Question: ขอสอบถามเรื่องการสัมภาษณ์ว่าสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ควรถามเรื่องอะไรมากกว่า ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องทัศนคติ
Answer:
“You can’t teach employees to smile. They have to smile before you hire them”
– Arte Nathan, President & COO – Strategic Development Worldwide
ความหมายของคำพูดนี้สามารถใช้กับ Trend ปัจจุบันในด้านการสัมภาษณ์เด็กรุ่นใหม่ได้ครับ คือให้มองหาทัศนคติที่เหมาะสมกับองค์กรของเราก่อน อยากแชร์เบื้องหลังเพิ่มเติมคือสำหรับเด็ก Gen ใหม่ก่อนนะครับ ที่หลายคนอาจคุ้นเคยคือ ดูเปลี่ยนงานบ่อย ไม่เป็นหลักแหล่ง ทำงานไม่นาน ดูเกินจริง จึงอยากแชร์มุมมองก่อนครับ
- การเปลี่ยนงานบ่อยของพวกเค้ามีสาเหตุจากความคิดเป็นหลัก ซึ่ง Gen Y กับ Gen Z อาจมีมุมความคิดต่างกันอยู่บ้าง ดังนี้
…………….Gen Y: การทำงานต้องทำงานด้วยความสุข ไม่ใช่ทำเพราะจำเป็น ดังนั้นหากการทำงานของพวกเค้าไม่มีความสุข เค้าจะไม่เลือก ไม่อยู่ การที่เด็กรุ่นใหม่ดูเหมือนเปลี่ยนงานบ่อย มีเบื้องหลังมาจากความคิดนี้ เพราะเค้าถือว่าถ้าสภาพจิตใจในการทำงานดี การทำงานก็ดีด้วย\
…………….Gen Z: เด็กวัยนี้จะรักความอิสระ ชอบคิดชอบมองหาตัวเลือก ดังนั้นการที่เค้าจะเลือกงานอะไรสักอย่าง จะต้องมีเหตุผลมากพอว่า “ทำไม” ฉันถึงต้องเลือกงานนี้? ดังนั้นหากเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามในบริษัทที่ทำให้เป้าหมายหรือจุดประสงค์ของเค้าหายไป ก็จะเกิดการเปลี่ยนงาน
- เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถ(Skill) สูงอย่างเห็นได้ชัด และ Passion ค่อนข้างแรง แต่ยังไม่มีผลงาน ดังนั้นให้มองที่ทักษะกับ Passion ก่อนเป็นหลัก
มาสู่การสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ตามตั้งแต่เด็กจบใหม่ยันผู้บริหาร สิ่งที่ HR จะต้องรู้ให้ได้จะด้วยการถามหรือการสังเกตก็แล้วแต่ มี 2 ข้อใหญ่ๆคือ
1.ผู้สมัครจะทำงานได้ไหม?(เพื่อมองที่ทักษะ)
2.ผู้สมัครจะเข้ากับองค์กรได้ไหม? (เพื่อมองที่ Passion)
ผู้สมัครจะทำงานได้ไหม ?
- สิ่งที่จะบอกได้ดีที่สุด คือทักษะและความสามารถ ทั้งทักษะเฉพาะทาง (Hard Skills) และ (Soft Skills)
…………….– Hard Skill ดูไม่ยาก เพราะระดับความสามารถวัดได้
…………….– Soft Skills ดูยาก และไม่มีอะไรตายตัว วิธีที่ง่ายสุดคือ ถามเป็นสถานการณ์เพื่อดู Soft Skills ของผู้สมัครจากการตอบ
- HR ควรเป็นคนที่วิเคราะห์ Soft Skills ของผู้สมัครและให้คำแนะนำแก่หัวหน้างาน
วิธีการเตรียมตัวสำหรับผู้สัมภาษณ์
- List ทักษะในตำแหน่งงานออกมาให้เหมาะสม(ไม่มาก/น้อยเกินไป) ซึ่งหัวหน้างานควรรู้ดีสำหรับ Hard Skill และ HR เสริมส่วนที่เป็น Soft Skill ได้
- เตรียมคำถามในเชิงสถานการณ์หรือปัญหาสำหรับ Soft Skills และตีความเบื้องต้นไว้ก่อนว่าการตอบลักษณะไหนที่ถือว่าเป็นการใช้ทักษะได้ดีในมุมมองของเรา ตัวอย่างด้านล่าง
.– ถ้าลูกค้าติดปัญหาด้าน X เราจะให้คำแนะนำอย่างไร? เพราะอะไร ?
– มีไอเดียในการแก้ปัญหา X อยู่ 2 อย่าง คือ 1 และ 2เราจะเลือกวิธีไหน เพราะอะไร ?
3. พยายามถามด้วยคำถามปลายเปิด เพื่อเจาะลึกถึงเบื้องหลังความคิดของผู้สมัคร เช่น เพราะอะไรถึง X / รู้สึกอย่างไรกับ Y / สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร
ผู้สมัครจะเข้ากับองค์กรได้ไหม ?
- เราจะสามารถหาผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กรได้ ผู้สัมภาษณ์ต้องรู้สิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน
…………….– วัฒนธรรมขององค์กร: ถ้าดูแบบภาพรวมขององค์กร ให้ดูที่คุณค่าขององค์กร เพื่อจะเข้าใจภาพรวม เช่น เน้นการลงมือทำเป็นหลัก และทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ให้ความปรองดองมาเป็นหนึ่ง เป็นต้น
…………….– สถานการณ์ของทีมที่กำลังหางาน: ลักษณะการทำงาน/ความคิด/บุคลิกของหัวหน้าและคนในทีม ความกดดัน ปริมาณงาน
…………….– 2 อย่างนี้ต้องเข้าใจเพื่อจะสามารถรู้ได้ว่าผู้สมัครที่มี Passion แบบใดจึงจะเหมาะกับองค์กรของเรา
วิธีการเตรียมตัวสำหรับผู้สัมภาษณ์
- สังเกต บันทึก และทำความเข้าใจบริบทขององค์กรของเรา ดูง่ายๆจาก คุณค่าหลักขององค์กรลักษณะการตัดสินใจขององค์กร, Mood/Tone ของบรรยากาศการทำงาน, การเปลี่ยนแปลง, การอนุมัติขั้นตอนการทำงานต่างๆ
- เตรียมคำถามที่เป็นเชิงสภาพแวดล้อมที่ผู้สมัครเคยผ่านมา และ/หรือ อยากทำงานด้วย ตัวอย่างด้านล่าง
…………….– เป้าหมายในการทำงานของเราคืออะไร?
…………….– การทำงานที่เก่ามีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง? เรารู้สึกยังไงกับการทำงานแบบนี้?
…………….– ชอบหัวหน้าแบบไหน?
…………….– เพื่อนร่วมงานแบบไหนที่เราจะชอบทำงานด้วย?
…………….– เหตุการณ์ในการทำงานที่เก่าที่ปลื้ม/ไม่ปลื้มที่สุด คืออะไร?
สรุป สิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้สัมภาษณ์ ไม่ใช่แค่จะถามคำถามอะไรเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจถึงองค์กรของเราด้วยว่ามี Passion อะไร มีลักษณะงานอย่างไร
คำถามที่ดี จะเกิดได้ง่ายขึ้น เมื่อเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก่อน
คุณมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการคำตอบใช่หรือเปล่า?
หากคุณรู้สึกว่าได้รับเทคนิคดี ๆ จากบทความนี้และอยากได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก
สามารถตั้งคำถามได้ในชุมชนของเรา ! แล้วคุณจะได้รับคำตอบมืออาชีพจากผู้เชี่ยวชาญ