HIGHLIGHT
|
ในที่สุดปี 2022 ก็ผ่านพ้นไปแล้ว ตลอดปีที่ผ่านมา แวดวงการทำงานในประเทศไทยมีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย และส่วนใหญ่อาจเป็นเรื่องด้านลบ เช่น การต้องทำงานท่ามกลางโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดหนัก การประกาศเลย์ออฟพนักงานในบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ทั้งหลาย ไหนจะปีแห่งการลงทุนอันชอกช้ำ แทบจะหากราฟสีเขียวไม่เจอ ทำให้หลายคนที่อาจเก็บเงินไว้หลายสกุลเพื่อใช้ตอนเกษียณชอกช้ำไปตาม ๆ กัน
สำหรับเทรนด์การทำงานด้านทรัพยากรบุคคล HREX.asia เคยคาดการณ์ไว้คร่าว ๆ ว่าเทรนด์ในปี 2022 จะมีอะไรที่น่าสนใจและ HR ควรรู้บ้าง คราวนี้เมื่อปี 2023 มาถึงแล้ว ก็ถึงเวลามองไปยังอนาคตอีกครั้งว่า 12 เดือนที่รอคอยอยู่จากนี้ มีอะไรบ้างที่ HR ต้องรู้เพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้า โดย HREX.asia สรุปมาให้แล้วคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้
HR Trend 2023 #1 อยากเห็นองค์กรอยู่รอด ต้องปรับการทำงานให้ไฮบริด
หลังจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาดทำให้ผู้คนตื่นตัวกับการ Work From Home ทำงานที่บ้าน หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ แต่เมื่อสถานการณ์เหมือนจะเอาอยู่แล้ว หลายองค์กรในประเทศไทยก็เริ่มเรียกพนักงานกลับเข้าออฟฟิศดังเดิมเสียอย่างนั้น
แต่หากสำรวจเทรนด์ของโลกทั้งใบจะพบว่า หลายบริษัทพยายามหาจุดลงตัวระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศ และการทำงานที่บ้าน เน้นความยืดหยุ่นในการทำงาน (Flexible Working) แบบ Hybrid เปิดโอกาสให้พนักงานได้สลับกลับมาทำงานที่ออฟฟิศได้พบเจอผู้คนเพื่อแก้อาการเบิร์นเอาท์จากการทำงาน ขณะเดียวกันก็ให้โอกาสได้ทำงานที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ ขอเพียงประสิทธิภาพภาพในการทำงานไม่ลดลง ด้วยความเชื่อว่า การพบกันแบบครึ่งทางของวิถีโลกเก่าและโลกใหม่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรได้ดีที่สุด
หากบริษัทใดยังไม่เปิดให้ทำงานแบบ Hybrid ปี 2023 น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะนำวิธีนี้ไปเป็นนโยบายสำคัญดูบ้าง และในยุคที่การหาแรงงานเป็นไปได้ยากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน มันอาจเป็นนโยบายที่ดึงดูดคนจำนวนมากให้อยากร่วมงานด้วยก็เป็นได้
HR Trend 2023 #2 ยุคมืดของการสรรหาพนักงาน ความท้าทายที่ Recruiter ต้องพลิกแพลง
หนึ่งในเทรนด์ที่ HR NOTE คาดการณ์ไว้ว่าจะกระแสหลักของปี 2022 ก็คือ การสรรหาพนักงานจะเปลี่ยนแปลงไปในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลายบริษัทจะหันมาพึ่งพา Outsource พึ่งพาฟรีแลนซ์ในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งการพึ่งพา HR ฟรีแลนซ์มาช่วยแบ่งเบาภาระขององค์กรหลายด้าน
ในปี 2023 นี้ เทรนด์การสรรหาดังกล่าวจะไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ เป็นอีกปีที่การสรรหาบุคลากรใหม่เผชิญความยากลำบาก เนื่องจากแม้ตำแหน่งงานที่เปิดรับจะเยอะ แต่เมื่อดูดี ๆ คนที่มีคุณสมบัติเข้ากับตำแหน่งกลับน้อยกว่าที่คิดทีเดียว สอดคล้องกับผลการสำรวจของ Gartner ที่พบว่า ผู้นำด้าน HR 36% ประสบปัญหาในการหาคนที่มีทักษะที่บริษัทต้องการเพื่อให้มารับผิดชอบงานต่าง ๆ
ดังนั้น อย่าแปลกใจหากในปี 2023 นี้ คนในสายงาน HR สายงาน Recruiter จะงัดกลยุทธ์การสรรหาพนักงานรูปแบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมาใช้ ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลาย สร้างตัวเลือกใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นตามมา
HR Trend 2023 #3 แก้เกม Talent Shortage ด้วยการเอาใจใส่พนักงานยิ่งขึ้น
หนึ่งในปัญหาที่หลอกหลอนองค์กรทั่วโลกมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาคือ Talent Shortage หรือการขาดแคลนคนทำงาน เนื่องจากกระแสการลาออกครั้งใหญ่ หรือ The Great Resignation และถึงแม้ในประเทศไทย กระแสแห่กันลาออกอาจไม่รุนแรงเท่ากับในต่างประเทศ แต่ดังที่กล่าวไปข้างต้น จำนวนงานที่มีในตลาด ก็ยังไม่สัมพันธ์กับจำนวนคนว่างงานอยู่ดี
ในเมื่อการหาพนักงานใหม่เป็นเรื่องยากเย็นเหลือกัน เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่แต่ละองค์กรจะต้องกลับมาทบทวนว่า จะทำอย่างไรเพื่อยื้อให้พนักงานที่ยังทำงานอยู่ให้นานที่สุด การพยายามทำ Employee Engagement เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับพนักงาน สร้าง Employee Experience หรือออกแบบประสบการณ์การทำงานที่ดีให้พนักงาน หรือการทำ Employee Retention เพื่อรักษาพนักงานในองค์กรไม่ให้สมองไหลออกไปที่อื่น จะเป็นวิธีสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงได้
หากบริษัทไหนยังไม่มีความคิดจะทำอย่างนั้น และยังเชื่อว่าพนักงานก็เหมือนอะไหล่ ถ้าเสียหรือมีปัญหาก็หาใหม่ได้เสมอ ก็อาจถึงเวลาต้องทบทวนอย่างจริงจังแล้ว มิฉะนั้นกว่าจะรู้ตัว เมื่อพนักงานตบเท้าลาออกกันชุดใหญ่ บริษัทอาจถึงทางตันโดยแก้ไขไม่ทันกาล
HR Trend 2023 #4 ตัดเย็บสวัสดิการที่ลงตัว สร้าง Well-Being ให้พนักงานอย่างรอบด้าน
นอกจากซื้อใจพนักงานด้วยการทำ Employee Engagement, Employee Experience และ Employee Retention อีกประเด็นสำคัญที่จะช่วยรักษาคนเก่ง ๆ ในองค์กรคือการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในองค์กร ผ่านสวัสดิการต่าง ๆ ด้วย
จริงอยู่ว่า หลายบริษัทอาจให้สวัสดิการแบบจัดเต็มอยู่แล้ว แต่ในอนาคตจากนี้ พนักงานจะต้องการสวัสดิการที่ตัดเย็บตรงกับความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละคนมากขึ้น เพราะหมดยุคที่สวัสดิการแบบเหวี่ยงแห หรือสวัสดิการแบบเดียวกันที่ใช้กับคนทั้งบริษัทอีกต่อไป
ที่สำคัญ การมี Well-Being ในที่นี้ไม่เพียงต้องให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพชีวิต แต่ยังรวมถึงเรื่องสุขภาพทางการเงินของพนักงานด้วย บริษัทควรพิจารณาว่า ฐานเงินเดือนของพนักงานในยุคเงินเฟ้อตอนนี้เพียงพอหรือไม่ต่อการใช้ชีวิต บริษัทมีวิธีการช่วยเก็บเงินให้พนักงานตอนเกษียณหรือไม่ พนักงานมีความรู้ด้านการเงินดีหรือยัง หาก Well-Being ทั้ง 2 ด้านนี้ไม่ไปด้วยกัน ก็ยากที่จะทำให้คนมีความสุขในการทำงานได้
HR Trend 2023 #5 อย่ารอช้าที่จะมุ่งสู่ความยั่งยืน Sustainability
กระแสรักษ์โลก การมุ่งสู่ความยั่งยืนเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายปีมานี้หลายองค์กรพยายามจัดทำโครงการ CSR โดยยึดหลักความยั่งยืน 17 ข้อของสหประชาชาติ หรือการยึดหลัก ESG หรือการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance) มากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในปี 2023 จะเป็นปีที่ผู้บริหารองค์กร จะเอาจริงเอาจังกับการสร้างความยั่งยืนให้สังคมและบริษัทยิ่งกว่าเดิม และ HR จะปล่อยให้ผู้บริหารสนใจแต่เรื่องนี้เพียงผู้เดียวไม่ได้ ต้องทำงานเชิงรุก ร่วมผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงได้ด้วย
อย่าลืมว่าในยุคที่ข้าวยากหมากแพง เงินเฟ้อสูง และวิกฤติเศรษฐกิจอยู่ไม่ไกล หาก HR ช่วยนำบริษัทไปสู่ความยั่งยืนได้ ไม่เพียงจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทได้มหาศาล แต่ยังทำให้การทำงานในองค์รวมของบริษัทเกิดประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีตามมา
HR Trend 2023 #6 เปลี่ยนวิธีเทรนนิ่งพนักงานให้เข้าสู่ยุคสมัยแห่งดิจิทัล
มาถึงปี 2023 แล้ว กระแสเรื่องการผลักดันให้พนักงาน Upskill และ Reskill รวมถึงการผลักดันให้พนักงานมี Soft Skills ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน โดยเฉพาะพนักงานที่เป็นเด็กจบใหม่ ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายสำนักข่าวด้าน HR ทั่วโลกมองว่าเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนจำเป็นต้องรู้เช่นเคย
แต่เทรนด์ที่น่าสนใจของการอบรมฝึกฝนพนักงานในองค์กรให้เก่งขึ้นยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีเรื่อง LXD (Learning Experience Designer) หรือการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ ที่จะช่วยให้ผู้เรียนบรรลุผลการเรียนรู้อย่างที่ต้องการ โดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นต่อเป้าหมาย ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการใช้โลกเสมือน Metaverse เป็นพื้นที่ฝึกฝน เทรนพนักงานเต็มตัว โดยไม่รอให้ต้นตำรับของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เสร็จสมบูรณ์ก่อน และอื่น ๆ อีกมากมาย และใครจะไปรู้ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า วิธีการเทรนพนักงานให้เข้ากับงานอาจพลิกแพลงไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดก็เป็นได้
HR Trend 2023 #7 ถึงเวลา HR ต้องใช้ HR Tech ให้เป็น
ก่อนสิ้นปี 2022 โลกทั้งใบฮือฮากับ ChatGPT โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ Chatbot ที่สามารถตอบคำถามของมนุษย์ด้วยการให้คำตอบที่น่าสนใจอย่างมาก เป็นอีกบทเรียนว่า คนทำงานจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี แล้วหาทางนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ถูก AI แย่งงาน
แต่ ChatGPT ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีล้ำสมัยที่คนทำงาน รวมถึง HR ควรรู้ เพราะยังมีเทคโนโลยีสุดท้าทายอีกมากมายที่ HR ควรสนใจ อาทิ Blockchain และ Metaverse เป็นต้น หรือไม่ต้องมองไปไหนไกล แต่ HR ในแต่ละองค์กรควรใช้งาน HR Tech ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้วหรือยัง
ถ้ายังและไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถลองมาสำรวจเครื่องไม้เครื่องมือที่น่าสนใจได้ทาง HREX.asia แพลตฟอร์มที่รวมผลิตภัณฑ์และบริการด้าน HR ไว้มากกว่า 100 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นหลายหมวดหมู่ที่น่าสนใจ ทั้ง Payroll, Training & Coaching, Recruitment Solutions เป็นต้น สามารถใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
บทสรุป
ทั้งหมดนี้คือเทรนด์การทำงานทรัพยากรบุคคลที่น่าจับตาประจำปี 2023 ช่วงเวลา 12 เดือนที่รอคอยอยู่จากนี้ หากองค์กรใดถือโอกาสปรับตัวก่อน หมั่นเรียนรู้ พลิกแพลงหาสิ่งใหม่ ๆ มาปรับใช้กับองค์กร ย่อมได้เปรียบกว่าองค์กรที่ปรับตัวช้ากว่าใคร
HREX.asia ก็จะใช้ช่วงเวลานี้ผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจในแวดวง HR ภายใต้ความแปลกใหม่ในการนำเสนอ และสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกอย่างไม่หยุดยั้ง หวังว่าผู้ที่เข้ามาอ่านบทความดี ๆ บนแพลตฟอร์มแห่งนี้ จะได้รับประโยชน์มหาศาลกลับไปตลอดทั้งปี 2023
Sources: |