ไขข้อข้อใจ ทำไมใคร ๆ ก็เกลียด “HR”

HIGHLIGHT

  • จากบทความที่ชื่อว่า ‘Why We Hate HR?’ (ทำไมเราเกลียด HR?) โดย คีท แฮมมอนด์ (Keith Hammonds) ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร Fast Company Magazine ยังได้เขียนถึงเหตุผลที่ทำไมคนอื่นในบริษัทถึงเกลียด HR กันไปหมด เพื่อทำให้ชาว HR ได้ปรับปรุงพัฒนาการทำงานของแผนกให้ดีขึ้น
  • ถึงแม้ว่าจะมีข้อคิดเห็นแย่ ๆ มากมายเกี่ยวกับงาน HR แต่อันที่จริงแล้วในยุคปัจจุบันนี้ HR ไม่ได้เป็นเพียงฝ่ายบุคคลที่มีหน้าที่ดูแลพนักงานเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับผู้บริหารด้วย องค์กรยุคใหม่จึงควรใ้ห้ความสำคัญกับ HR เป็นอย่างมาก
  • เมื่อพนักงานในองค์กรไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายบุคคลย่อมต้องเกิดปัญหาในองค์กร เพราะไม่ว่าจะสร้างนโยบายอะไรขึ้นมา ถ้าบอกว่ามาจาก HR พนักงานก็จะแอนตี้และไม่ทำตาม ยิ่งส่งผลเสียต่อการบริหารงานองค์กร นอกจากนี้หากเกิดความขัดแย้งในองค์กร ก็อาจส่งผลเสียลามไปถึงผลประโยชน์ขององค์กรด้วย
  • ในยุคสมัยนี้ ฝ่ายบุคคลหรือ HR มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ต้องทำเพื่อดูแลพนักงานในองค์กรและพาองค์กรตามกระแสโลกยุคใหม่ให้ทันด้วย และยังเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อองค์กร

ถ้าพูดถึง ‘HR’ เชื่อว่าคนเกินครึ่ง (ที่ไม่ใช่ HR) น่าจะเบ้ปากโดยอัตโนมัติอย่างแน่นอน เคยมีการเก็บข้อมูลความคิดเห็นของพนักงานจากบริษัทหนึ่ง พบว่ากว่า 60% บอกว่า “เกลียด HR” นอกจากพนักงานเกลียด HR แล้ว พวกผู้บริหารบางองค์กรยังไม่ให้ความสำคัญกับแผนกนี้อีกเพราะมองว่าไม่ได้ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ มันเกิดอะไรขึ้นกับ HR กันแน่หนอ?

ทำไมใครๆ ก็เกลียด HR (Why we hate HR? by Keith Hammonds)

แค่จั่วหัวและเกริ่นนำยังจี้ใจดำชาว HR ไม่มากพอ เพราะจากบทความที่ชื่อว่า ‘Why We Hate HR?’ (ทำไมเราเกลียด HR?) โดย คีท แฮมมอนด์ (Keith Hammonds) ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร Fast Company Magazine ยังได้เขียนถึงเหตุผลที่ทำไมคนอื่นในบริษัทถึงเกลียด HR กันไปหมด เพื่อทำให้ชาว HR ได้ปรับปรุงพัฒนาการทำงานของแผนกให้ดีขึ้น ซึ่งบทความนี้ได้สร้างความฮือฮาให้แก่วงการ HR ในสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ชาว HR ถกเถียงกันถึงประเด็นนี้ โดยมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่มีข้อโต้แย้ง พร้อมคำอธิบายในทำนองที่ว่า ฝ่าย HR ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้น แผนกงานอื่นก็มีความย่ำแย่ไม่แพ้ HR เช่นกัน

โดยคีท แฮมมอนด์ได้แสดงข้อคิดเห็นไว้ว่า ทั้งผู้บริหารแผนกต่าง ๆ รวมถึงแผนก HR เองควรจะได้ทราบข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของงานด้าน HR และความสัมพันธ์ของงาน HR กับแผนกงานอื่น ๆ และกับองค์กรโดยรวมด้วย อันจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการพัฒนาขึ้น เพราะว่าอันที่จริงแล้วในยุคปัจจุบันนี้ HR ไม่ได้เป็นเพียงฝ่ายบุคคลที่มีหน้าที่ดูแลพนักงานเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับผู้บริหารด้วย องค์กรยุคใหม่จึงควรใ้ห้ความสำคัญกับ HR เป็นอย่างมาก

10 เหตุผลที่ทุกคนเกลียด HR

  • HR เข้าข้างบริษัทมากกว่าพนักงาน พนักงานเลยมองว่าเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น HR จะมองผลประโยชน์ของบริษัทเป็นหลักมากกว่าผลประโยชน์ของพนักงาน เลยทำให้พนักงานรู้สึกว่าไม่เป็นพวกเดียวกันหรือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ HR
  • เวลามีปัญหาอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ หรือการละเมิดกฎบริษัทที่พอจะหยวน ๆ ได้ HR ก็จะชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีการเห็นใจ ไม่มี empathy
  • พนักงานส่วนใหญ่มองว่าชาว HR ดูไม่น่าเชื่อถือ พึ่งพาไม่ได้ ถึงแม้จะพูดว่ามีอะไรให้บอกได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นจริง ๆ
  • เวลาที่บริษัทมีผู้บริหารที่ดูไม่ได้เรื่อง บริหารไม่เป็นแต่ได้โปรโมท แล้วยังชอบเอาเปรียบพนักงาน HR ก็จะเข้าข้างผู้บริหารแย่ ๆ มากกว่าเข้าข้างพนักงาน
  • ชาว HR บางคนรู้จักงาน HR แค่ผิวเผิน แต่ไม่ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วงาน HR คืออะไรกันแน่
  • HR ไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาที่พนักงานต้องเผชิญเลย มีแต่ออกนโยบายที่แก้ปัญหาและใช้งานจริงไม่ได้
  • HR ถูกมองว่าเป็นเรื่องของการเมืองในบริษัทและสนใจแต่ตำแหน่งของตัวเองมากกว่าเรื่องสวัสดิการของทีม
  • HR สนใจแต่นโยบายและผลประโยชน์ขององค์กรมากกว่าการดูแลใส่ใจจิตใจ ความกังวล ความไว้วางใจ ความขัดแย้ง หรือปัญหาของมนุษย์นับล้านที่เกิดขึ้นในองค์กร
  • HR ไม่ใช้ความเป็น ‘มนุษย์’ ในการตัดสินแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่พนักงานต้องเจอ แต่ให้ความสนใจในเรื่องของกละนโยบายอย่างเดียว
  • พนักงานรู้สึกว่า HR ไม่ได้ทำงานอะไรเลย เพราะไม่มีงานอะไรสำคัญให้ทำ มีแผนกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ แถมทำให้พนักงานยิ่งยุ่งวุ่นวายกับกฎหลายอย่างมากขึ้นไปอีก

ข้อเสียเมื่อพนักงานเกลียด HR

เมื่อพนักงานในองค์กรไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายบุคคลย่อมต้องเกิดปัญหาในองค์กรอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะสร้างนโยบายอะไรขึ้นมา ถ้าบอกว่ามาจาก HR พนักงานก็จะแอนตี้และไม่ทำตาม ยิ่งส่งผลเสียต่อการบริหารงานองค์กร ลามไปถึงผลประโยชน์ขององค์กรด้วย

นอกจากนี้ยังสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในองค์กร การที่พนักงานเกลียดกัน เขม่นกัน หรือมีปัญหากันในองค์กรยิ่งทำให้บรรยากาศในการทำงานเสีย ถึงแม้จะเป็นแค่บางคนหรือบางกลุ่ม แต่ก็สร้างความร้าวฉานที่ยิ่งใหญ่และส่งผลต่อคนอื่น ๆ ในที่ทำงานได้ ยิ่งโดยเฉพาะพนักงานบางคนอาจมีปัญหาในด้านจิตใจหรืออารมณ์ อาจจะกระทบมากกว่าคนอื่น ๆ และอาจกระทบไปยังวงกว้างเป็นโดมิโนก็เป็นได้

องค์กรต้องทำอย่างไรให้ HR เป็นที่รัก ไม่โดนเกลียด

  • ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรควรให้การสนับสนุน HR อย่างเต็มที่ และยินดีปฏิบัติตามนโยบายฝ่ายบริหารงานบุคคล เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานในองค์กร
  • Director ของแต่ละแผนก รวมถึงผู้จัดการทุกฝ่ายต้องมีความเข้าใจเรื่องการบริหารบุคคล หรืองาน HR ว่าสำคัญกับองค์กรแค่ไหน อย่างไร และถ้าพนักงานไม่เดินตามนโยบายที่กำหนดไว้แล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง
  • องค์กรควรสร้างความเข้าใจอันดีระหว่าง HR และพนักงาน HR จะต้องเป็นกลุ่มที่เข้ากับทุกคนและทุกระดับได้ ต้องทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน และจะต้องสร้างความเข้าใจ โน้มน้าวให้ผู้จัดการทุกคนเข้าใจและปฏิบัติตามในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดผลดีต่อองค์กรอย่างยั่งยืน
  • องค์กรมีการจัดอบรมจรรยาบรรณของการเป็นฝ่ายบุคคลที่ดื รวมถึงทำแบบสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้พนักงานไม่พอใจในฝ่าย HR เพื่อให้มีการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงต่อไป

บทสรุป

โลกยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สำหรับบริษัทที่ยังยึดติดอยู่กับอะไรเดิม ๆ อาจจะหาทางรอดได้ยาก และในยุคสมัยนี้ ฝ่ายบุคคลหรือ HR มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ต้องทำเพื่อดูแลพนักงานในองค์กรและพาองค์กรตามกระแสโลกยุคใหม่ให้ทันด้วย และยังเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อองค์กร แต่สิ่งใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าพนักงานในองค์กรไม่ยอมร่วมมือกับ HR หากองค์กรอยากสร้างวัฒนธรรมหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นต้องสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในกลุ่มพนักงานทุกแผนก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร

ผู้เขียน

HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง