Search
Close this search box.

หากองค์กรต้องการใช้ AI อย่าลืมพัฒนากลยุทธ์การทำงานของพนักงานด้วย

HIGHLIGHT

  • ปี 2024 การนำ AI มาใช้ในองค์กรเอเชียกำลังเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรลืมพัฒนาพนักงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่
  • 41% ของผู้บริหารเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ 53% กังวลว่าพนักงานอาจไม่พร้อมปรับตัว
  • การปรับเปลี่ยนวิธีทำงานและการสร้างความไว้วางใจ (Trust) เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของการนำ AI มาใช้ในองค์กร

Global Talent Trends Asia 2024

ปี 2024 หลายองค์กรในเอเชียกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเดียวไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและพัฒนาพนักงานคนเก่ง (Talent) ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีนั้นด้วย

Global Talent Trends Asia 2024 จาก Mercer ได้สำรวจจากผู้บริหารธุรกิจ ผู้นำด้านทรัพยากรบุคคล พนักงาน และนักลงทุนจำนวน 12,000 คน จาก 16 อุตสาหกรรม และจาก 10 ประเทศในเอเชีย พบว่า การลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร โดย 41% ของผู้บริหารเชื่อว่า การลงทุนในจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจได้มากที่สุด ซึ่งนอกจาก AI จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแล้ว แต่ยังเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของพนักงานด้วย

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังมีหลายปัจจัยที่เป็นความท้าทายอยู่ เช่น 

  1. ความสามารถในการปรับตัวของพนักงาน: 53% ของผู้บริหารเชื่อว่า ทาเลนต์ของตัวเองไม่มีความสามารถในการปรับตัวได้เพียงพอ
  2. การปรับตัวของแรงงาน: 86% ของผู้บริหารเชื่อว่า น้อยกว่าครึ่งของแรงงานจะสามารถปรับตัวได้ หากงานของพวกเขาถูกเปลี่ยนหรือยกเลิกโดย AI
  3. แรงบันดาลใจในการใช้เทคโนโลยี: 59% ของผู้บริหารกังวลว่า องค์กรของพวกเขายังไม่ได้ทำเพียงพอในการกระตุ้นให้พนักงานยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
  4. ความพึงพอใจในการทำงาน: 40% ของแรงงานเองก็ระบุว่า พวกเขาไม่รู้สึกว่ากำลังเติบโตในที่ทำงานเลย

ฉะนั้นแล้ว การสร้างสมดุลระหว่าง ‘การนำเทคโนโลยีมาใช้’ และ ‘กลยุทธ์การทำงานของพนักงาน’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากองค์กรต้องการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างแท้จริง การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องเกิดจากการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและการสร้างความไว้วางใจ (Trust) จากพนักงาน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการพัฒนากลยุทธ์ด้าน HR ดังต่อไปนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการมีมนุษยธรรม (Human-Centric Productivity)

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ผู้นำองค์กรต้องให้ความสำคัญ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านการมองมนุษย์เป็นมนุษย์ โดย 63% ของผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลบอกว่า การปรับเปลี่ยนงานและการวางแผนกำลังคน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 

และเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ องค์กรควรวางแผนแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนี้

  • ออกแบบงานและวางแผนกำลังคนใหม่ โดยเน้นที่ทักษะของพนักงานที่ต้องการเป็นหลัก
  • ประเมิน พัฒนา และให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมทักษะมากขึ้น
  • ให้รางวัลกับการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ เช่น การเรียนหลักสูตรและการรับรองต่าง ๆ

2. สร้างความไว้วางใจและความเท่าเทียม (Trust & Equity)

รู้ไหมว่าพนักงานมีความเชื่อใจบริษัทน้อยลง โดยสถิติบอกว่า ความไว้วางใจของพนักงานลดลงจาก 80% ในปี 2022 เหลือเพียง 65% ในปี 2024 

สาเหตุหลักที่ทำให้ความไว้วางใจลดลงคือ องค์กรผิดคำสัญญากับพนักงาน  (45%) เช่น การไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือการขึ้นเงินเดือน, การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม/ไม่เท่าเทียมกัน (37%) และ การเปลี่ยนแปลงองค์กรบ่อยครั้ง (35%)ฉะนั้น การสร้างความไว้วางใจระหว่างองค์กรและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านกลยุทธ์ดังนี้:

  • สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรให้กับพนักงาน
  • รับฟังและให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงาน
  • มั่นใจว่าค่านิยมที่สื่อสารออกไปภายนอกองค์กร ตรงกับที่พนักงานได้รับภายในองค์กร
Global Talent Trends Asia 2024 Cover

5 เหตุผลที่ทำให้พนักงานยังรู้สึกอยากอยู่กับองค์กร

  1. ความมั่นคงในการทำงาน (Job Security)
  2. การจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรม (Fair Pay)
  3. วัฒนธรรมองค์กร (Work Culture)
  4. โอกาสในการเรียนรู้ (Learning Opportunity)
  5. การทำงานที่ยืดหยุ่น (Flex Working)

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันขององค์กร (Corporate Immune System)

ปัจจุบันการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันขององค์กรเป็นสิ่งจำเป็น เพราะทำให้แรงงานสามารถปรับตัวและทนทานต่อความท้าทายต่าง ๆ ได้ ฉะนั้นการสร้างแรงงานที่มีความยืดหยุ่นทางจิตใจ จึงช่วยให้องค์กรสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับความพึงพอใจของพนักงานได้เช่นกัน

ทั้งนี้จากสถิติมีสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานหมดไฟ ดังนี้:

  1. ความเครียดทางการเงิน (44%)
  2. ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน (40%)
  3. มีปริมาณงานที่มากเกินไป (38%)
  4. สมดุลระหว่างงานและชีวิตที่ไม่ดี (31%)
  5. การมีเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่มากเกินไป (31%)

ฉะนั้นแนวทางการรับมือกับปัญหานี้องค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับความกังวลของพนักงาน เช่น ให้คำปรึกษาทางการเงินและสิทธิประโยชน์ที่ยืดหยุ่น รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวให้ได้

4. สร้างวัฒนธรรมดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก (Digital-First Culture)

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไม่ควรแค่เพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้พนักงานสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีพนักงาน 58% ที่จะรู้สึกตื่นเต้นที่จะลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ขณะที่จะทำให้พนักงาน 31% รู้สึกว่ามีเครื่องมือและแพลตฟอร์มมากเกินไปแทน

ฉะนั้น เพื่อสร้างวัฒนธรรมดิจิทัล แนวทางสำคัญในการสร้างวัฒนธรรม คือ

  • พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ 
  • ฟังและสื่อสารกับพนักงานเกี่ยวกับการลงทุนทางเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ
  • เสนอการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง
แจกลิสต์ AI Solutions เครื่องมือแห่งอนาคต ช่วย HR ทำงานสะดวก

9 AI Solutions เครื่องมือแห่งอนาคต ช่วย HR ทำงานสะดวก

บทสรุป

การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI มาใช้ในองค์กรจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้นำในการปรับวิธีการทำงานและสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานไว้วางใจและพร้อมพัฒนาทักษะของตนเอง

ฉะนั้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับตัวและยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาวขององค์กรต่อไป

ผู้เขียน

Picture of Sahatorn Petvirojchai

Sahatorn Petvirojchai

Manager of HREX.asia who works in media platforms for a long time. Interested in Global Culture, Marketing, and Self Development.

บทความที่เกี่ยวข้อง