับตัวไปพร้อมกัน เพราะงาน HR ไม่เหมือนงานอื่น ๆ

อย่างตอนทำ Risk Management ทำแล้วคนอื่นต้องอยู่ใน Rule ที่ set ไว้ ตอนทำ Finance ถ้าอันไหนผ่านไม่ได้ก็คือผ่านไม่ได้ มันเป็นงานที่แบ่งขาวดำชัดเจน กลับกันกับงาน HR ที่เหมือนเป็นงานศิลปะมากกว่า ถ้าทำแล้วคนอื่นไม่ซื้อ ไม่เอาด้วย มันก็ไปต่อไม่ได้ ยากจะประสบความสำเร็จ

ฉะนั้นต้องคิดเยอะว่า งาน HR จะทำอย่างไรให้คนอื่น buy in และ สามารถสร้างคุณค่าให้องค์กรได้ ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการคิดและทำไปด้วยกัน เช่น ในอดีตถ้าเราอยากพัฒนาทักษะคนก็จัดเทรนนิ่งขึ้นมา วัดผลว่าคอร์สนี้มีคนชอบไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เป้าหมายของเราคือทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นมีทักษะ สามารถนำไปใช้งานได้จริง

มันเป็นงานยาก แต่ก่อนจะมีช่องว่างระหว่าง HR กับพนักงานที่เป็น Users ดังนั้น HR จะทำอย่างไรให้เข้าใจพนักงาน ทำอย่างไรให้สามารถเป็นไม่เฉพาะ Thought Partner ของเขาได้ แต่ต้องเป็น  Solution Provider ด้วย จะแค่คิดแต่ไม่ช่วยทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ เราพยายามสร้าง HR แบบนี้ในองค์กรที่เคลื่อนตัวเร็ว เพราะองค์กรต้องขับเคลื่อนด้วยคน ถ้า HR ไม่ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ฟันเฟืองก็จะหมุนได้ยาก HR ต้องสร้าง Trust หรือความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างคนในองค์กรให้ได้ด้วย

แล้ว HR ในธนาคารกสิกรไทยเอง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในทีม HR กันเองอย่างไรบ้าง

ศันสนา: หลายคนบอกว่า Trust เป็นสิ่งที่ต้องสร้างจึงจะได้มา ดังนั้นอย่างแรกสำหรับตัวเองต้องทำให้เห็นว่าเรามาช่วยสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ นะ

กสิกรไทยเป็นองค์กรที่ยึดหลักมองเห็นความสำคัญของคน  จึงให้ความสำคัญต่อ HR พวกเขาจะเป็นแรงขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย ดังนั้นเราต้องมาร่วมสร้างไปด้วยกัน เราต้องทำให้ทีม HR เห็นความตั้งใจของเราให้ได้ก่อน

เมื่อก่อนเราจะเป็นคนที่ Result Oriented มาก เพราะสร้างนู่นสร้างนี่ให้องค์กร เปลี่ยนนั่นนี่ มีผลงานเสมอ พอมาทำงาน HR ได้เจอทีมใหม่ มีคนเป็นร้อยเลย ฉะนั้นต้องทำให้เห็นถึงความตั้งใจว่าเรามาดี และก็ต้องประเมินตัวเองบ่อย ๆ ลดความต้องการจะเอาผลลัพธ์ทันทีลงบ้าง ต้องพร้อมที่จะฟัง มี Empathy พยายามทำความเข้าใจทีมเพิ่มมากขึ้นว่า เราจะไปด้วยกันได้อย่างไร

เราไม่สามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ได้ในเร็ววันหรอก มันต้องผ่านการปรับตัว ทั้งตัวเราและทีมเองต้องปรับ เพื่อมองให้เห็นเป้าหมายที่จะไปร่วมกัน

อีกสิ่งที่สำคัญคือ ถ้ามีเรื่องที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ แม้จะแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เราก็สามารถเฉลิมฉลองกันได้ ถ้าทำให้พนักงานรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาทำมากขึ้น รู้สึกว่าเราช่วยสร้างคุณค่าให้ได้มากขึ้น ก็ชมกันไป เรื่องอย่างนี้แหละที่ทำให้การทำงานไปด้วยกันราบรื่น ทำให้เราเริ่มสร้าง Trust ระหว่างกันได้มากขึ้น ดังนั้นเราต้องพยายามรับฟัง อย่ามองตัวเองเป็นน้ำเต็มแก้ว

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

พอคุณเคยทำงานหลายสายในธนาคารกสิกรไทยมาก่อน องค์ความรู้ที่เคยมีสามารถเอามาใช้กับ HR ได้อย่างไรบ้าง

ศันสนา: งานที่ผ่านมาทำให้เราเข้าใจมุมมองของบุคคลที่ 3 มากขึ้นการที่เราเคยอยู่ในสายงานด้านอื่นทำให้เข้าใจว่า คนทำงาน Finance คิดอย่างนี้ คนทำงาน Retail คิดอย่างนั้น คนทำด้าน Cyber Risk Management จะคิดอีกแบบ เราจะเห็นมุมมองที่หลากหลายด้วยตาของตัวเอง เพราะงานธนาคารมีหลาย Node แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำงานจบเบ็ดเสร็จในตัวเอง แม้กระทั่งงานตรวจสอบภายใน ก็ต้องทำงานร่วมกับคนอื่น

และพอเป็นงานที่ต้องทำกับคนจำนวนมาก การร่วมมือกันจึงสำคัญ เราต้องเข้าใจคนอื่น การมองมุมตัวเองอย่างเดียวไปด้วยกันยาก การอยู่ในหลายฝ่ายมาก่อนทำให้เราเข้าใจบริบทของผู้อื่น และขององค์กรว่าจะขับเคลื่อนไปอย่างไร ได้เห็นวงจรของมันทั้งหมด

ธนาคารกสิกรไทยเป็นองค์กรที่มีความหลากหลาย ด้วยจำนวนพนักงานมากถึง 30,000 คน พอมีความหลากหลายมาก ช่วยส่งเสริมให้ HR ทำงานยากหรือง่ายขึ้นอย่างไร

ศันสนา: ความหลากหลายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เรามีพนักงานทั้งหมด 30,000 คน แบ่งเป็นพนักงานของธนาคารกสิกรไทยเอง 20,000 คน และบริษัทในเครืออีก 10,000 คน เรามีคนทุกเจนเนอเรชั่นเลยตั้งแต่อายุ 60 ปี ไล่ลงมาถึงเจน Y ที่มีมากสุด ถึงเจน Z

ข้อดีของความหลากหลายคือ กสิกรเราเป็นองค์กรเปิดไม่ได้มี Fixed Mindset และเราพร้อมรับฟังทุกคนเสมอEVP (Employer Value Proposition) ของเราคือ “Possibility to Make an Impact – ให้คุณเป็นคุณได้เต็มศักยภาพ”

เราเชื่อว่าเมื่อพนักงานอยู่กับเราแล้ว พวกเขาจะสามารถสร้างผลกระทบที่ดี ให้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นเราจึงพร้อมเปิด พร้อมรับฟัง พอมีความหลากหลาย เราก็ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ขึ้นมา ได้สร้างคุณค่าใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย

สิ่งที่ต้องบริการจัดการก็คือ แม้ความหลากหลายจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องไม่ให้หลุดขอบช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดทำให้เราได้เรียนรู้เยอะมาก แต่ก่อนเราเข้างานที่ออฟฟิศ 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น พอโควิดเลิกระบาดแล้ว เราจะบอกให้ทุกคนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศสิ กลับมาเจอกันทุกวันจันทร์เหรอ เราทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราเชื่อว่าไม่มี One Size Fits All อีกต่อไป เรามีพนักงานตั้ง 30,000 คน เราจะใช้มาตรฐานเดียวได้อย่างไร

แต่ก็มีคนถามเหมือนกันว่า ไม่กลัวเหรอ คือเราต้องกลัวอะไรล่ะ เรากลัวพนักงานคนที่ 29,998 จะหนีไปนั่งทำงานที่ชายหาดเหรอ ทำไมเราไม่แคร์ว่าเราจะทำให้คนจำนวนมากเป็นหมื่นคนทำงานให้มีความสุขได้อย่างไร เราไม่ใช้ Rules Based หรือเอากฎมาบังคับใช้ปกครองในทุกเรื่องๆ เราเลือกใช้หลัก Principle Based มากกว่า เราใช้หลักการที่เรียกว่า Work That FITS (Flexibility – Impact – Trust – Security) ในการบริหารจัดการ Way of Work

อย่างไรก็ตามพอเราปล่อยให้มีความยืดหยุ่น Flexibility แล้ว ก็ต้องมี Impact ตามมาด้วย ต้องส่งมอบงานให้ได้ตามที่ตกลงได้ นี่คือเรื่องสำคัญซึ่งจะทำให้เกิด Trust ระหว่างหัวหน้าและลูกน้องด้วย สุดท้ายคือ Security เนื่องจากเราเป็นองค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้า ฉะนั้นความปลอดภัยจึงสำคัญมาก และยังรวมถึงความปลอดภัยทางกายและใจของพนักงานด้วย

เราให้อำนาจหัวหน้างานดูแลพนักงานของตัวเอง ดูว่าอะไรเหมาะสมที่สุด เพราะเราเชื่อว่าเขาน่าจะเข้าใจลูกน้องดีที่สุด ดังนั้น เขาน่าจะบริหารจัดการได้ลงตัวกับงานที่ทำมากกว่า

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

คุณมองว่า Human Asset สำคัญอย่างไรต่อธนาคารกสิกรไทย

ศันสนา: อย่างที่เกริ่นไป กสิกรไทยให้ความสำคัญกับคน และเน้นย้ำเรื่องการดูแลและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน คนน่าจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด เพราะงานจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่ที่คนต่อให้มีเงิน มีอุปกรณ์ IT ก็จริง แต่คนมีหัวใจ มีความคิด มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรกับเขาก็ได้ แม้กระทั่งงาน IT ก็ดูแลด้วยคน งานงบประมาณ Finance จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็เพราะคนเช่นกัน

ที่ธนาคารกสิกรไทย เราดูแลคนตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเรื่องการรับเข้ามาทำงาน ดูแลเรื่องสวัสดิการว่าจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าที่อื่นมีไหมนะแต่เรามีเงินเกษียณอายุให้ แพ็คเกจที่มีก็อยู่ในระดับท็อป ๆ ในธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าระหว่างทางที่ทำงานด้วยกัน เราจะดูแลเขาให้ดีที่สุด

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีคนบอกว่าเศรษฐกิจอาจไม่ดี แต่เราก็มีเงินช่วยเหลือเรื่องโควิด เราเชื่อใน EVP ที่ว่า “Possibility to Make an Impact” เชื่อว่าเราจะทำให้คนเติบโต ถ้าเขาชอบอยู่ตรงไหนก็เติบโตได้เต็มที่ เราน่าจะเป็นโรงเรียนที่ดี อยู่กับคนเก่งแล้วจะได้เรียนรู้ในหลายๆ ด้าน

เรามีทรัพยากรต่าง ๆ มีข้อมูล มีขั้นตอนการพัฒนา เป็นองค์กรที่สามารถเรียนรู้แล้วเติบโตได้ เรามีให้เรียน Soft Skills – Hard Skills หลากหลายมิติ และคนในระดับ Leader ก็มา Take Program เยอะมาก ซึ่งมีรูปแบบหลากหลายมากกว่า Class เรียน เราเชื่อว่าถ้าเราทำได้ดี Leader จะเป็นคนดูแลองค์กรถัด ๆ ไป และถ้าทำตั้งแต่ Level ระดับบนลงมาได้ดี ก็จะส่งผลไปถึงข้างล่าง

เพราะแต่ก่อนเวลาเราทำเรื่องวัฒนธรรมองค์กร เราจะทำแต่ระดับล่างขึ้นบน แต่ไม่ค่อยได้ผล เราเลยเปลี่ยนมาทำจากข้างบนลงล่าง เพราะเรื่องคนสำคัญมาก เราต้องดูแลและพัฒนาให้เติบโต  CEO พูดเสมอว่า เราไม่มีนโยบายเรื่องการเลย์ออฟนะ เราดูแลคนเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ดังนั้นถ้าอยากทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นองค์กรที่น่าร่วมงาน ก็ต้องเริ่มจากการทำให้บุคลากรเห็นว่า ธนาคารกสิกรไทยมีพื้นที่ให้แสดงฝีมือและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ช่วยให้มีโอกาสใหม่ ๆ มากมายเกิดขึ้น

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

ก่อนที่จะทำงานด้านนี้ที่ธนาคารกสิกรไทย คุณมองเห็นความสำคัญของคนมาตั้งแต่ก่อนเป็น HR แล้วรึเปล่า

ศันสนา: เราให้ความเคารพในตัวคนมานานแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนสมควรได้รับการเคารพในมุมใดมุมหนึ่งเสมอ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นพนักงาน ผู้บริหาร หรือยามที่ดูแลองค์กร ทุกคนสมควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ และได้รับความเคารพเช่นเดียวกัน มันเป็น Motto ที่ส่วนตัวเชื่อว่าสำคัญต่อองค์กร

ตอนที่เราดูแลช่วงโควิด-19 ช่วงนั้นแสดงให้เห็นจริง ๆ ว่าองค์กรเราไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจัดหาวัคซีน ดูแลผู้ป่วยให้คนทั้ง 30,000 คนแบบสุดตัว ไม่ว่าจะประธานบริษัท CEO ยาม พี่แม่บ้านหรือใครก็ตามล้วนมีสิทธิ์ได้การดูแลครบถ้วนเพราะทุกชีวิตมีค่า

และไม่ใช่แค่ HR เท่านั้น แต่ผู้บริหารทุกคนก็เต็มที่ในการดูแลพนักงาน ช่วยกันคนละไม้ละมือ อะไรที่ทำได้ ดูแลได้ บอร์ดจะให้ความเอาใจใส่เสมอ ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครเป็นใคร เพราะทุกคนตระหนักจริง ๆ ว่าทุกชีวิตล้วนมีความหมาย

เรารู้ว่างาน HR มันยาก แต่กลับเป็นสิ่งที่มีความหมายมากในการทำงาน มีคนเคยถามว่า ตั้งแต่ทำงานนี้มา ภาคภูมิใจเรื่องอะไรมากที่สุด ก็คือเรื่องนี้แหละ การได้ดูแลชีวิตคนในช่วงยากลำบาก เราได้สร้างอะไรบางอย่างที่อิมแพ็คต่อชีวิตคนจริง ๆ เวลาได้ยินพนักงานบอกว่า โชคดีมาก ธนาคารดูแลเราดีจริงๆ ทำให้เรารู้สึกมีพลังที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

ตั้งแต่ขึ้นมาทำงาน HR ที่ธนาคารกสิกรไทย ได้บทเรียนสำคัญอะไรจากการบริหารคนบ้าง

ศันสนา: หลายอย่างเลย ถ้าเป็นเรื่องการดูแลชีวิตคนก็อย่างที่บอก แต่ยังมีเรื่องการเรียนรู้ที่จะสร้างทีม การมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง**

อย่างที่บอกว่างาน HR ถือเป็นงานศิลปะของผู้บริหารเลยนะ ตอนโควิดมีหลายเรื่องที่ต้อง trade off มาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของคน ยิ่งความปลอดภัยของคนนี้เป็นเรื่องที่เราต้องไม่ประนีประนอม แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้อง trade off งาน HR มันเป็นงานอาร์ต เราได้เรียนรู้ที่จะบาลานซ์หลายเรื่องร่วมกัน

ปีที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรได้รางวัล Best Companies To Work For จาก HR Asia รางวัลนี้มีความหมายอย่างไรบ้าง

ศันสนา: รางวัลเป็นของขวัญและกำลังใจสื่อว่า เราน่าจะเดินมาถูกทางแล้ว รางวัลนี้ไม่ใช่แค่รางวัลสำหรับ HR แต่เป็นของทุกคนในองค์กร เพราะมีทุกคนเราจึงมีวันนี้ได้ พนักงานทุกคนคือ Ambassador ของเรา ทำให้เรารู้สึกว่าเติบโตขึ้น แข็งแรงขึ้น มีภูมิมากขึ้น แต่เราก็ยังต้องสู้กันต่อไปเรื่อย ๆ เพราะโลกไม่เคยหยุดหมุน

เราคุยกันในทีมเสมอว่า เวลาได้รางวัลเราดีใจนะ แต่เส้นทางข้างหน้ายังไม่เบาลงเลย โจทย์ข้างหน้าไม่เคยเบา และมันยากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เคยฟังเขาเล่ามาอีกทีนะว่า เราเป็นเหมือนเรือในมหาสมุทร คลื่นในทะเลไม่ได้น้อยลง คลื่นมีแต่จะแรงขึ้น ใหญ่ขึ้น แต่เรือของเราแข็งแรงขึ้นได้ ทุกวันนี้เราพยายามทำให้เรือแข็งแรงขึ้น ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ถ้าคนของเราเจ๋ง ย่อมฝ่าคลื่นไปได้

ส่องวิสัยทัศน์ ศันสนา สุขะนันท์ HR นอกตำราแห่ง KBANK กับการเป็น CHRO กสิกรไทย

ถ้ามี HR จากองค์กรอื่น ไม่ใช่ที่ธนาคารกสิกรไทย กำลังรู้สึกหมดไฟเพราะเจอแต่งานยาก ๆ มาอ่านบทสัมภาษณ์นี้ คุณอยากบอกอะไรกับคนเหล่านั้น

ศันสนา: (คิดนาน) จะบอกว่า อย่าไปคิดว่ามันคืองาน HR

โดยส่วนตัวก็ไม่ได้มองว่าตัวเองถนัดงาน HR นะ งาน HR ไม่ง่ายแน่นอน แต่การได้ช่วยเหลือคน มันคือความภาคภูมิใจมหาศาล เราอาจมองว่าสร้างอิมแพ็คได้น้อยนิด แต่ในมุมของคนอื่น มันอาจมีความหมายเยอะก็ได้ มันเป็นน้ำหล่อเลี้ยง เป็นกำลังใจให้เรารู้สึกว่า เราทำงานนี้แล้วชีวิตมีความหมาย เรารู้ดีว่ามันยากลำบาก แต่ถ้า HR ไม่ทำ จะเห็น Impact ได้อย่างไร สมมติตอนโควิดที่ผ่านมา HR ไม่มาบริหารจัดการดูแลจะเกิดอะไรขึ้น HR มีความสำคัญและมีอิมแพ็คต่อชีวิตคน ไม่ใช่แค่อิมแพ็คต่อองค์กรเท่านั้น ถ้าใครเหนื่อย ให้ลองดูอิมแพ็คที่สร้างขึ้นว่า การที่เราดูแลชีวิตของพนักงาน และ Stakeholder ขององค์กรนั้นมีค่าแค่ไหน

ในฐานะ HR ของธนาคารกสิกรไทยที่ไม่ได้จบสาย HR มาโดยตรง อยากบอกอะไรกับคนที่จู่ ๆ ต้องผันตัวมาทำงาน HR บ้าง

ศันสนา: เราเคารพคนที่เป็น HR Professional มาตลอด HR เหล่านี้เก่งมากที่ทำงานด้านนี้ได้ เพราะต้องมี Passion เราเองมองไม่ออกเหมือนกันนะว่า ถ้าไม่ได้ทำงานที่นี่มานาน จะทำงาน HR ได้อย่างไร จะให้ไปเป็น CHRO ที่อื่นก็ไม่น่าได้ด้วย เพราะเราไม่ได้รู้จักองค์กรอื่นดีขนาดนั้น ที่มาถึงจุดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราเทพมาก แต่เราก็คงเดินมาถูกทางในระดับหนึ่ง และ FIT กับบริบทขององค์กร

คือมันไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของเราหรอก ถ้าพร้อมเรียนรู้ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ มันมีมุมที่สามารถเข้าใจต่อยอดได้ เพียงแต่ต้องจับหลักให้ถูกว่าเรากำลังทำเพื่อตอบโจทย์อะไร ต้องพิจารณา ต้องฟังเยอะให้ขึ้น พยายามทำความเข้าใจองค์กร เข้าใจคนรอบข้าง แล้วสร้างทีมเก่ง ๆ หาคนเก่ง ๆ มาคอยช่วยดูแล เพราะเราไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจ

ผู้เขียน

Paranaphat Anui

Paranaphat Anui

Take Off Toward a Dream

บทความที่เกี่ยวข้อง