SAFETY TRAINING ทำไมการอบรมความปลอดภัยจึงสำคัญ

HIGHLIGHT

  • Safety Training หรือการอบรมความปลอดภัยในที่ทำงาน คือสิ่งที่องค์กรจำเป็นต้องอบรมให้พนักงาน เพื่อป้องกันปัญหาและความเสียหายต่าง ๆ ตามมา
  • พนักงานจำนวนมากอาจรู้สึกว่า การอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน (Safety Training) เป็นสิ่งที่เสียเวลา แต่การอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน คือวิธีป้องกันเหตุร้ายที่ดีที่สุดแล้ว 
  • การอบรมเรื่องความปลอดภัย (Safety Training) ไม่เพียงช่วยให้บริษัทสามารถแต่ยังช่วยให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข แต่ยังทำให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตามมาด้วย
  • การอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน (Safety Training) ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่ HR ต้องทำ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการอบรมที่มีประสิทธิภาพได้หลายวิธี และหากทำได้จะช่วยประหยัดงบประมาณมหาศาล 

เคยไหม เวลาต้องเข้าอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน (Safety Training) แล้วรู้สึกว่าเสียเวลา  และคิดว่าในการทำงานจริงคงไม่เจอสถานการณ์อันตรายให้ต้องปวดหัวเล่นอยู่แล้ว ดังนั้นขออบรมเพื่อให้ผ่าน ๆ ไปในแต่ละวันก็พอ

แต่รู้หรือไม่ว่า ความปลอดภัยในที่ทำงานคือตัวแปรสำคัญทีเดียวที่จะส่งผลให้พนักงานทุกคนทำงานที่รักได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากที่ทำงานแห่งนั้นมีแต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นประจำ ดังนั้นการจัดอบรมเรื่องความปลอดภัย ทั้งหลักสูตรอบรมระยะสั้น รวมไปถึงหลักสูตรที่ยาวขึ้นมาหน่อย เช่น อบรมความปลอดภัย 6 ชม. เพื่อป้องกันเหตุร้ายจึงจำเป็นมากต่อทุกบริษัท และจะช่วยให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาหลายประการตามมา

อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มสนใจประโยชน์ของ Safety Training การอบรมเรื่องความปลอดภัยในการทำงานแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อมแล้วสามารถอ่านได้จากบทความนี้เลยว่า การอบรมเรื่องความปลอดภัยสำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอะไรที่ควรรู้บ้าง 

Safety Training การอบรมความปลอดภัยคืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อการทำงาน

ไม่ว่าจะบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่ พนักงานทุกคนถือเป็นทรัพยากรล้ำค่า หากมีคนบาดเจ็บจากการทำงานไปแม้เพียงคนเดียว ย่อมส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ทุกบริษัทจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรว่า สถานที่ทำงานในบริษัทมีความปลอดภัยมากที่สุดต่อทุกชีวิตและทรัพย์สิน หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือการจัดอบรมความปลอดภัยในที่ทำงาน เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ป้องกันไม่ให้ปัญหาวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ 

จริง ๆ แล้วการจัดอบรมความปลอดภัย เป็นสิ่งที่บริษัทต้องให้ความสำคัญอยู่แล้ว เพราะมีข้อกฎหมายกำกับควบคุมเป็นพิเศษ เช่น พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 เป็นต้น ซึ่งหากละเลยล่ะก็ จะทำให้เจอปัญหาน่าปวดหัวกว่านั้นตามมา

แต่ละบริษัทจึงต้องเอาจริงเอาจังกับการรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงาน หลายที่จะจัดอบรมเรื่องความปลอดภัยให้พนักงานตั้งแต่วันปฐมนิเทศการทำงาน เพื่อให้เข้าใจร่วมกันว่า บริษัทแห่งนี้มีกฎข้อปฏิบัติอย่างไรบ้าง เช่น พื้นที่ตรงไหนห้ามเข้า พื้นที่ตรงไหนต้องสวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบ เครื่องมือแบบใดที่ห้ามพนักงานที่ยังไม่ผ่านการฝึกใช้เด็ดขาด เป็นต้น

และหลังเสร็จสิ้นการอบรมแล้ว บริษัทยังต้องประเมินและติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยว่า สถานที่ทำงานนั้นมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ต้องปรับปรุงอย่างไรเพื่อทำให้ปลอดภัยมากขึ้นบ้าง อาจจัดอบรมความปลอดภัยทุก 6 เดือน หรือทุก 1 ปี เพื่อให้พนักงานได้ทบทวนมาตรการต่าง ๆ และพร้อมรับมือเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน เป็นต้น 

การอบรมเรื่องความปลอดภัยพบเจอบ่อยในบริษัทที่ต้องทำงานบนความเสี่ยงมากกว่าปกติ เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่พนักงานต้องทำงานกับสารเคมี หรือเครื่องจักร เป็นต้น เพราะในสถานที่เหล่านี้ หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาเพียงนิดเดียวก็มีผลต่อชีวิตของพนักงานได้ง่าย ๆ 

ไม่เพียงแค่นั้น บริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน ต้องมีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานของสถานประกอบกิจการด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าบริษัทที่ไม่มีโรงงานจะไม่มีความเสี่ยงเลย เพราะเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกที่ เช่น ไฟไหม้ แผ่นดินไหว แก๊สรั่ว เป็นต้น บริษัทเหล่านั้นก็อาจจัดการอบรมความปลอดภัยรูปแบบอื่นแทน เช่น การซ้อมหนีไฟ การซ้อมเวลาเกิดเหตุแผ่นดินไหว หรือการซ้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น

เพื่อความปลอดภัยในที่ทำงาน Safety Training ต้องอบรมความปลอดภัยอย่างไร

การจัดอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน มีโจทย์หลักง่าย ๆ คือ ทำอย่างไรให้พนักงานมีความตระหนักรู้และระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในการทำงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานตามปกติได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย และหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง ๆ จะสามารถเอาตัวเองและเพื่อนร่วมงานรอดจากสถานการณ์เหล่านั้นได้

การอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงาน จึงมักมีเนื้อหาที่ครอบคลุม 3 เรื่องหลักด้วยกันนั่นคือ สิ่งที่ควรทำก่อนเกิดเหตุ เมื่อเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ

ก่อนเกิดเหตุ ต้องทำให้พนักงานมองเห็นความสำคัญของการทำงานอย่างปลอดภัย เข้าใจผลกระทบที่ตามมาหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง สามารถระบุถึงภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อจะได้แจ้งเตือนเพื่อนพนักงานได้ทันการ 

เมื่อเกิดเหตุ ต้องทำให้พนักงานรู้ว่า สิ่งใดที่ควรทำ สิ่งใดที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดเหตุร้าย เช่น เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ ต้องไปยังบันไดหนีไฟ ห้ามใช้ลิฟท์ ต้องหมอบต่ำ และรู้ว่าจะช่วยเหลือตัวเองและเพื่อนพนักงานอย่างไรให้รอดชีวิต

หลังเกิดเหตุ ต้องทำให้พนักงานมีความตระหนักรู้ ว่าสถานการณ์แบบใดที่มีความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยง และเรียนรู้มาตรการแก้ไขให้การทำงานนั้นปลอดภัยมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต

ทั้งนี้ เป้าหมายของการอบรมจะบรรลุไม่ได้เลยหากปราศจากการฝึก และการปฏิบัติตามมาตรการที่วางไว้อย่างแข็งขัน 

Safety Training การอบรมความปลอดภัยมีประโยชน์อย่างไรต่อการทำงาน

SAFETY TRAINING คืออะไร ทำไมการอบรมความปลอดภัยให้พนักงานถึงสำคัญต่อบริษัท

สถิติที่น่าสนใจจาก healthsafety.com ระบุไว้ว่า ทุก 15 วินาทีจะมีอุบัติเหตุในที่ทำงานเกิดขึ้น 153 ครั้งทั่วโลก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บาดเจ็บต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวประมาณ 8 วันโดยเฉลี่ย และตามสถิติแล้ว ผู้ชายมักจะประสบอุบัติเหตุมากกว่าผู้หญิงอยู่ในอัตราส่วน 61 : 39

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดของการอบรมความปลอดภัยในที่ทำงาน คือจะช่วยให้พนักงานทุกคนทำงานที่รักได้ตามปกติ และเมื่อพนักงานมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดี ไม่กังวลว่าอันตรายจะเกิดขึ้น ก็จะช่วยให้ทำงานอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้นตามมาด้วย

เหตุผลที่กล่าวมานี้เพียงพอแล้วในการจูงใจให้พนักงานเห็นความสำคัญของกิจกรรมดังกล่าว แต่ผลพลอยได้จากการจัดอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยังรวมถึงการช่วยให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้มหาศาล

โดยทุก 1 ดอลลาร์ที่บริษัทลงทุนไปกับการอบรมความปลอดภัย จะช่วยป้องกันความเสียหายเป็นตัวเลขถึง 6 ดอลลาร์ทีเดียว 

ไม่เพียงแค่นั้น การอบรมความปลอดภัยในที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยังช่วยป้องกันปัญหาลักษณะคล้ายกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยลดความเสียหายทางการเงินได้มาก และสามารถนำเงินส่วนนั้นมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายประการ

สิ่งที่ HR ควรทำหากต้องการให้ Safety Training การอบรมความปลอดภัยบรรลุเป้าคืออะไร

SAFETY TRAINING คืออะไร ทำไมการอบรมความปลอดภัยให้พนักงานถึงสำคัญต่อบริษัท

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การจัดอบรม คือหนึ่งในหน้าที่สำคัญของ HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพพนักงานให้ดีขึ้น เก่งขึ้น และทำงานให้บริษัทอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น และการจัดอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

แต่การจัดอบรมนี้จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร มีสิ่งที่ HR ควรรู้และสามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังต่อไปนี้

1.กำหนดมาตรการฝึกอบรมความปลอดภัยที่แน่นอน ระบุขั้นตอนแต่ละมาตรการเด่นชัดว่าพนักงานควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ให้ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติจริง

2.รู้และเข้าใจกฎของการอบรมเรื่องความปลอดภัย ต้องรู้ว่ากฎหมายระบุเรื่องการดูแลความปลอดภัยในที่ทำงานไว้อย่างไร และหมั่นตรวจเช็คเสมอ ว่ามาตรการแต่ละอย่างไม่ปล่อยปละละเลย แต่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง หาก HR เองไม่เข้าใจกฎเหล่านี้ ย่อมยากต่อการนำไปบังคับใช้ให้พนักงานทั้งบริษัททำตามได้

3.เข้าใจวัตถุประสงค์ว่าอบรมความปลอดภัยเพื่ออะไร ก่อนการอบรมทุกครั้ง ต้องแจ้งให้พนักงานทราบเป้าหมายเดียวกัน เพื่อจะได้บรรลุผลที่ต้องการไปพร้อมกัน เพราะหากพนักงานไม่เข้าใจว่าอบรมไปทำไม แต่ละขั้นตอนมีวิธีการอย่างไร ก็อาจทำให้พวกเขาเกิดอุบัติเหตุจากความผิดพลาดโดยไม่ระมัดระวังในอนาคต

4.รู้ว่าพนักงานของตัวเองว่ามีนิสัยอย่างไร การรู้ว่าพนักงานมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่อบรมมากน้อยแค่ไหน จะได้จัดเตรียมข้อมูลและการอบรมที่เข้ากับความต้องการของพนักงานได้ ทำให้การปฏิบัติงานจริงในอนาคตเกิดประสิทธิภาพ

5.ทำให้พนักงานเข้าใจว่า การอบรมมีประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร พนักงานทุกคนย่อมคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว หาก HR ทำให้พนักงานตระหนักว่า ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย ทำไมถึงต้องมีมาตรการหลายขั้นตอน และถ้าทำแล้วจะดีต่อตัวเขาเองอย่างไร ก็จะช่วยให้การอบรมง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ปลอดภัยมากขึ้นตามมา

6.ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง บ่อยครั้ง การดูและฟังเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ลองปฏิบัติเอง ย่อมทำให้พนักงานไม่ได้จำใส่ใจเต็มที่ ดังนั้น หากทำให้พนักงานได้ลองปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยด้วยตัวเอง จะช่วยให้ง่ายต่อการเข้าใจ และนำไปใช้จริงได้มากขึ้น

7.รู้วิธีสื่อสารและถ่ายทอดความ เพราะการสื่อสารทั้งเวลาเขียนและเวลาพูดกับพนักงานเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ในการอบรม หากใช้ภาษาที่ถูกต้อง เข้ากับผู้ที่สื่อสารด้วย จะช่วยให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเกิดการนำไปปฏิบัติจริงมากขึ้น

8.รู้วิธีการใช้สื่อประกอบการอบรม คล้ายกับข้อที่แล้ว แต่ข้อนี้จะเน้นที่การใช้สื่อประกอบการอบรม ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงการใช้ของจริงในการอบรมด้วย หากเลือกใช้สื่อประกอบได้เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นความน่าสนใจของการอบรม และทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้น 

9.รู้ว่าข้อมูลไหนที่เป็นประโยชน์ การอบรมจะมีประสิทธิภาพ บ่อยครั้งไม่ได้อยู่ที่การให้ข้อมูลให้มากที่สุด แต่อยู่ที่การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สุด HR ควรคัดกรองข้อมูล เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถนำไปใช้งานจริงได้ง่าย ดีกว่าป้อนทุกอย่างให้ แต่สุดท้ายพนักงานจำไม่ได้ และเอาไปใช้ไม่ได้ประโยชน์เลย

10.รู้จักประเมินผลการอบรม วิธีประเมินการอบรมว่าได้ผลมากเพียงใด สามารถทำได้ด้วยการทดสอบ อาจทำได้ทั้งทดสอบในแบบสอบถาม หรือทดสอบในสถานการณ์จำลอง ทั้งนี้ต้องไม่ลืมนำผลที่ได้มาปรับปรุงเพื่อให้การอบรมครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพด้วย รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง HR ยังสามารถนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาเทียบกับการประเมินผลหลังการอบรมได้ด้วยว่า พนักงานในบริษัทนำความรู้ที่ได้ไปใช้จริงหรือไม่อย่างไร แต่ HR จำนวนมากอาจหวังว่าคงไม่ต้องมีเหตุให้ประเมินผลกันด้วยสถานการณ์จริงแบบนี้

หากเจ้าหน้าที่ HR สามารถทำได้ตามนี้ มั่นใจได้ว่าจะช่วยให้การอบรมบรรลุเป้า และทำให้ทุกคนทำงานด้วยความปลอดภัย และมีความสุขอย่างแน่นอน

Safety Training การอบรมความปลอดภัยควรมีกฎข้อบังคับอะไรบ้าง หากต้องการให้พนักงานทำงานปลอดภัย

SAFETY TRAINING คืออะไร ทำไมการอบรมความปลอดภัยให้พนักงานถึงสำคัญต่อบริษัท

แต่ละบริษัท อาจมีกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่ทำ และความเสี่ยงของการทำงานในแต่ละที่ แต่ในที่นี้จะขอยกเอากฎที่สามารถพบเจอได้บ่อย ๆ ในออฟฟิศจำนวนมากมาให้เห็นในภาพรวมว่า การเอาจริงเอาจังเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน มีอะไรบ้าง

1.แต่งกายตามแนวทางที่บริษัทกำหนด หลายบริษัทกำหนด Dress Code หรือแนวทางการแต่งกายอยู่แล้ว เพราะการแต่งกายอย่างถูกต้องตามสภาพของการทำงาน จะนำมาซึ่งความปลอดภัยของทั้งตนเองและคนรอบข้าง หากเป็นบริษัทที่เป็นโรงงาน มักจะมีแนวปฏิบัติด้านการแต่งกาย เช่น ห้ามใส่เครื่องประดับ ห้ามใส่รองเท้าแตะ ต้องใส่รองเท้าชนิดพิเศษ หรือสวมใส่เสื้อหรือกางเกงขายาวตลอดเวลา เป็นต้น

2.ใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเวลาเข้าพื้นที่เสี่ยง หากเป็นไซต์งานก่อสร้างพนักงานหรือผู้ที่เดินทางเข้าไปในไซต์ทุกคน จะต้องสวมหมวกกันน็อคป้องกันสิ่งที่อาจตกลงมากระทบหัว บางงานอาจบังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัย บางงานระบุให้สวมถุงมือเป็นต้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงานที่ทำ

3.ดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบในพื้นที่ทำงานเสมอ เพราะความสะอาดในที่ทำงานจะช่วยให้ทำงานอย่างปลอดภัยขึ้นเยอะ หากมีสิ่งของวางกลาดเกลื่อน จนเดินลำบากก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงจะเกิดอันตรายได้มากขึ้น แม้กระทั่งหากห้องน้ำสกปรก ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ง่าย ๆ 

4.รับผิดชอบความปลอดภัยของตัวเอง ข้อนี้สำคัญมาก เพราะต่อให้สภาพแวดล้อมของที่ทำงานดีพร้อมทุกอย่าง แต่ดันทำงานอย่างไม่ระมัดระวังตัวเองเสียเอง ย่อมนำมาซึ่งภัยที่ไม่คาดคิด

5.ทำตามมาตรการด้านความปลอดภัยที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ไม่แหกกฎ ไม่ลืมกฎ ทำทุกอย่างตามตำราอย่างเคร่งครัด ย่อมไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นตามมา

6.เรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน หากเกิดไฟไหม้ จะต้องเคลื่อนย้ายพนักงานอย่างไร หากเกิดภัยธรรมชาติ จะช่วยเหลือตัวเองและเพื่อนพนักงานอย่างไร และต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเกิดสถานการณ์เหล่านั้น กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ผ่านการฝึก และหากไม่มีสติ

7.รายงานถึงสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่พบเจอ โดยรายงานผู้บังคับบัญชา รายงานส่วนงานผู้เกี่ยวข้อง ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เพื่อนร่วมงาน ก่อนที่จะมีใครพลาดท่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

8.ศึกษาวิธีการใช้งานอุปกรณ์ทุกอย่างก่อนใช้งานจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรทั้งหลาย เพราะการใช้งานอย่างไม่มีความรู้ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นตามมา หรือหากพบว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นมีความเสียหาย จะได้ซ่อมแซมทัน

9.อยู่ในพื้นที่ที่ควรอยู่ ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ได้รับมอบหมาย หรือไม่ได้รับอนุญาต

10.มองหาทางหนีทีไล่ตลอดเวลา ในหลายพื้นที่จะติดตั้งป้ายบอกทางหนีไฟ หรือทางออกฉุกเฉินไว้เสมอ ผู้บังคับบัญชาควรแจ้งกับพนักงานตั้งแต่ต้นว่า ให้มองหาเส้นทางเหล่านี้ตลอดเวลา จะได้หาทางหนีทีไล่ทันการ

11.จงตื่นตัวเสมอ หากพบว่าจุดใดมีป้ายบอกทางออกไม่ชัดเจน มีสิ่งกีดขวางทางเดิน ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานที่ต้องรีบแจ้ง เพื่อจะได้เป็นการป้องกันอันตรายตั้งแต่เนิ่น ๆ

มีแล้วต้องใช้ให้เป็น! เทคโนโลยีด้าน Safety Training มีประโยชน์ต่อการอบรบความปลอดภัยอย่างไร

SAFETY TRAINING คืออะไร ทำไมการอบรมความปลอดภัยให้พนักงานถึงสำคัญต่อบริษัท

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวล้ำมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยทุ่นแรงการทำงานได้มากเท่านั้น เช่นเดียวกัน HR สามารถนำเทคโนโลยีมากมายมาช่วยให้การอบรมความปลอดภัยได้ดีขึ้นด้วย 

เว็บไซต์ Digital Construction Week ยกตัวอย่างว่า ปัจจุบันเราสามารถนำเทคโนโลยีโลกเสมือน หรือ Virtual Reality มาใช้ในการอบรมเรื่องความปลอดภัยได้แล้ว โดยประโยชน์ของของการอบรมผ่านโลกเสมือน มีดังนี้

1.ช่วยฝึกรับมือภัยต่าง ๆ และบริหารความเสี่ยง โลกเสมือนช่วยให้ผู้อบรมสามารถจำลองสถานการณ์ได้ว่า หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันระหว่างทำงานขึ้น จะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์เหล่านั้น โดยสามารถฝึกฝนได้บ่อยครั้ง จนเกิดความช่ำชอง และไม่รบกวนผู้อื่น 

2.ช่วยควบคุมการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า หากลงทุนเรื่องอุปกรณ์เพียงครั้งเดียว พนักงานก็สามารถใช้งานได้ระยะยาว เมื่อพนักงานสามารถฝึกฝนจากที่ไหนก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการอบรมในรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดมากกว่า และมีประสิทธิภาพน้อยกว่าด้วย

3.เติมความสมจริงให้กับชีวิต โลกเสมือนช่วยให้สามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยให้เจอสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปมากขึ้น และช่วยให้เรียนรู้ได้ว่องไวขึ้นด้วย

4.สะดวก ใช้งานง่าย หากพนักงานใช้ VR เป็นประจำ จะช่วยให้การฝึกฝนไม่ต้องใช้เวลานานเกินควรจนเสียเวลาในการทำงานอื่น ๆ และเมื่อไหร่ที่ต้องการอบรม ฝึกฝน ก็สามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ

5.เก็บรายละเอียดรายงานได้ลึกขึ้น ข้อมูลที่จำเป็นจากการฝึกฝน และจะทำให้รู้ว่าสิ่งใดที่พนักงานสามารถเพิ่มเติมได้มากกว่าเดิมด้วย

ทั้งนี้ ในประเทศไทย การนำเทคโนโลยี VR มาใช้ฝึกอบรมเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานอาจยังไม่แพร่หลายมากเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ แต่หาก HR ท่านใดอยากลองค้นหาดูว่ามีบริการอะไรที่น่าจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ ช่วยทุ่นแรงในการอบรมพนักงานให้มีความปลอดภัยได้มากขึ้นบ้าง สามารถค้นหาได้ใน HREX แพลตฟอร์มที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เพื่อช่วยเหลือพนักงานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งน่าจะตรงกับความต้องการของทั้ง HR และพนักงานไม่มากก็น้อย

สรุป

SAFETY TRAINING คืออะไร ทำไมการอบรมความปลอดภัยให้พนักงานถึงสำคัญต่อบริษัท

ความปลอดภัยในที่ทำงานไม่ใช่ตัวเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นต่อทั้งพนักงานและบริษัท เพราะหากพนักงานได้ทำงานที่รักด้วยความปลอดภัย จะช่วยให้เกิดความสุข และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้มหาศาล 

อย่างไรก็ตาม พนักงานจำนวนมากอาจคิดว่าการอบรมเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น น่าเบื่อ จึงไม่จริงจังเวลาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ HR ในการบริหารจัดการการอบรมที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พนักงานทุกคนเข้าใจว่า การอบรมความปลอดภัยจะมีประโยชน์โดยตรงต่อตัวของพนักงานอย่างไร 

และหากทำให้พนักงานสามารถมองเห็นเป้าหมายดังกล่าว สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในสถานการณ์จริงได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากเหตุไม่คาดฝันได้มหาศาล พร้อมกับช่วยป้องกันปัญหายุ่งยากตามมาอีกหลายประการ

ดังนั้น ตั้งใจเรียนรู้และฝึกซ้อมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่ามาเสียน้ำตาภายหลังเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น โดยไม่มีใครเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

ผู้เขียน

Paranaphat Anui

Paranaphat Anui

Take Off Toward a Dream

บทความที่เกี่ยวข้อง