Search
Close this search box.

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

HIGHLIGHT

  • Sense of Ownership คือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องสร้างขึ้นให้ได้ เพราะจะช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพในองค์กรและช่วยยกระดับบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พร้อมๆ กัน
  • Sense of Ownership สร้างขึ้นได้ด้วยการทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนมีคุณค่า เป็นส่วนสำคัญขององค์กร โดยวิธีที่บริษัทชั้นนำเลือกใช้ก็คือ การบริหารจัดการแบบเฉพาะ (Personalized Management) เพื่อให้ได้กระบวนการทำงานที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและทัศนคติเฉพาะบุคคล
  • การบริหารจัดการแบบเฉพาะ (Personalized Management) จะทำให้พนักงานมีความสุข อยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมขององค์กร และทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น เพราะทุกคนรู้สึกว่าตนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ได้ผลตอบแทนที่ควรจะได้รับ พนักงานจึงทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ มีความผูกพัน และเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน (Sense of Ownership) ต้องการพัฒนางานและผลักดันงานนั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วง
  • TeamLink คือแพลตฟอร์มที่ออกแบบตามอัตลักษณ์ของแต่ละองค์กร (Corporate Identity) และสามารถกำหนดฟีเจอร์ตามความต้องการเฉพาะขององค์กรได้ สามารถใช้งานได้ทั้งบนโทรศัพท์, เว็บไซต์ และสมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ภายใต้แนวคิด “All Together in One Corporate App” ช่วยลดความวุ่นวายในการสื่อสารได้อย่างเป็นรูปธรรม
  • TeamLink มีลักษณะเป็น Corporate Hub ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานให้ดีขึ้นผ่านระบบ Employee Self-Service และ Smart Intranet จึงทำงานได้อย่างสบายใจไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลกก็ตาม

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ
ในยุคสมัยที่โลกเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด องค์กรส่วนใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยความหลากหลายและความวุ่นวาย ปัญหานี้ได้นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยยกระดับความสามารถพร้อมกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อพนักงานโดยตรง 

สิ่งเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับผลประกอบการในภายหลังทั้งสิ้น ดังนั้นองค์กรที่จะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน คือองค์กรที่รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง และสามารถคิดค้นนโยบายให้พนักงานทุกระดับอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ไม่ว่าจะด้วยการใช้เครื่องมือ, การอบรม หรือมีแพลตฟอร์มในรูปแบบใดก็ตามที่ทุกคนมีส่วนร่วม

ประสบการณ์ที่ดีจะนำไปสู่ “ความเป็นเจ้าของ” (Sense of Ownership) ซึ่งถือเป็นรากฐานที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนต้องยกระดับตัวเองขึ้น, อยากพัฒนางานที่ได้รับมอบหมายให้ดีขึ้น, อยากมีคุณค่าต่อองค์กรมากขึ้น นี่คือแนวคิดสำคัญของสังคมทำงานในปัจจุบันที่พนักงานถูกดึงความสนใจ (Distraction) ได้ตลอดเวลา 

บทความนี้เราจะพาผู้อ่านไปรู้จักกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานที่ดี ตลอดจนคุณประโยชน์ของการใช้แพลตฟอร์มอย่าง TeamLink ที่พร้อมช่วยให้ทุกองค์กรปรับตัวในโลกดิจิทัลได้ในแบบเฉพาะองค์กรของคุณ ช่วยให้งานของ HR ง่ายขึ้น และทำให้พนักงานได้ประสบการณ์ทำงานที่ดีกว่าเดิม อ่านรายละเอียดไปพร้อมกับเราได้ที่นี่

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

Sense of Ownership คืออะไร สำคัญกับองค์กรในปัจจุบันอย่างไร ?

“ความเป็นเจ้าของ” คือการที่พนักงานรู้สึกว่าต้องทำหน้าที่ของตนอย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งการจะสร้างขึ้นมาได้นั้น จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทั้งเพื่อนร่วมงาน, หัวหน้าทีม และฝ่ายบุคคล (HR) โดยองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งคือการทำให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายที่สุด ผ่านแพลตฟอร์มประเภท Corporate Portal ที่รวมทุกอย่างเอาไว้ที่เดียว เพราะเมื่อการทำงานคล่องตัว พนักงานก็จะใช้เวลากับหน้าที่ของตนได้มากขึ้น เห็นพัฒนาการได้มากขึ้น และทำให้รู้สึกผูกพันกับองค์กร

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราสามารถอธิบายถึงประโยชน์ของ Sense of Ownership ได้ดังนี้

  1. Sense of Ownership ช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงาน : ความรู้สึกเป็นเจ้าของกระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้มากขึ้น (Upskill), อยากศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น (Research) เพื่อยกระดับการทำงาน ไม่จำเป็นต้องรอรับคำสั่งจากหัวหน้าฝ่ายเดียว
  2. Sense of Ownership ช่วยให้เราทำงานตรงกับวัตถุประสงค์ขององค์กรมากขึ้น : วิสัยทัศน์องค์กร (Company Vision) คือกลไกที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งความเป็นเจ้าของจะส่งเสริมเรื่องนี้ได้มาก เพราะกระบวนการทำงานของทุกคนจะตรงกัน ไม่มีใครหลุดกรอบ แต่ก็ต้องมาควบคู่กับการวัดผลและตรวจสอบ (Monitoring) ที่ยอดเยี่ยมด้วย แพลตฟอร์มที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการเฉพาะขององค์กรจะช่วยให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพขึ้น
  3. Sense of Ownership ช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในทีม : ความเป็นเจ้าของจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความเป็นทีม  ทุกฝ่ายจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสาร ต้องสามารถช่วยเหลือกัน (Supporting), ทำอย่างไรถึงจะไม่ทำร้ายอีกฝ่าย, ต้องมีความเห็นอกเห็นใจ  (Empathy), ทำอย่างไรถึงจะออกความเห็นได้ (Feedback Culture) ฯลฯ
  4. Sense of Ownership ช่วยให้เราเก่งขึ้น : ความเป็นเจ้าของยังช่วยให้เราหันมาตรวจสอบตัวเองว่าเราเก่งพอที่จะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ทำให้เราอยากที่จะพัฒนาความสามารถ (Competence) และทักษะ (Skill) ใหม่ ๆ มากขึ้น เพื่อปิดช่องว่างทางทักษะ (Skill Gap) และต่อยอดตามแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล Individual Development Plan (IDP)
  5. Sense of Ownership ช่วยรักษาพนักงาน (Retention) และดึงดูดพนักงานใหม่ (Recruiting) : หากเราเห็นเพื่อนร่วมงานที่ให้ความสำคัญกับงานและหน้าที่ตลอดเวลา ให้ความร่วมมือ และช่วยกันผลักดันให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย เราย่อมเกิดคำถามตามมาว่า องค์กรนั้นมีอะไรดีจึงสร้างทัศนคติที่ดีดังกล่าวภายในทีมได้  สิ่งเหล่านี้จะถูกบอกต่อกลายเป็นแบรนด์นายจ้าง (Employer Branding) ช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมงาน ลดต้นทุนในการหาพนักงานใหม่ ส่วนพนักงานปัจจุบันก็อยากอยู่กับองค์กรไปนานๆ

Sense of Ownership หรือความเป็นเจ้าของไม่ได้มีประโยชน์แค่กับการทำงานเท่านั้น แต่นำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต หากเรานึกถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ เราก็จะมีความตระหนักรู้ และสามารถรับมือกับทุกเรื่องราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

เหตุผลที่ต้องสร้าง Sense of Ownership ด้วย Personalization

ผลสำรวจองค์กรในประเทศไทยจาก WTW กล่าวว่าในปี 2023 มีคนที่ลาออกจากงานโดยสมัครใจอยู่ที่ 10.9% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูง และทำให้องค์กรไทยต้องหันมาใส่ใจเรื่องการเสนอค่าจ้างและสวัสดิการที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในตำแหน่งสำคัญๆ เช่น Digital Marketing, Data Scientist รวมถึงนักพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นต้น พนักงานรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงานมักคาดหวังอิสรภาพและความยืดหยุ่น (Flexible) ในการทำงานสูง โดยหากการทำงานบริษัทไม่สอดคล้องกับการใช้ชีวิต พวกเขาก็มีทางเลือกอื่นในการพิจารณาเสมอ

สาเหตุสำคัญของปัญหาคือองค์กรส่วนใหญ่ยังใช้ระบบของนโยบายกลางที่คิดว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์แบบเดียวกันหมด (One Size Fit All) จึงทำให้นโยบายต่างๆ ตอบโจทย์คนเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น คนที่ไม่มีปากเสียงจะถูกมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัวหากไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นพูด โดยคุณ แจ็คเกอลีน เน็ดวิน (Jacqlyn Nedvin) จาก Forbes Human Resources Council ได้ยืนยันว่าโลกหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นไม่มีทางทำงานแบบ One Size Fits All ได้อีกแล้ว แต่ต้องมีการปรับปรุงแบบเฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น หากต้องการให้พนักงานเห็นคุณค่าและอยากทุ่มเทเวลากับงานมากกว่าเดิม

ประเด็นนี้คือปัญหาของหลายองค์กรที่ต้องแก้กันตั้งแต่ราก เช่น เรื่องของการสื่อสาร (Communication), เรื่องความอาวุโสในองค์กร (Hierarchical), การหาผู้สืบทอด (Succession Plan) ตลอดจนรูปแบบการอบรมพัฒนาทักษะพนักงาน (Employee Development) เป็นต้น

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ หากองค์กรของเรามีพนักงานจากหลายช่วงอายุ, หลากหลายองค์ความรู้ พนักงานเหล่านั้นก็ย่อมต้องการเครื่องมือสื่อสารที่แตกต่างกัน เช่น พนักงานฝ่ายปฏิบัติการอาจเหมาะกับการสื่อสารบนบอร์ดพนักงาน หรือใช้ Traditional Intranet, เด็กรุ่นใหม่ที่สะดวกรับข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน , พนักงานที่ชอบออกกำลังกายและคุ้นเคยกับการสื่อสารผ่าน Watch Application เป็นต้น 

กล่าวได้ว่าวิธีสื่อสารในโลกธุรกิจมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากองค์กรรู้จักสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบสนองวิถีชีวิตของคนทุกรูปแบบ ประสิทธิภาพในการสื่อสารขององค์กรก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

สร้าง Sense of Ownership ในองค์กรได้ง่าย ๆ ด้วย Personalization

แม้องค์กรส่วนใหญ่จะพยายามสร้างสรรค์แนวทางการทำงานแบบเฉพาะบุคคล แต่ก็ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะประสบความสำเร็จ เพราะการออกแบบประสบการณ์จำเป็นต้องมีข้อมูลที่แข็งแรงรอบด้าน ต้องผ่านการพูดคุยกับพนักงาน สอดคล้องกับ Segment ที่ได้เผยสถิติที่น่าสนใจว่า แม้องค์กรถึง 85% จะมองว่าตนได้มอบประสบการณ์ทำงานแบบเฉพาะบุคคลแล้ว แต่ความจริงมีพนักงานราว 60% ที่มองว่าสิ่งที่องค์กรทำไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ข้อมูลนี้คือการพิสูจน์ว่า Personalization ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกัน

ฉะนั้น HR ต้องตั้งเป้าหมายและทำงานโดยใช้ความเห็นของพนักงานเป็นที่ตั้งอย่างแท้จริง

เพราะมีสถิติที่น่าสนใจอีกมากมายที่บ่งบอกว่า Personalization ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ  McKinsey กล่าวว่าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จะมีผลประกอบการดีกว่าองค์กรทั่วไป 10-15% สอดคล้องกับ Google ที่ระบุว่า Personalization ส่งผลโดยตรงกับผลกำไรของบริษัทถึง 90% และปิดท้ายด้วย Hubspot ที่กล่าวว่า Call to Action ที่ผ่านการปรับปรุงให้สอดคล้องกับผู้ใช้งานแต่ละรายจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมได้มากสุดถึง 202% เลยทีเดียว 

เหตุนี้หากคุณสัมผัสว่าพนักงานของคุณยังไม่มี Sense of Ownership ก็ได้เวลามาตั้งคำถามแล้วว่านโยบายและกระบวนการทำงานของคุณ เป็นแบบเลือกปฏิบัติเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นหรือเปล่า

กล่าวโดยสรุปได้ว่าการมีแพลตฟอร์มที่ดีจะทำให้พนักงานโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ เกิดเป็นความผูกพัน, รู้สึกเป็นเจ้าของงาน และต้องการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยกระดับการทำงานของตนและคนในทีมไปอีกขั้น นี่คือรากฐานของการสร้าง Sense of Ownership ที่สมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องดีไปอีกหาก HR สามารถหาแพลตฟอร์มกลางที่คนทุกรูปแบบได้ประโยชน์เท่า ๆ กัน 

สร้างความเป็นเจ้าของให้พนักงาน (Sense of Ownership) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

ยกระดับ Sense of Ownership ในองค์กร ด้วย TeamLink แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

TeamLink มาพร้อมแนวคิด “All Together in One Corporate App” มีเป้าหมายเพื่อสร้าง Corporate Hub เอาไว้ยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานให้ดีขึ้นด้วยแพลตฟอร์มเดียว ผ่านระบบ Employee Self-Service ที่ใช้งานได้ตลอดเวลาจากทั่วทุกมุมโลก

เราสามารถเรียก TeamLink ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังขององค์กร เพราะสามารถเข้าถึงได้ทั้งบนหน้าเว็บไซต์ และบนโทรศัพท์มือถือ ครอบคลุมทั้งด้านการพัฒนาระบบสื่อสารในองค์กร (Communication), สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Engagement), ส่งเสริมการเรียนรู้ (Learning) และดูแลด้านการพัฒนาทีม (Development) โดยจุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือการสร้างแอปพลิเคชั่นที่มีอัตลักษณ์   ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแต่ละองค์กรโดยเฉพาะผ่านกระบวนการ Design Employee Experience Journey

แพลตฟอร์มของ TeamLink แบบ Standard Package ประกอบด้วย 13 ฟีเจอร์ที่ช่วยเสริม 4 ด้านหลักในยุค HR 5.0 ให้กับองค์กร ดังนี้

  1. ด้านการสื่อสาร (Communication) : TeamLink สามารถยกระดับการสื่อสารภายในองค์กรได้เลย ทั้งด้านการประกาศข่าวสาร, การชี้แจงกฎระเบียบข้อบังคับ, การแจ้งเตือน, การรายงานความเคลื่อนไหวขององค์กร โดยสามารถจัดรูปแบบการสื่อสารให้เหมาะกับคนแต่ละกลุ่ม ฟีเจอร์ในส่วนนี้ได้แก่ ALL ABOUT, NEWS & ANNOUNCEMENT, POLICY & GUIDELINE, INBOX, LINKS
  2. ด้านการเรียนรู้และส่งเสริมพัฒนาการ (Learning & Development) : TeamLink จะช่วยให้พนักงานมีความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของงานตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาสู่องค์กร เพราะสามารถดูแลได้ตั้งแต่วันปฐมนิเทศ เรื่อยไปจนถึงการอบรมพนักงานในปัจจุบันให้เก่งขึ้นและอยากมีส่วนร่วมกับองค์กรยิ่งขึ้น โดยมีการสะสมเหรียญเพื่อแลกของรางวัลเป็นตัวโน้มน้าวใจ ฟีเจอร์ในส่วนนี้ได้แก่ ON-BOARDING, LEARN, ACTIVITIES, PUZZLE 
  3. ด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Engagement) : ทีม HR สามารถใช้แพลตฟอร์ม TeamLink เพื่อสร้างกิจกรรมร่วมกับพนักงานได้ โดยกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เกิดความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ (Small Wins) ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้ระหว่างทาง จะช่วยส่งเสริมความสุขในการทำงาน, ได้กระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ฟีเจอร์ในส่วนนี้ได้แก่ EMPLOYEE DIRECTORY, PROFILE, SCANNER, SURVEY, COIN, PHOTO GALLERY
  4. ด้านเครื่องมือที่มีประโยชน์อื่น ๆ (Enhancement) : องค์กรที่ดีคือองค์กรที่ไม่หยุดนิ่ง ดังนั้นแพลตฟอร์มหลักขององค์กรก็ต้องพร้อมปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงด้วย TeamLink จึงมีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การทำงานคล่องตัว (Workflow) รวมถึงการประเมินและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยแก้โจทย์ที่ท้าทายใหม่ ๆ ในการทำงาน (Digital Transformation) ฟีเจอร์ในส่วนนี้ได้แก่ EMPLOYEE SELF-SERVICE, APPROVAL WORKFLOW, INTERNAL SYSTEM INTEGRATION

TeamLink จะช่วยให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว (Quick Action), มอบประสบการณ์ Smart Intranet เพิ่มการเข้าถึงอินทราเน็ตบนโทรศัพท์มือถือให้กับพนักงาน เพื่อช่วยพัฒนาการสื่อสารให้ประสานกันง่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม สอดคล้องกับการทำงานแบบ Hybrid Workplace ที่ไม่จำเป็นต้องทำงานที่โต๊ะทำงาน (Deskless) รวมถึงพนักงานที่จำเป็นต้องเดินทางตลอดเวลา แพลตฟอร์มนี้จะช่วยขจัดทุกปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม

บทสรุป

Sense of Ownership คือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องมี เพราะต้องยอมรับว่าพนักงานในยุคนี้มีสิ่งที่พวกเขาสนใจหลายอย่าง และไม่แปลกหากพวกเขาจะพยายามมองหาช่องทางเติบโตในโลกธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากการทำงานในองค์กรของเราควบคู่ไปด้วย แปลว่าหากเราต้องการให้พนักงานอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ เราก็ต้องตอบให้ได้ว่าองค์กรจะช่วยให้พวกเขาเก่งขึ้นอย่างไร, ส่งเสริมเป้าหมายตาม Career Path ที่วางไว้ได้ไหม

นอกจากนี้ก็ต้องไม่ลืมตั้งคำถามเสมอว่าการบริหารจัดการที่ HR กำลังทำอยู่สามารถสนับสนุนให้พนักงานโฟกัสกับหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มที่หรือไม่ โดยวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันและถูกพิสูจน์โดยองค์กรระดับโลกก็คือการปรับแพลตฟอร์มให้เหมาะกับคนกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะ (Personalization) ซึ่ง TeamLink คือตัวช่วยแบบครบวงจรที่ HR สามารถเลือกใช้บริการได้เลย

All HR Solutions! มาค้นหา HR Products and Services กับ HREX กันเถอะ

ผู้เขียน

Picture of HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง