Salary Advance บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า ตัวช่วยที่จะทำให้บริษัทสบายใจ พนักงานยิ้มได้อย่างไร้กังวล

HIGHLIGHT
  • บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า (Salary Advance) กำลังเป็น FinTech ใหม่! ที่ได้รับความสนใจจากองค์กรและพนักงานบริษัท
  • พนักงานเบิกเงินเดือนของตัวเองมาใช้ก่อน โดยไม่ต้องกู้เงิน ขอสินเชื่อ และเสียดอกเบี้ยใดๆ และไม่ต้องกังวลเรื่องการชำระหนี้ เพราะระบบจะตัดจากเงินเดือนให้อัตโนมัติ
  • องค์กรไม่ต้องมานั่งปวดหัวเรื่องการจัดการเงินให้พนักงาน ไม่ต้องกุมขมับกับการหาแหล่งเงินอื่นๆ มาช่วยเหลือพนักงาน เพราะบริษัทตัวกลางจะช่วยรับภาระเงินนี้ไว้
  • อนุมัติง่าย ช่วยแก้ปัญหาเงินฉุกเฉินได้ทันท่วงที พนักงานไม่ใช้เงินเกินรายรับของตน ไม่สร้างหนี้ก้อนโตในระยะยาว

Salary Advance บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า ตัวช่วยที่จะทำให้บริษัทสบายใจ พนักงานยิ้มได้อย่างไร้กังวล

ค่าครองชีพในยุคนี้ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานกลับขยับขึ้นช้าอย่างกับเต่าคลานแบบตามไม่ทัน นั่นทำให้หลายคนมีปัญหาเรื่องการเงิน ใช้เงินแต่ละเดือนแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินเดือนไม่พอใช้จนทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องพูดถึงเวลาเจ็บป่วยกระทันหันหรือมีเหตุต้องให้ใช้เงินด่วน พนักงานเงินเดือนทั้งหลายก็เลยต้องกังวัลใจอยู่บ่อยๆ ในการบริหารจัดการใช้จ่ายจนทำให้เครียดไปตามๆ กัน

ในขณะที่มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายประสบปัญหาทางด้านการเงินกันอยู่เป็นประจำ ในทุกวันนี้ก็มีตัวช่วยทางด้านการเงินมากมายเช่นเดียวกัน แต่ตัวช่วยส่วนใหญ่มักพ่วงมาด้วยดอกเบี้ยที่แสนแพง ข้อตกลงและกฎเกณฑ์ที่แสนโหด ไปจนถึงข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ยากจนเกินไป นั่นเลยทำให้ปัญหาทางการเงินของเหล่าพนักงานกินเงินเดือนจึงยังคงมีให้เห็นอยู่มากมายเป็นประจำในทุกวันนี้

นอกจากบริษัทต่างๆ จะให้บริการทางด้านการกู้เงินล่วงหน้าในแบบต่างๆ แล้ว หลายองค์กรเองก็กระโดดเข้ามาช่วยเหลือพนักงานของตนเองเป็นการภายในเพื่อช่วยบรรเทาปัญหานี้ อย่างเช่นการออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, การติดต่อสินค้าหรือบริการมาจำหน่ายให้ในราคาถูก, การช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ให้, ไปจนถึงการให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้า แต่สิ่งเหล่านี้บางครั้งตัวองค์กรเองก็ต้องมานั่งกุมขมับกับปัญหาที่ตนรองรับไว้แทนพนักงานเช่นกัน เพราะภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ไม่ใช่น้อยที่องค์กรต้องแบกรับสำหรับช่วยเหลือบุคลากรของตน

นั่นจึงเป็นที่มาของทางออกที่ดียิ่งกว่าสำหรับทุกคนในกรณีนี้ ซึ่งทางออกนี้ก็คือบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ในระบบ “บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า” ที่เรียกกันว่า Salary Advance หรือ Payroll Advance นั่นเอง แต่บริการนี้แตกต่างจากการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าที่องค์กรต้องรับผิดชอบเองมาเป็นการให้บริษัทตัวกลางเป็นคนรับผิดชอบในเรื่องการเงินนี้แทน ซึ่งจะช่วยลดภาระและรับความกังวลขององค์กรมาแทน ผลลัพธ์ก็คือ พนักงานมีความสุข ไม่ต้องทุกข์กับปัญหาการเงิน แถมองค์กรก็สบายใจ ไม่ต้องกังวัลกับการแบกภาระที่หนักอึ้งไว้กับตัว มาลองดูกันดีกว่าว่าบริการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง

ระบบ Salary Advance นั้นต่างจากบัตรเครดิตหรือระบบกดเงินสดอย่างไร

หลายคนอาจสงสัยว่า App ที่ทำขึ้นมาเพื่อรองรับระบบ Salary Advance นั้นจะมีข้อดี-ข้อเสียหรือแตกต่างจากบัตรเครดิต ตลอดจนระบบกดเงินสดอย่างไร แล้วมันต่างจากการกู้เงินกับธนาคารอย่างไรหรือไม่ มาลองดูเบื้องต้นกัน

บัตรเครดิต (Credit Card)

การให้บริการ : ระบบบัตรเครดิตก็คือสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่งที่บริการให้เราสามารถใช้จ่ายเงินล่วงหน้าได้ผ่านบริการบัตรเครดิต โดยเงินที่ชำระสินค้าหรือบริการไปก่อนหน้านั้นจะเสมือนการกู้เงินจากบริษัทที่ให้บริการมาชำระก่อน เมื่อถึงกำหนดลูกค้าผู้ใช้บริการจึงจะนำเงินไปชำระหนี้กับบริษัทนั้นคืน เป็นการใช้เงินในอนาคตโดยการกู้เงินนั่นเอง ซึ่งจะเสียดอกเบี้ยในการบริการตามข้อกำหนดต่างๆ ของแต่ละบริษัท

  • ข้อได้เปรียบ
    • สามารถใช้จ่ายเงินล่วงหน้าได้ทันท่วงที
    • สามารถแบ่งชำระตามอัตราขั้นต่ำได้ โดยไม่ต้องชำระยอดเต็มที่กูยืมมาในคราวเดียว
    • อนุมัติบัตรครั้งแรกครั้งเดียว ครั้งต่อไปใช้จ่ายได้เลยโดยไม่ต้องขออนุมัติอีก
  • ข้อเสียเปรียบ
    • ก่อนสมัครบัตรเครดิตจะต้องมีการพิจารณาหลักฐานเป็นจำนวนมาก หลายขึ้นตอน กว่าจะอนุมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงหากชำระไม่หมดในคราวเดียว โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยปรับ
    • สร้างหนี้ในอนาคตที่อาจเกินรายรรับที่ได้ ทำให้เกิดภาระหนี้สะสม ทบไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่
    • ใช้จ่ายได้เฉพาะร้านค้าหรือบริษัทที่รับชำระด้วยบัตรเครดิตของบริษัทนั้นๆ เท่านั้น

ระบบกดเงินสดล่วงหน้า (Cash Advace / Cash Card)

การให้บริการ : ระบบบัตรกดเงินสดล่วงหน้าก็คือสินเชื่อส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่งที่บริการให้เราสามารถเบิกเงินสดมาใช้ล่วงหน้าก่อนได้ โดยสามารถนำเงินสดไปจับจ่ายได้อิสระกว่าการใช้บัตรเครดิต ระบบนี้ก็จะเสมือนการกู้เงินจากบริษัทที่ให้บริการคล้ายๆ กับบัตรเครดิต แต่จะได้เป็นเงินสดมาถืออยู่ในมือ เมื่อถึงกำหนดลูกค้าผู้ใช้บริการจึงจะนำเงินไปชำระหนี้กับบริษัทนั้นคืน เป็นการใช้เงินในอนาคตโดยการกู้เงินนั่นเอง ซึ่งจะเสียดอกเบี้ยในการบริการตามข้อกำหนดต่างๆ ของแต่ละบริษัท

  • ข้อได้เปรียบ
    • สามารถเบิกออกมาเป็นเงินสดได้ ใช้จ่ายสะดวกสบาย อิสระกว่าการใช้บัตรเครดิต
    • สามารถแบ่งชำระตามอัตราขั้นต่ำได้ โดยไม่ต้องชำระยอดเต็มที่กูยืมมาในคราวเดียว
    • อนุมัติบัตรครั้งแรกครั้งเดียว ครั้งต่อไปใช้จ่ายได้เลยโดยไม่ต้องขออนุมัติอีก
  • ข้อเสียเปรียบ
    • ปัจจุบันหลักฐานในการอนุมัติบัตรกดเงินสดง่ายกว่าบัตรเครดิต แต่ก็ต้องมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ
    • อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงมาก สูงกว่าบัตรเครดิต และหากชำระไม่หมดในคราวเดียวดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยปรับ
    • สร้างหนี้ในอนาคตที่อาจเกินรายรรับที่ได้ ทำให้เกิดภาระหนี้สะสม ทบไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่

การกู้เงินในระบบ (Personal Loan)

การให้บริการ : การทำเรื่องขอกู้เงินล่วงหน้าจากธนาคาร หรือบริษัทที่ให้บริการทางด้านการเงิน โดยมากจะเป็นการกู้เงินก้อนใหญ่เพื่อชำระหนี้ก้อนใหญ่เสียมากกว่าการกู้มาเพื่อใช้จ่ายรายวันทั่วไป แต่บางครั้งผู้กู้ก็อาจกู้เงินก้อนใหญ่เพื่อนำมาแบ่งใช้รายวันก็มี การชำระหนี้ก็จะตามกำหนดการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา

  • ข้อได้เปรียบ
    • ได้เงินก้อน เบิกออกมาเป็นเงินสดได้ มีอิสระในการใช้จ่าย
    • สามารถแบ่งชำระได้ตามการทำสัญญากับแต่ละธนาคารหรือบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน
    • อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำกว่าการใช้บริการบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด แต่ก็เป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงอยู่ดี
  • ข้อเสียเปรียบ
    • ทำเรื่องกู้ยาก ใช้หลักฐานมากมาย ต้องมีเหตุผลอันสมควรในการกู้ อนุมัติค่อนข้างยาก
    • สร้างหนี้ในอนาคตที่อาจเกินรายรรับที่ได้ ทำให้เกิดภาระหนี้สะสม ทบไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่

การกู้เงินนอกระบบ (Informal loan / loan sharking)

การให้บริการ : การทำเรื่องขอกู้เงินล่วงหน้าจากบุคคลหรือบริษัทที่ไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐในการอนุญาตให้บริการทางการเงิน อัตราดอกเบี้ยตลอดจนกระบวนการต่างๆ จะอยู่นอกระบบ เป็นการตกลงสัญญาร่วมกันระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ เมื่อถึงกำหนดก็นำเงินมาชำระหนี้ตามข้อตกลง

  • ข้อได้เปรียบ
    • ได้เงินไว ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานประกอบการพิจารณามาก หรือบางครั้งแค่มีบัตรประชาชนก็กู้ได้เลย
    • สามารถแบ่งชำระได้ตามการทำสัญญากับแต่ละบุคคลหรือบริษัทนั้นๆ
  • ข้อเสียเปรียบ
    • สร้างหนี้ในอนาคตที่อาจเกินรายรรับที่ได้ ทำให้เกิดภาระหนี้สะสม ทบไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่
    • อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราปกติมาก การคิดดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลหรือบริษัท ไม่มีระบบระเบียบตายตัว
    • ถูกเอาเปรียบได้ง่าย และฟ้องดำเนินคดีได้ยาก ไม่มีการคุ้มครองทางกฏหมาย
    • อาจถูกทวงหนี้โหด ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตได้

ข้อดีสำหรับการใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า

ข้อดีสำหรับองค์กร

  1. บริษัทไม่ต้องมานั่งปวดหัวในการบริหารเงินเพื่อช่วยเหลือพนักงาน
  2. อัตราการลาออกของบุคลากรจะลดลง พนักงานจะทำงานกับองค์กรยาวนานขึ้น
  3. องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากพนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น ไร้กังวลภาวะทางการเงิน
  4. องค์กรตลอดจนฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) มีต้นทุนในการสรรหาพนักงานลดลง
  5. ลดขั้นตอนยุ่งยากในการดำเนินการด้านการเงินให้กับพนักงานในองค์กร

ข้อดีสำหรับพนักงาน

  1. ชำระเงินได้ตามกำหนด ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. ลงทะเบียนง่าย อนุมัติด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ผูกกับข้อมูลอ้างอิงของบริษัทที่เชื่อถือได้
  3. สามารถใช้เมื่อไรก็ได้ ยื่นคำขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าเมื่อไรก็ได้ อิสระต่อการผูกมัด
  4. เบิกเงินได้ง่าย สะดวกสบาย ผ่าน Application บนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์
  5. ไม่ต้องกู้เงินหรือขอสินเชื่อที่เกินรายรับของตัวเอง ไม่สร้างหนี้ก้อนโตให้เป็นภาระ
  6. อนุมัติรวดเร็วทันใจ เพราะอนุมัติตามวงเงินของรายได้ตัวเราเองที่ทำไว้ล่วงหน้าแล้ว
  7. มีแหล่งเงินสำรองฉุกเฉินให้อุ่นใจ เบิกช่วยเหลือยามตกทุกข์ได้ยากอย่างกระทันหันได้

ผู้เขียน

HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง