HIGHLIGHT
|
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลจากการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานของพนักงานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์อีกหลายด้านอยู่ แต่จะทำอย่างไรดีเมื่อวิถีการทำงานยุคนี้เริ่มปรับเปลี่ยนสู่วิถีดิจิตอลที่ข้อมูลนั้นแม่นยำ รวดเร็ว ว่องไว แถมเชื่อมโยงได้ง่ายดาย และสร้างความสะดวกสบายให้ชีวิตเราในหลายๆ ด้าน หนึ่งในสิ่งที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองสู่การเป็น HR ยุค 4.0 ที่จะเอื้อประโยชน์ให้ออฟฟิศยุคใหม่ได้มหาศาลก็คือการปรับระบบฐานข้อมูลสู่ระบบออนไลน์ที่เชื่อมต่อกันได้กับฐานข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) แล้วอีกหนึ่งอย่างที่โลกแห่งการทำงานทุกวันนี้กำลังเปลี่ยนไปก็คือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับบุคลากร โดยเฉพาะเทรนด์ล้ำสมัยที่กำลังมาอย่างระบบการเช็คเวลาเข้า-ออกงานแบบออนไลน์ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายตั้งแต่พนักงานยันฝ่าย HR กันเลยทีเดียว มาลองดูกันดีกว่าว่าระบบที่กำลังน่าสนใจนี้เป็นอย่างไร และเริ่มมีบริการไหนที่น่าสนใจที่ให้บริการในเมืองไทยกันบ้าง เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นออฟฟิศยุคดิจิตอลในอนาคต
Contents
- ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์ (Online Time Attendance Management) คืออะไร
- ความแตกต่างระหว่างเครื่องตอกบัตรกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือแบบใหม่
- ประโยชน์ของการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์และแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล
- บริษัทในเมืองไทยที่ให้บริการระบบบันทึกเวลาการเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์
- บทสรุป
- สร้างวินัยให้องค์กรและพนักงาน : การบันทึกเวลาเข้า-ออกงานเป็นเวลาจะช่วยให้พนักงานเริ่มทำงานอย่างพร้อมเพรียง เลิกงานอย่างเท่าเทียม และสร้างระบบระเบียบในการทำงานที่ดี ให้พนักงานรู้จักเห็นคุณค่าของเวลา เคารพในกฎระเบียบ และสร้างวินัยในการทำงาน
- บันทึกหลักฐานการทำงาน : บริษัทมีหลักฐานชั่วโมงการทำงานของพนักงาน และพนักงานก็มีหลักฐานในการยืนยันตนเองด้วยเช่นกัน ซึ่งชั่วโมงในการทำงานนั้นจะมีส่วนเกี่ยวช้องในการคำนวนเงินเดือน, หรือหักเงินจ้างในกรณีที่ทำงานไม่ครบตามชั่วโมงที่กำหนดได้อีกด้วย หากไม่มีหลักฐานชัดเจนกันทั้งสองฝ่ายก็อาจเกิดการถกเถียงกันได้ภายหลัง หรือไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน หลักฐานนี้ยังมีประโยชน์ในอีกหลากหลายด้านรวมถึงส่วนของนอกองค์กรด้วย อย่างเช่น หลักฐานพนักงานที่ส่งให้หน่วยงานรัฐ, หลักฐานการทำงานที่ใช้รับรองกับการทำธุรกรรม, หรือการบันทึกชั่วโมงการทำงานสำหรับบางสาขาอาชีพที่จำเป็นต้องใช้หลักฐานด้านนี้ เป็นต้น
- ประเมินผลงานประจำปี : วินัยในการทำงานสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลงานประจำปีได้ รวมถึงประเมินผลโบนัสได้อีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในเกณฑ์สำคัญของการประเมินผลในหลายๆ อย่างเลยทีเดียว
- ควบคุมการทำงานได้ง่าย : ระบบลงเวลาหรือตอกบัตรในการทำงานจะสามารถทำให้ควบคุมการทำงานของพนักงานได้ง่าย ไม่ยุ่งยากกับการจัดการต่างๆ ที่ต่างคนต่างทำงานอย่างอิสระ
- ใช้บริหารงบประมาณ : หลักฐานในด้านจำนวนชั่วโมงในการทำงาน, การขาด-ลา-มาสาย, ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการคำนวนรายได้ของพนักงานที่เป็นระบบระเบียบ และสามารถบริหารงบประมาณ ตลอดจนบริหารการใช้จ่ายงบขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสร้างความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์ (Online Time Attendance Management) คืออะไร
ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์ (Online Time Attendance Management) ก็คือระบบลงเวลาเข้าออกงานโดยผ่านอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner), สมาร์ทโฟน (Smart Phone), แทบเล็ต (Tablet), ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย และเชื่อมต่อสู่ระบบข้อมูลกลางอย่างระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ ซึ่งการยืนยันตัวตนในรูปแบบนี้สามารถเข้าระบบที่ไหนก็ได้ในโลก เป็นการบันทึกเวลาทำงานได้แบบ Real Time ที่เชื่อมต่อข้อมูลสู่ฐานข้อมูลกลางเดียวกัน แถมยังระบุตำแหน่งได้ชัดเจน สามารถเป็นหลักฐานประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการเก็บข้อมูลโดยระบบสแกนนิ้วแบบเดิมที่ไม่เชื่อมต่อสู่ระบบออนไลน์หรือระบบตอกบัตรได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถประมวลผลข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ แม่นยำ ชัดเจน และรวดเร็วอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่างเครื่องตอกบัตรกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือแบบใหม่
เครื่องสแกนลายนิ้วมือ | เครื่องตอกบัตร |
ลายนิ้วมือมีความเฉพาะบุคคล ป้องกันการสวมรอยหรือฝากให้คนอื่นบันทึกเวลาแทนได้ | ฝากให้คนอื่นบันทึกเวลาแทนได้ |
เป็นเครื่องป้องกันความปลอดภัยไปในตัว ในการเปิดประตูเข้าออฟฟิศ | ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยได้ |
ข้อมูลที่บันทึกเป็นระบบดิจิตอล สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายดาย เข้าโปรแกรมคำนวณต่างๆ ได้ง่าย | ข้อมูลที่บันทึกเป็นระบบเอกสาร ทำให้เสียเวลาเก็บข้อมูล และเสียเวลาคำนวณข้อมูล |
ข้อมูลคำนวณโดยคอมพิวเตอร์ แม่นยำ ถูกต้อง | ข้อมูลคำนวณโดยมนุษย์ที่อาจเกิดความผิดพลาด (Human Error) ได้ง่าย |
จัดเก็บข้อมูลง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บ | จัดเก็บข้อมูลยาก ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บ และเปลืองทรัพยากร |
แก้ไขข้อมูลได้ยาก ข้อมูลเสียหายยาก ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง | แก้ไขข้อมูลได้ง่าย ข้อมูลเสียหายง่าย ข้อมูลมีความปลอดภัยต่ำ |
ไม่ต้องใช้ทรัพยากรอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะใช้ลายนิ้วมือของแต่ละบุคคลเป็นเครื่องยืนยันตัวตน | ต้องใช้ทรัพยากรอื่นๆ เพิ่มเติมตามจำนวนบุคคล เช่น กระดาษในการบันทึกเวลา |
ประหยัดงบประมาณในระยะยาว | ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาว |
ข้อมูลสามารถส่งตรงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของฝ่ายบุคคลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้โดยตรงเลย ไม่เสียเวลา | ข้อมูลไม่ส่งตรงไปยังฝ่ายบุคคลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้โดยตรง ต้องเดินมาเอายังแหล่งข้อมูลเอง ทำให้เสียเวลาอย่างมาก |
ใช้เวลาในการประมวลผลข้อมูลรวดเร็ว | ใช้เวลาในการประมวลผลข้อมูลยาวนาน |
สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ง่าย รวมถึงระบบคลาวด์ (Cloud System) ที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมที่กำลังมาสำหรับระบบการบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน | ไม่สามารถเชื่อมต่อสู่ระบบดิจิตอล, ระบบอินเตอร์เน็ต, หรือระบบคลาวด์ (Cloud System) ได้ |
ประโยชน์ของการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์และแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล
การนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้กับการทำงานขององค์กรให้เหมาะสมนั้นจะช่วยให้แต่ละฝ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ของการบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล (Attendance Management Application) นั้นมีมากมายเช่นกัน
- 1.บริหารจัดการข้อมูลได้รวดเร็ว ว่องไว สะดวกสบาย : การบันทึกเวลาการทำงานในรูปแบบเดิมอย่างเช่นการตอกบัตรนั้นทำให้เสียเวลามาก และต้องใช้เวลามากในการนำเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ การบันทึกเวลาการทำงานในรูปแบบใหม่นี้จะทำให้บริหารจัดการข้อมูลเป็นไปแบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะการคำนวนต่างๆ ตั้งแต่การคำนวนชั่วโมงการทำงาน, การคำนวนชั่วโมงที่ไม่ได้ทำงาน, การคำนวนอัตราเงินเดือนของพนักงานแต่ละคน, ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ นั้น ทำได้อย่างรวดเร็วผ่านโปรแกรม สามารถทราบข้อมูลได้แบบ Real Time และสามารถประมวลข้อมูลได้หลากหลายลักษณะตามต้องการอย่างทันท่วงที
- 2.ทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียว และ เบ็ดเสร็จในจุดเดียว (All in One & One Stop Service) : การเข้าออกงานแบบบันทึกเวลาระบบดั้งเดิม อย่างการตอกบัตร หรือ สแกนนิ้วมือนั้นเป็นเพียงแค่การบันทึกเวลาเข้าออกเฉยๆ การขาด-ลา-มาสาย หรือการดำเนินการเรื่องชั่วโมงการทำงานอื่นๆ นั้นยังคงเป็นระบบใช้มนุษย์จัดการบันทึกอยู่เช่นเคย แต่สำหรับการบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล (Attendance Management Application) นั้นสามารถทำทุกอย่างได้ในที่เดียวทั้งในส่วนของพนักงานเองและฝ่ายทรัพยากรบุคคล ทำผ่านระบบฐานข้อมูลกลางที่ผ่านระบบ Cloud ซึ่งเป็นข้อมูลหนึ่งเดียวกัน ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมีข้อมูลหลายแหล่ง และเป็นบริการแบบ One Stop Service คือเข้ามาใน App เดียวแล้วจัดการได้ทุกเรื่อง ทุกอย่าง
- 3.สะดวกทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere & Anytime) : พนักงานตลอดจนฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เองสามารถเข้า App ได้ทุกที่ทุกเวลาในการบันทึกเวลาเข้างานตามจริง และเหมาะสม ทั้งข้อมูลยังถูกต้องชัดเจนด้วย สามารถเข็คอินได้ทุกแห่งทั่วโลก ทุกเวลา แม้เวลาต่าง Time Zone กัน ซึ่งบางครั้งต้องไปทำงานยังต่างประเทศ ก็สามารถบันทึกเวลาทำงานตามจริงได้ ไม่ต้องรบกวนฝ่าย HR
- 4.หลักฐานที่ชัดเจนแน่นอน มีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ (Working Hours Evidence) : การบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล (Attendance Management Application) นั้นยังทำให้ข้อมูลชัดเจน แน่นอน ถูกต้อง ไม่ได้อ้างอิงจากคำบอกเล่าของพนักงาน ซึ่ง App จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีระบบระบุตำแหน่งและเวลาได้ด้วย ทำให้มีหลักฐานแน่นอนจริงว่าอยู่ ณ สถานที่นั้น เวลานั้นจริงหรือเปล่า เป็นหลักฐานที่ดีกว่าการบอกปากเปล่า
- 5.พนักงานสามารถบริหารจัดการวันลาได้ด้วยตัวเอง : พนักงานทุกคนจะมีโควต้าในการลางานประจำตัวอยู่แล้ว เมื่อใช้ App แล้วจะทำให้เรารู้โควต้าที่ใช้ไป ตลอดจนโควต้าที่เหลือ รวมถึงจัดการการลาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องไปถามฝ่ายบุคคลซ้ำไปซ้ำมาถึงเรื่องโควต้าวันลา หรือสิทธิต่างๆ เพราะทุกอย่างจะคำนวนและปรากฎข้อมูลใน App ให้อัตโนมัติ ทำให้ง่ายต่อการบริหารวันลาของตนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นหรือฝ่ายบุคคลจนเกินไป
- 6.ไม่สร้างความขัดแย้งให้กับบุคลากรในองค์กร : ระบบการบันทึกเวลาแบบเดิมเป็นเพียงการบันทึกเวลาเฉยๆ เท่านั้น การขาด-ลา-มาสาย ยังคงมีการตามข้อมูลกัน หรือโทรสอบถามกัน ซึ่งบางเรื่องก็ไม่มีใครอยากรบกวน หรือยุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง ตลอดจนซักถามข้อมูลความเป็นจริงเพื่อบันทึกลงในเอกสาร ซึ่งการสื่อสารระหว่างกันด้วยอารมณ์ในบางครั้งอาจทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และขัดแย้งกันได้ การใช้ App บันทึกเวลานั้นอาจลดการปะทะหรือทะเลาะในส่วนนี้ไปได้เยอะ และไม่สร้างความบาดหมางหรือความแตกแยกให้กับบุคลากรในองค์กรได้ด้วย
- 7.ประหยัดทรัพยากร : การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล (Attendance Management Application) นั้นจะช่วยทำให้องค์กรประหยัดทรัพยกรไปได้หลายอย่าง อย่างเช่น กระดาษในการบันทึกเอกสารต่างๆ ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่ทุกคนพยายามช่วยกันลดการใช้ทรัพยากรให้น้อยลง เพื่อโลกที่ยั่งยืนด้วย นอกจากนี้ก็ยังไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องมือต่างๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น เครื่องมือตอกบัตร หรืออื่นๆ ใช้เพียงแค่เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรใดเดิ่ม
- 8.ประหยัดงบประมาณ : การประหยัดทรัพยากรนั้นส่งผลต่อการประหยัดงบประมาณโดยตรง ไม่ต้องมีงบจัดซื้ออุปกรณ์ให้สิ้นเปลือง หรืองบในการบำรุงรักษาซ่อมแซม ใช้เพียงแค่งบในการซื้อเทคโนโลยีเท่านั้น กรณีนี้องค์กรใหญ่มักจะเห็นผลในการประหยัดงบประมาณได้ชัดเจนกว่า
- 9.ไม่จำเป็นต้องใช้บุคลากรเยอะ : เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระการทำงาน ทำให้ลดอัตราจ้างพนักงานลงได้ เมื่อทุกคนร่วมกันใช้ App และระบบ Cloud ก็จะช่วยให้การทำงานสะดวกสบายขึ้น การจัดการง่ายขึ้น และไม่จำเป็นต้องใช้คนจัดการมาก ลดปริมาณคนในฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ได้ องค์กรสามารถบริหารงานและเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- 10.สามารถอัพเดท (Update) เทคโนโลยีใหม่ได้เสมอ : การอัพเดทเทคโนโลยีตลอดจนสิ่งที่เป็นประโยชน์สมัยใหม่กับซอฟท์แวร์ต่างๆ นั้นทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดกว่าการอัพเดทฮาร์ทแวร์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิตอลที่มีการ Update ได้แบบ Real Time ไม่ยุ่งยากเสียเวลา ทำให้ระบบสามารถมีอะไรใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วยที่ดีได้เสมอ ประหยัดกว่าการใช้ฮารด์แวร์หรือซอฟท์แวร์ระบบปิด
- 11.พักงานเกิดความสบายใจ สุขภาพจิตดี เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน : เมื่อพนักงานไม่ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องการตอกบัตรหรือบันทึกเวลาที่ออฟฟิศก็จะทำให้พนักงานรู้สึกเป็นอิสระมากขึ้น ไม่ต้องมากังวัลกับปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทำให้ชีวิตมีความสุข สุขภาพจิตดี ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
- 12.บริษัทยังคงสร้างวินัยให้กับการทำงานขององค์กรได้เช่นเดิม : การบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบุคคล (Attendance Management Application) ในระบบใหม่นี้ยังคงมีการบันทึกข้อมูลที่องค์กรจำเป็นต้องใช้เหมือนเดิม และยังคงสร้างวินัยให้กับพนักงานได้เช่นเดิม เพียงแต่ว่าจะเป็นวินัยในการบริการจัดการเวลาแบบยุคใหม่ที่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่กับที่เสมอไป แต่ฝึกความรับผิดชอบในการทำงานและการใช้เวลาให้คุ้มค่าได้ดี มีวินัยในการบันทึกข้อมูล วินัยในการทำงานที่ชัดเจน และมีหลักฐานในการทำงานที่ชัดเจนขึ้นอีกด้วย เป็นข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือขึ้นได้ด้วย
บริษัทในเมืองไทยที่ให้บริการระบบบันทึกเวลาการเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์
เทรนด์ของการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบออนไลน์นี้กำลังเป็นกระแสนิยมที่กำลังมา หลายองค์กรเริ่มปรับเปลี่ยนหันมาใช้ระบบนี้กันบ้างแล้ว และช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้องค์กรมีศักยภาพขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการระบบบันทึกเวลาเข้าออกงานผ่านระบบออนไลน์ในเมืองไทย ซึ่งมีการให้บริการโปรแกรมตั้งแต่แบบให้ใช้ฟรี, ทดลองใข้ฟรีระยะสั้น, ไปจนถึงเสียค่าสมาชิกตลอดจนค่าดำเนินการ ซึ่งก็จะมีส่วนทำให้โปรแกรมแต่ละประเภทมีศักยภาพที่แตกต่างกันด้วย เรามาลองดูบริษัทที่ให้บริการในด้านนี้ในเมืองไทยกันดีกว่าว่ามีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง
1. PAYDAY
- ใช้ GPS ในการเข้าออกงานได้
- สามารถดูข้อมูลของพนักงานได้อย่างง่ายดาย
- คำนวณเงินเดือนได้อัตโนมัติ
- คำนวณค่าภาษีได้อัตโนมัติ
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ไม่จำกัด
- สามารถลงทะเบียนผู้ดูแลระบบได้ไม่จำกัด
- สามารถเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด
- ใช้ GPS ในการตอกบัตรได้
- มีระบบคำนวณค่าล่วงเวลา (OT)
- มีระบบคำนวณผลกำไร
- มีระบบคำนวณภาษี
- ออกใบรับรองการทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้
- อื่นๆ อีกมากมาย
- ทำงานพื้นฐานทุกอย่างได้เหมือนระบบฟรี
- สามารถบันทึกเวลาผ่านทางโทรศัพท์ได้
- อนุมัติค่าใช้จ่ายผ่านทางโทรศัพท์ได้
- สร้างรูปแบบคำนวณอัตราภาษีเงินได้
- สร้างรูปแบบระบบประกันภัยสังคมได้
- บริการหาพนักงานใหม่ทางเว็บไซต์
- อื่นๆ อีกมากมาย
2. JOBCAN
- สามารถตรวจสอบกับ GPS และระบบ IC Card ได้
-
สามารถตั้งค่าเวลาตลอดจนจัดการระบบเวลาได้ง่าย และใช้กับระบบทีมได้สะดวก
-
สามารถสร้างระบบจัดตำแหน่งที่ดีที่สุดได้
3. FlareDash
- ง่ายต่อการตรวจสอบและยืนยัน เวลาในการเข้า – ออกงาน
- ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการจัดการข้อมูลการจ่ายเงิน ออกบิล และตรวจสอบข้อมูล
4. Orisoft
- ดูแลปฎิทินการเข้างานได้อย่างง่ายดาย
- คำนวณค่าจ้างรายชั่วโมงได้ถูกต้อง แม่นยำ
- คำนวณค่าทำงานล่วงเวลา (OT) ได้อัตโนมัติ
- สามารถสร้างความหลากหลายของแบบฟอร์มปฏิทินการเข้างานได้
- สามารถตั้งค่าผู้ดูแลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ
- สามารถสร้างรายงานการตอกบัตรเข้าออกงานและการทำงานล่วงเวลาได้
โปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดที่บริษัทอีกครั้ง
5. WE-LA-DEE
จุดเด่นของบริการ
- สามารถบันทึกข้อมูลเชื่อมต่อกับระบบ RFID ได้ทันท่วงที
- สามารถแปลงไฟล์ข้อมูลมาเป็นการรายงานผลผ่านไฟล์ PDF ที่ดูได้ง่ายดายและชัดเจน
- พนักงานสามารถลงทะเบียนลาพักร้อนได้ โดยระบบจะส่งข้อมูลไปยังแผนก HR ให้อัตโนมัติ
- แผนก HR สามารถตอบคำขอร้องต่างๆ และทำการอนุมัติผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ 5 คน
- รองรับระบบปฎิบัติการหลากหลายทั้ง iOS และ Android
- ประมวลผลไฟล์ได้หลากหลายสกุล ตั้งแต่ XLS、CSV และ Json
- ทำงานพื้นฐานทุกอย่างได้เหมือนระบบฟรี
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ 20-50 คน
- สามารถบันทึกเวลาทำงานผ่านระบบออนไลน์โดยอุปกรณ์ต่างๆ ได้
- สามารถแสดงและเปลี่ยนเครื่องหมายหรือชื่อบริษัทได้ทางโทรศัพท์
- สามารถทำงานร่วมกับระบบ API (Application Programming Interface) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. OneDee
จุดเด่นของบริการ
- มีระบบ User Interface (UI) ที่เป็นมิตร สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
- สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกงานได้หลากหลายวิธีและรองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Wi-Fi, GPS, QR, iBeacon
- สามารถสร้างระบบการทำงานแบบแผนกหรือกลุ่มได้ง่ายดาย
ต่าบริการ
- 650 บาท / คน (พนักงาน)
- 6,000 บาท / พนักงาน 200 คน
※ มีบริการให้ทดลองใช้ฟรี ※
7. SMART TA
จุดเด่นของบริการ
- สามารถแบ่งระดับพนักงานได้5ระดับ แต่ละระดับสามารถเปลี่ยนแปลงการใช้งานได้สะดวก
- สามารถจดจำข้อมูลของเวลาและสถาที่ได้อย่างแม่นยำ
- สามารถบันทึกเวลาการเข้างานผ่านทางระบบ QR ได้
ค่าบริการ
- พนักงาน 10 คน : 339 บาท / คน
- พนักงาน 50 คน : 179 บาท / คน
- พนักงาน 100 คน : 159 บาท / คน
8. Cloud-TA
จุดเด่นของบริการ
- บันทึกเวลาเข้างานโดยสแกนลายนิ้วมือหรือผ่าน App บนมือถือ
- สามารถใช้ App ในระบุตำแหน่ง GPS เพื่อเชื่อมต่อระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานได้
- ใช้ Bluetooth ส่งสัญญาณบันทึกเวลาเข้า-ออกอัตโนมัติได้ในระยะ 5-10 เมตร
- มีเทคโนโลยีระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) จาก Microsoft
พนักงาน 1-25 คน
- รายเดือน : 1,500 บาท / เดือน
- รายปี : 16,200 บาท / ปี
พนักงาน 900-1,000 คน
- รายเดือน : 31,000 บาท / เดือน
- รายปี : 334,800 บาท / ปี
พนักงานมากกว่า 1,000 คน
- รายเดือน : 30 บาท / คน (พนักงาน)
9. TimeMint
จุดเด่นของบริการ
- สามารถใช้ระบบ GPS、QR หรือ Beacon ในการบันทึกลายนิ้วมือเพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออกการทำงานได้
- ค่าบริการยืดหยุ่น / สามารถปรับลด-เพิ่มพนักงานได้ทันที
- สามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกงานผ่านทาง LINE ได้
ค่าบริการ
โปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดที่บริษัทอีกครั้ง
10. Face time stamp
จุดเด่นของบริการ
- สามารถใช้กล้องบนคอมพิวเตอร์อ่านข้อมูลได้
- การรายงานผลสามารถประมวลได้ง่ายภายใน 30 วินาที
- สามารถใช้งานผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ได้
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ 10 คน
- ลงทะเบียนลางานผ่านระบบออนไลน์ได้
- รายงานผลอัตโนมัติ (ทั้งแบบรายเดือนและรายปี)
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ 15-150 คน
- สามารถเพิ่มระบบการลาป่วยหรือลางานกรณีอื่นๆ ได้
- มีระบบส่งอีเมลอัตโนมัติแจ้งถึงสถานะการเข้า-ออกงาน
- ปิดรับการโฆษณาได้
11. Biosoft cloud
จุดเด่นของบริการ
- สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านโทรศัพท์มือถือได้
- สามารถใช้รูปภาพในการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานได้
- ขอลา-อนุมัติการลา ผ่านระบบออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือได้
Free Package
- ผู้ใช้งานได้สูงสุด 10 คน > ฟรี
Small Package
- ผู้ใช้งานได้สูงสุด 50 คน > 2,000 บาท / เดือน
Mediam Package
- ผู้ใช้งานได้สูงสุด 200 คน > 4,000 บาท / เดือน
Large Package
- ผู้ใช้งานได้สูงสุด 400 คน > 8,000 บาท / เดือน
12. HumanOS
- ใช้ GPS เพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออกงานได้
- สามารถใช้ App ในการบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน หรืออนุมัติเรื่องต่างๆ ได้
- สามารถประมวลผลข้อมูลเป็นไฟล์ PDF ให้อ่านเข้าใจได้ง่าย
ค่าบริการ
- สามารถลงทะเบียนพนักงานได้ 10 คน
- ทำงานพื้นฐานทุกอย่างได้เหมือนระบบฟรี
- ลงทะเบียนพนักงานได้ไม่มีกำหนดจำนวน
- คำนวณค่าล่วงเวลา (OT), เงินเดือน, และอื่นๆ เพิ่มเติมได้
- มีระบบประเมินผล KPI ให้ใช้บริการ
13. Fusion
- สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกงานผ่านระบบจดจำภาพถ่ายได้
- สามารถใช้ GPS ในการทึกเวลาเข้า-ออกงานได้
- สามารถดูแลบริหารจัดการข้อมูลของพนักงานได้
ค่าบริการ
โปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดที่บริษัทอีกครั้ง
บทสรุป
ระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานยังคงมีความจำเป็นกับองค์กรอยู่ แต่การจะปรับตัวให้ทันตามยุคดิจิตอลนั้นสามารถปรับระบบนี้ให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายขึ้นได้ ซึ่งเทรนด์แห่งออฟฟิศยุคดิจิตอลที่กำลังมานั้นก็คือการปรับระบบบันทึกเวลาเข้า-ออกงานสู่ระบบออนไลน์ (Online Time Attendance Management) ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ (Cloud System) ที่เป็นฐานข้อมูลกลางเดียวกัน และมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานในการบันทึกเวลาเข้าออกงานด้วย ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือผ่านสมาร์ทโฟน, การใช้ GPS ช่วยยืนยันและระบุตำแหน่งเพื่อเป็นหลักฐาน, ไปจนถึงการสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการบริหารจัดการงานบุคคลต่างๆ อาทิ วันขาด-ลา-มาสาย ที่สามารถส่งขออนุมัติผ่านทางสมาร์ทโฟนได้ และฝ่ายบุคคลตลอดจนผู้บริหารก็สามารถกดอนุมัติผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันทีเช่นกัน นอกจากความสะดวกสบายแล้วข้อมูลยังมีความปลอดภัยอีกด้วย และสามารถประมวลผลได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ซึ่งนี่คือเทรนด์ของออฟฟิศยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง