HIGHLIGHT
|
ในอดีต Recruitment Agency หรือ บริษัทจัดหางาน มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือนายจ้างและผู้สมัครงานให้จับคู่งานกันได้อย่างเหมาะสม เพราะเป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงานกับทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่การคัดกรองเบื้องต้น การให้คำปรึกษาต่าง ๆ ไปจนถึงการเซ็นสัญญาว่าจ้าง เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายมากที่สุด
ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่หดตัว การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน ไปจนถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ Recruitment Agency ต้องปรับตัว ทั้งโอกาส ทิศทาง ความท้าทาย และทางรอดของธุรกิจนี้
ตลาด Recruitment Agency เป็นอย่างไร ?
Bullhorn ได้สำรวจบุคลากรในอุตสาหกรรมการจัดหางานกว่า 1,400 คนทั่วโลกเพื่อหาแนวโน้มอุตสาหกรรมในรายการ GRID ประจำปีครั้งที่ 14 ซึ่งเผยข้อมูลเชิงลึกสำหรับปี 2024 ดังนี้
ปี 2023 ถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับหลายบริษัท แม้จะมีความท้าทาย แต่ประมาณครึ่งหนึ่งของบริษัทที่สำรวจยังรายงานการเติบโตได้ดี โดยในปี 2022 มีบริษัทที่รายงานการเติบโตถึง 68% แต่ในปี 2023 จำนวนนี้ลดลงเหลือเพียง 49%
อย่างไรก็ตาม รีครูทเตอร์ที่สำรวจยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับรายได้ปี 2024 โดย 31% ของกลุ่มสำรวจคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 10% ขณะที่ 34% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ซึ่งมุมมองในแง่ดีนี้เป็นเหมือนกันในทุกตลาดและอุตสาหกรรม
ข้อมูลนี้บ่งบอกว่า แม้การเติบโตจะลดลง แต่คนทำงานในอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีความหวังและมองเห็นโอกาสในการฟื้นตัวอยู่เสมอ
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อ Recruitment Agency
การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน
ตลาดแรงงานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเด็น Talent Shortage หรือปัญหาการขาดแคลนคนทำงาน สอดคล้องกับรายงานข้างต้นที่บอกว่า 43% ยืนยันการขาด Talent Pools เป็นความท้าทายที่สุด
ไม่ว่าจะเกิดจากกระแสการลาออกครั้งใหญ่ การพัฒนาทักษะแรงงานที่ไม่ทันต่อความต้องการ เศรษฐกิจย่ำแย่ที่ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ ปิดตัว หรือกระทั่งการเข้ามาของแรงงานรุ่นใหม่ที่น้อยลง ทำให้การสรรหาพนักงานคนเก่งยากมากขึ้น
รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงเรื่องรูปแบบการจ้างงาน ที่หันไปใช้งานที่ไม่ต้องการทักษะสูงหรือจ้างรายวันผ่าน Gig Economy หรือ Freelance แทน ทำให้หลายบริษัทเลือกที่จะหาคนทำงานเหล่านี้ผ่านแพลตฟอร์มเฉพาะทางมากขึ้น
อย่างไรก็ตามคุณ แนน – ริศรา เจริญพานิช CEO ของ PRTR กล่าวว่า Talent Shortage กลับกลายเป็นข้อดีสำหรับเธอ “เมื่อทาเลนต์ในตลาดน้อยลง บริษัทก็หาคนได้ยากขึ้น การที่องค์กร Outsource มาให้คนที่เป็น Specialist ด้านการสรรหาก็ทำให้องค์กรมีโอกาสได้ทาเลนต์ง่ายขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสของ Recruitment Agency”
เทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาแทนการสรรหาแบบเดิม
ต้องยอมรับว่าการพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ทำให้กระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น บริษัทหลายแห่งจึงเริ่มใช้ระบบเหล่านี้ในการคัดกรองใบสมัครเบื้องต้นด้วยตัวเอง ทำให้การใช้บริการ Recruitment Agency ลดลง
ตัวอย่างเช่น บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Google และ Amazon ได้พัฒนา AI ที่สามารถคัดกรองและวิเคราะห์ประวัติผู้สมัครงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมได้รวดเร็วและลดภาระงานของ HR
เช่นเดียวกับ Recruitment Agency หลายบริษัทที่เริ่มมีการนำ AI มาใช้กันแล้ว เพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัท โดยมุ่งเน้นการใช้ AI เพื่อลดงานที่ทำซ้ำ ๆ ของมนุษย์ ทั้งยังคาดการณ์ไว้ว่า การใช้ AI จะเป็นเรื่องปกติของธุรกิจในปี 2025
ทั้งนี้ในไทยก็มีผู้บริการ AI ที่ช่วยในการสรรหาหลายรูปแบบมาก สามารถเข้าไปค้นหาได้ที่นี่ HR Products & Services
การสรรหาพนักงานผ่าน Social Media ที่ง่ายขึ้น
แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกไปแล้ว รวมถึงประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการใช้ Social Media สูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลกด้วย ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารติดต่อกันแล้ว ปัจจุบันยังเป็นเครื่องมือการสรรหาพนักงานใหม่ได้ด้วย
โซเชียลมีเดียเป็นประโยชน์ที่ทำให้บริษัทขนาดเล็กหางานได้ง่ายไม่ต้องเสียงบประมาณมาก ในขณะที่ทำให้บริษัทขนาดใหญ่สื่อสารกับวงกว้างได้มากกว่าเก่าและมีโอกาสได้ผู้สมัครที่หลากหลายขึ้น เช่น LinkedIn, Facebook หรือ LINE ทำให้ผู้หางานสามารถสมัครงานได้โดยตรงกับนายจ้าง โดยไม่ต้องผ่าน Recruitment Agency อีกแล้ว
ฉะนั้นเป้าหมายหลักทางธุรกิจของ Recruitment Agency จึงพยายามโฟกัสไปที่การค้นหาลูกค้าใหม่เป็นอันดับแรกเพื่อให้พวกเขาหันมาหรือยังคงใช้ Recruitment Agency กันต่อ
ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อ Recruitment Agency
รูปแบบการสรรหาที่ไม่ทันสมัย
หาก Recruitment Agency ยังคงใช้วิธีการทำงานแบบดั้งเดิม จะไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดแรงงานในปัจจุบันได้ ทำให้เสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่ใช้เทคโนโลยีและวิธีการใหม่ ๆ
ยกตัวอย่าง บางบริษัทจัดหางานยังคงใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เป็นหลัก อาจเสียเปรียบเมื่อเทียบกับบริษัทที่ใช้การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลหรือมีการประเมินออนไลน์ที่สามารถประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้สมัคร เพราะรายงานล่าสุดบอกว่า บริษัทที่มีประสิทธิภาพจะสามารถจัดหาพนักงานสำหรับองค์กรได้ภายในระยะเวลา 19 วัน
“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก องค์กรไม่รอแล้ว แต่การเป็น Recruitment Agency ต้องไม่ได้มีแค่ Speed อย่างเดียว แต่ต้องมี Value Addedในการคัดเลือกและส่งคนที่เหมาะสมกับองค์กรลูกค้านั่นเอง” คุณแนน CEO PRTR เสริม
ขาดนวัตกรรมในการให้บริการ
ถ้าบริษัทจัดหางานไม่สามารถนำเสนอบริการที่แตกต่างได้ ก็จะทำให้ลูกค้ามองหาทางเลือกอื่น ๆ โดยเฉพาะหากไม่มีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้รีครูทเตอร์สรรหาผู้สมัครที่ตรงความต้องการของลูกค้า
กระทั่ง Recruitment Agency บางบริษัทอาจไม่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถติดตามสถานะการสมัครงานของผู้สมัครได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้สมัครรู้สึกว่าการสมัครงานผ่านทางเลือกอื่นที่น่าเชื่อถือดีกว่า
เหมือนที่ Recruitment Agency อย่าง Reeracoen Thailand ได้ดิสรัปตัวเองด้วยการเปิดแพลตฟอร์ม Sourcedout ที่จะไม่มีรีครูทเตอร์ในบริษัท แต่จะใช้ฟรีแลนซ์ในการสรรหาแทน ทำให้ผู้ใช้บริการมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการใช้ Recruiting Agency ที่มีค่าใช้จ่ายสูงจากรีครูทเตอร์ที่เป็นพนักงานประจำนั่นเอง
“คอนเซปต์ของ Sourcedout หรือแพลตฟอร์ม Freelance Recruiter เราตั้งใจคิดขึ้นมาเพื่อให้ทุกส่วนที่อยู่ใน Community ของเราได้ประโยชน์ ถ้ามองในมุมถึงบริษัทต่าง ๆ แน่นอนว่า เรามีโอกาสได้ใช้ Service ที่ราคาไม่สูง ช่วยลดงานของ HR ในบริษัทลง รวมถึงจุดเด่นที่ Recruiter แต่ละคนมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่ต่างกัน เราก็จะได้ผู้สมัครจาก Talent Pool ใหม่ ๆ ที่ Source ปัจจุบันอาจจะมีข้อจำกัด” คุณ แก๊ป – พลวัต ลาภวณิชย์ New Business Development Manager ของ Reeracoen Thailand กล่าว
หากสนใจบริการ SourceOut สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางข้างล่างนี้ https://expth.hrnote.asia/products/1
ปัญหาด้านทรัพยากรบุคคลและการรักษาบุคลากร
ทราบไหมว่า Recruitment Agency มีอัตรา TurnOver Rate ในองค์กรที่สูงมาก ๆ เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่วัดความสามารถของพนักงานจากยอดขาย ไม่ใช่คุณค่าการจ้างงานที่มอบให้ผู้สมัคร ทำให้บางครั้งเกิดการส่งตัวผู้สมัครเพียงเพราะต้องการทำยอด ส่งผลให้ผู้สมัครไม่ Fit-in องค์กร และลาออกในที่สุด เสียทั้งเงินและเวลา แถมบริษัทยังสูญเสียความน่าเชื่ออีกด้วย
เหมือนที่ ชาลี วิทยาชำนาญกุล CEO & Co-Founder Resubae และบริษัทจัดหางานน้องใหม่ StartupBreed ให้สัมภาษณ์กับ HREX ไว้ว่า “StartupBreed ไม่มีหน่วยวัดเหมือน Recruiting Agency อื่น ๆ ที่ทำให้เครียดเรื่องยอดขายจนกลายเป็น Sales Organization แต่เราเป็น Quality Driven Organization จริง ๆ” ผลลัพธ์ก็คือองค์กรของเขายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี
ขณะที่คนเก่ง ๆ โดยเฉพาะรีครูทเตอร์ที่เป็น Talent ก็จะมีการแย่งตัวหรือซื้อตัวกันบ่อยครั้ง แต่ด้วยความกดดันในการทำงานด้วยตัวเลข ก็จะทำให้พวกเขาตัดสินใจลาออกได้
บริษัทจัดหางานที่ไม่สามารถรักษาพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร จึงจะประสบปัญหาในการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าเสมอ
พฤติกรรมผู้สมัครและนายจ้างที่เปลี่ยนไปก็ส่งผลต่อ Recruitment Agency
ผู้สมัครมีความต้องการที่หลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น
ปัจจุบันคนหางานมีโอกาสเลือกงานได้มากขึ้น เนื่องจากตลาดแรงงานมีการแข่งขันสูงและความต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางก็เพิ่มมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับตัวในการเสนอสวัสดิการและสิทธิประโยชน์คุณภาพ เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานเก่ง ๆ ให้ได้
ทว่าคนหางานเองกลับต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน ทำงานที่ไหนก็ได้ หรือการทำงานที่สามารถจัดการเวลาได้เอง ทำให้บางครั้งการใช้บริการของบริษัทจัดหางานที่มีรูปแบบการทำงานที่ตายตัวไม่ตอบสนองความต้องการนี้ ซึ่ง Recruitment Agency ไม่มีอำนาจเปลี่ยนบางรูปแบบงานที่องค์กรต้องการได้ ทำให้หลายครั้งการจับคู่งานให้ตรงกันจึงเป็นเรื่องยาก
เพราะท้ายที่สุดแล้วในสภาวะเศรษฐกิจเอาแน่เอานอนไม่ได้ คนหางานก็จะให้ความสำคัญกับ “ความมั่นคง” มากกว่า “ความไม่แน่นอน” ที่อาจนำไปสู่การเลิกจ้างแบบไม่ทันตั้งตัว
นายจ้างมีทางเลือกในการใช้ช่องทางอื่นหาผู้สมัครได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า บริษัทก็ยังคงมีอำนาจในการเลือกพนักงานให้เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งงานนั้น ๆ นายจ้างจึงสามารถใช้ช่องทางการสรรหาที่หลากหลาย และสามารถมองหาตัวเลือกหลาย ๆ คน จึงไม่แปลกที่องค์กรจะใช้บริการ Recruitment Agency หลายเจ้า หรือหลายช่องทาง เพื่อเพิ่มตัวเลือกในการรับสมัครงานและค้นหาผู้สมัครที่ตรงกับความต้องการที่สุด โดยเฉพาะความต้องการลูกจ้างที่เป็นทาเลนต์เข้ามาต่อยอดหรือทรานฟอร์มธุรกิจ ไม่ใช่แค่พนักงานทั่วไปที่เข้ามาแล้วบริษัทเหมือนเดิม
นับเป็นการแข่งขันที่ Recruitment Agency ต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Recruitment Agency ต้องปรับตัวอย่างไร ?
นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กร
บริษัทจัดหางานควรปรับตัวโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากร เช่น การใช้ AI ในการคัดกรองใบสมัคร เพราะทุกวันนี้คนเราไม่ได้กลัว AI กันแล้ว แต่อยู่ที่ว่าใครจะใช้งาน AI เป็นต่างหาก
หรือการมีระบบจัดการข้อมูลของผู้สมัครแบบออนไลน์ เพราะการมี Database ผู้สมัครก็จะช่วยให้รีครูทเตอร์สามารถหาพนักงานได้เร็วขึ้น และเอาเวลาไปคุยกับผู้สมัคร ก่อนที่จะส่งให้ลูกค้านั่นเอง
นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด
การมีแค่ธุรกิจเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแข่งขันอีกต่อไป หลายบริษัทจึงเริ่มหา New S-Curve สำหรับการเติบโต ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน
ยกตัวอย่าง PRTR บริษัท Recruitment & Outsourcing ของไทย ที่มีพนักงานเอาต์ซอร์สกว่า 17,000 คน ก็ยังมีการแตกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านเทรนนิ่งองค์กร อย่าง The Blacksmith และระบบ HR Software อย่าง Pinno
“ทั้งหมดเป็นการปรับตัวและต่อยอดธุรกิจของเราให้ตอบโจทย์ตลาด ปัจจุบัน Recruitment Agency ไม่ได้ทำแค่การหาคนเข้ามาในองค์กรเท่านั้น แต่ยังต้องคิดถึงวิธีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรด้วยการ Re-skill และ Up-skill ดังนั้น The Blacksmith จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะใหม่ ๆ” คุณ แนน CEO PRTR กล่าว
“ในขณะเดียวกัน Pinno เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ฝ่าย HR ทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะหาก HR ต้องเสียเวลามากมายไปกับการดูเอกสารหรือนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ นั่นหมายความว่า HR ยังไม่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ HR ควรจะมีเวลาไปพูดคุยกับพนักงานเพื่อเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของพวกเขา รวมถึงหาวิธีทำให้พนักงานทุกคนมีเป้าหมายและทิศทางเดียวกันกับบริษัท”
หรือ Reeracoen Thailand ที่ปล่อยซอฟต์แวร์ Applicant Tracking System (ATS) เพื่อจัดการและติดตามข้อมูลของผู้สมัครงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโปรแกรมนี้แจกฟรีอยู่ หากองค์กรไหนสนใจสามารถติดต่อได้ที่นี่ https://expth.hrnote.asia/products/222
พัฒนาทักษะของทีมงานรีครูทเตอร์
รีครูทเตอร์คือหัวใจของ Recruitment Agency เป็นอย่างมาก การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของทีมงานให้มีความรู้ในสายงานตัวเอง เข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเข้าใจตลาดที่ตัวเองกำลังสรรหาอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทจัดหางานสามารถแข่งขันได้ในตลาดได้
เสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งองค์กร ลูกค้าและผู้สมัคร
สิ่งที่ทำให้รีครูทเตอร์สักคนประสบความสำเร็จคือ Soft Skill โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและผู้สมัคร
บริษัทจัดหางานต้องสามารถนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและสร้างความประทับใจให้กับผู้สมัครเพื่อให้พวกเขาเลือกใช้บริการอีกในอนาคต
บางบริษัทจัดหางานมีการจัดทำกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ เช่น การจัดเวิร์กช็อปเพื่อพัฒนาทักษะให้กับผู้สมัคร หรือการจัดกิจกรรม Networking สำหรับนายจ้างและผู้สมัคร เพื่อสร้างความประทับใจและความไว้วางใจในบริการของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่โทรศัพท์เพื่อรักษาความสัมพันธ์อย่างเดียว
โอกาสและความท้าทายของ Recruitment Agency
เพราะตลาดแรงงานในอนาคตจะยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทจัดหางานต้องสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างทันท่วงที ต้องรู้ว่าอะไรคือทักษะอนาคต ? แรงงานจะหน้าตาเป็นอย่างไร ? งานจะเปลี่ยนไปรูปแบบไหน ?
สิ่งเหล่านี้จะทำให้บทบาทของบริษัทจัดหางานเปลี่ยนไปแน่นอน เช่นเดียวกับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจก็จะยังเป็นความท้าทายอันดับหนึ่งเสมอ
ทว่าในวิกฤติยังมีโอกาส เพราะนับตั้งแต่ HREX เปิดบริการ Solution Finder รับปรึกษาเพื่อหา HR Products & Services ให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร พบว่า Recruitment Solution ยังเป็นหมวดหมู่บริการที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
ฉะนั้นทางรอดของ Recruitment Agency จึงต้องผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยี การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน และการหาลูกค้าใหม่ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทสรรหาสามารถเผชิญกับความท้าทายและใช้โอกาสในปี 2024 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
Recruitment Agency ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องจับตามองต่อไป เพราะจุดแข็งหลักคือการเข้าถึงเครือข่ายผู้สมัครที่กว้างขวาง มีฐานข้อมูลของผู้สมัครที่มีคุณภาพจากหลากหลายอุตสาหกรรมและระดับประสบการณ์ ทำให้สามารถคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมได้รวดเร็วกว่าการประกาศรับสมัครเอง ความเชี่ยวชาญนี้จะช่วยองค์กรที่ใช้บริษัทจัดหางานประหยัดเวลาและทรัพยากร
อยู่ที่ว่า บริษัทจัดหางานนั้นจะปรับตัวหรือไม่ ?
เพราะหากไม่ปรับตัวตอนนี้ มันก็อาจตัดสินอนาคตของธุรกิจ Recruitment Agency นั้นได้เช่นเดียวกัน
Source: |