Search
Close this search box.

Career Path ของ HR มีอะไรบ้าง และเทคนิคการเติบโตในเส้นทางอาชีพทรัพยากรบุคคล

HIGHLIGHT

  • Career Path ของ HR โดดเด่นกว่าสายอาชีพอื่นเพราะได้ทำงานที่หลากหลาย มีความยืดหยุ่น มีโอกาสเติบโตสูง และเป็นงานที่มีความหมายต่อองค์กร
  • หากแบ่งกว้าง ๆ Career Path ของ HR จะแยกเป็น 2 อย่างคือแบบ Generalist ที่ทำงานทั่วไป และแบบ Specialist ที่ทำงานเชี่ยวชาญอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งแบ่งตามตำแหน่งได้อีกสารพัด
  • ถ้าอยากเติบโตใน Career Path ของ HR ต้องเป็นตัวเอง เป็นผู้นำทางความคิด เป็นผู้รู้ และมีความเป็นมนุษย์

Career Path ของ HR

ชีวิตก็เหมือนการเดินทางที่มี Career Path เป็นตัวกำหนดเส้นทางอาชีพ ซึ่งทุก ๆ สายงานล้วนมีเป้าหมายหรือตำแหน่งสูงสุดเป็นของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนพัฒนาตัวเองและเติบต่อไปในสายงานนั้น ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็เช่นกัน ที่มี Career Path ของ HR อันหลากหลาย แถมยังแตกย่อยออกกิ่งก้านสาขาสารพัด ซึ่งล้วนมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไป

วันนี้ HREX.asia จึงมาขยายภาพ Career Path ของ HR ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์กับ HR รุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตในสายงานนี้ หรือเพื่อนพนักงานที่สนใจย้ายสายมาฝ่ายทรัพยากรบุคคล ก็สามารถอ่านได้จากบทความข้างล่างนี้ได้เลย

4 เหตุผลที่งาน HR มี Career Path ที่ดี

Career Path คือ เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ เปรียบเสมือนถนนการทำงานที่พนักงานคนหนึ่งจะสั่งสะสมประสบการณ์เพื่อไปถึงเป้าหมายในอาชีพนั้น ๆ โดย Career Path ของ HR มีมากมายหลายบทบาท แต่ก่อนที่จะแตกรายละเอียดนั้น เราต้องเข้าใจบริบทโดยรวมก่อนว่า ทำไม Career Path ของ HR ถึงโดดเด่นกว่าสายอาชีพอื่น

1. ได้ทำงานหลากหลาย (Variety)

การทำงานของ HR ต่างจากสายอาชีพอื่นตรงที่แผนกทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบสนับสนุนพนักงานในหลากหลายแง่มุม เช่น การคำนวณค่าตอบแทน การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน การสรรหา หรือการจ้างงาน แถมยังต้องเข้าใจระบบข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมไปถึงการเข้าใจแผนธุรกิจในการพัฒนาองค์กรด้วย ทำให้ Career Path ของ HR ต้องการความรู้ความเชี่ยวชาญที่หลากหลายเช่นกัน

2. มีความยืดหยุ่น (Flexibility)

U.S. News & World Report รายงานว่า งานด้านทรัพยากรบุคคลมักจะมีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ใช้การสื่อสารทางไกล และทำงานร่วมมือกับทีมที่อยู่ภายนอกสำนักงานเสมอ ฉะนั้นเมื่อ HR สามารถทำงานจากระยะไกลเป็นหลักได้ ก็จะสามารถทำการต้อนรับพนักงาน การฝึกอบรม และการพัฒนาพนักงานผ่านเทคโนโลยีทางไกลโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ ความยืดหยุ่นนี้ ทำให้การทำงานของ HR มีความคล่องตัวสูง ไร้ความเครียด และเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีผลสำรวจพึงพอใจในงานของตัวเองสูงสุด

3. มีโอกาสเติบโต (Growth Potential)

แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานพึงพอใจคือการเติบโตในสายงาน เช่น โอกาสในการได้งาน การเลื่อนตำแหน่ง หรือการเพิ่มเงินเดือน ซึ่งสำนักสถิติแรงงาน (BLS) ได้คาดการณ์ว่า การเติบโตของการจ้างงานสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลระหว่างปี 2018 ถึง 2028 จะมากขึ้น 5% โดยคาดว่าจะเปิดรับ 67,700 ตำแหน่งต่อปีจนถึงปี 2028 ทีเดียว หรือกระทั่งเงินเดือนเฉลี่ยของ HR ทั่วไปจะอยู่ในหลักหมื่น แต่ถ้าพัฒนาเป็นระดับผู้จัดการอาจแตะได้ถึงหลักแสนทีเดียว

4. เป็นงานที่มีความหมาย (Meaningful Work)

เพราะคนคือหัวใจขององค์กร และ HR ก็เป็นแผนกที่ทำงานกับคนเป็นหลัก ทำให้งานของ HR ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จขององค์กรได้ ซึ่งจะสร้างความหมายและความภาคภูมิใจในการทำงาน รวมไปถึงยังสามารถสร้างวัฒนธรรมของทีมได้เหมือนกัน ฉะนั้นเมื่อเติบโตใน Career Path ของ HR ก็จะยิ่งสร้างผลกระทบ และสร้างความหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

จะเริ่ม Career Path ของ HR ได้อย่างไร

Career Path ของ HR

มีคำถามหนึ่งที่หลายสงสัยก็คือ เรียนจบอะไรมา ถึงจะเป็น HR ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว เรียนจบอะไรมาก็สามารถเป็น HR ได้เหมือนกัน แต่ถ้าอยากให้ระบุเฉพาะเจาะจงไปเลย ก็จะเป็นจำพวกคณะหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ขณะเดียวกันกลุ่มที่ข้ามสายมายัง HR ก็จะมี เช่น สายธุรกิจ สังคมวิทยา และจิตวิทยา เป็นต้น

ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่โลกการทำงานของ HR เส้นทางอาชีพสามารถเลือกเดินได้ทั้งการเป็นพนักงาน HR ประจำ หรือ Freelance HR ก็ได้ ขึ้นอยู่ตามประสบการณ์ ทักษะความรู้ และการออกแบบชีวิตการทำงานของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่สามารถเลือกได้ 2 ทางกว้าง ๆ คือ

  • Generalist: HR ทั่วไปที่มักทำงานหลากหลาย เช่น การสรรหา การจ้างงาน การฝึกอบรบและพัฒนา การคำนวณค่าตอบแทน ฯลฯ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าองค์กรทำตามกฎหมายแรงงานของรัฐบาล
  • Specialist: HR ผู้เชี่ยวชาญที่มักทำงานในองค์กรใหญ่ มีเทคนิคและความรู้เฉพาะทางมากขึ้น เช่น การบริหารความเสี่ยง การคิดแผนธุรกิจ หรืออาจเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไปเลย เช่น เชี่ยวชาญเรื่องการสรรหา เชี่ยวชาญเรื่องการคำนวณค่าตอบแทน เป็นต้น

 

Career Path ของ HR มีตำแหน่งอะไรบ้าง

HR assistant / HR officer

เป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคลในระดับเริ่มต้น ส่วนใหญ่มักต้องการแค่วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี และไม่จำเป็นต้องจบคณะ HR โดยตรง โดยงานส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกของกระบวนการทำงานต่าง ๆ ของ HR เช่น งานเอกสารหรือการแก้ปัญหาทั่วไป ทั้งการทำแผนสวัสดิการ การขาดงาน ค่าจ้าง ทำงานล่วงเวลา หรือเลิกจ้าง ฯลฯ

HR Coordinator

เป็นฝ่ายผู้ประสานงาน HR หรือที่มักรู้จักในฐานะนักสรรหาพนักงาน (recruiter) ทำงานเกี่ยวข้องกับการจัดหาพนักงาน การประมวลผลเงินเดือน บันทึกพนักงาน และให้การสนับสนุนด้านการบริหารต่าง ๆ โดยกลุ่มนี้จะต้องมีทักษะในการคัดเลือกพนักงาน สัมภาษณ์พนักงาน ตรวจสอบข้อมูล เก็บบันทึกข้อมูลหาถูกต้องตามหลัก PDPA ซึ่งในองค์กรขนาดเล็กมักควบรวม HR assistant และ HR Coordinator ไว้ด้วยกันเลย

HR Business Partner

อาจไม่ใช่ตำแหน่งโดยตรง แต่เป็นบทบาทหนึ่งที่สำคัญของ HR ทว่าบางบริษัทก็เปิดรับในตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่ง HRBP จะเป็นฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริการคน พร้อมทั้งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ โดยตำแหน่งนี้จะทำงานเคียงคู่ใกล้ชิดกับผู้บริหารโดยตรง ซึ่งบางองค์กรอาจให้นั่งเป็นคณะกรรมการบริหารหรือทำงานร่วมกับผู้บริหาร C-Level ทีเดียว

HR Manager

เป็นตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้นในด้านการทำงาน นโยบาย และข้อกำหนดปฏิบัติการต่าง ๆ และเป็นผู้ที่ต้องทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในองค์กรเป็นไปตามกฎหมายของท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย ทำให้จำเป็นต้องมีทักษะแก้ปัญหาและความเป็นผู้นำ สามารถวางแผนธุรกิจและบริหารงบประมาณได้ โดยบุคปัจจุบันจำเป็นต้องมีความคุ้นเคยกับระบบสารสนเทศต่าง ๆ ของ HR ด้วยเช่นกัน ส่วนมากจะมีประสบการณ์การทำงานไม่ต่ำกว่า 5 ปีขึ้นไป

HR Director

ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะมีบทบาทหลากหลาย สามารถควบตำแหน่งหัวหน้าแผนกต่าง ๆ ได้ หรือจัดการแค่แผนกทรัพยากรบุคคลอย่างเดียว เพราะตำแหน่งนี้จะได้รับการคาดหวังให้ช่วยคิดกลยุทธ์ในการบริหารบุคคลทั้งบริษัท ต้องแก้ปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของ HR ทำให้ต้องเข้าใจเรื่องกฎหมายหรือข้อบังคับต่าง ๆ เป็นอย่างดี โดยปกติแล้ว ตำแหน่งนี้ต้องศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป และมีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี

Vice President of HR

ตำแหน่งรองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลมักจะอยู่ในบริษัทที่พนักงานเป็นผู้บริหารโดยเฉพาะ เพราะองค์กรส่วนใหญ่ตำแหน่งที่เหนือจาก HR Director มักจะเป็นตำแหน่ง CHRO ไปเลย ซึ่ง VPHR จะรับผิดชอบในส่วนบริหารหรือการตัดสินใจที่สำคัญ เช่น ขั้นตอนสุดท้ายของโครงการหรือการสร้างกระบวนการใหม่

Chief HR Officer (CHRO)

เป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดในองค์กรต่าง ๆ แล้ว มีบทบาทสำคัญในการบริหารทุกอย่างโดยทำงานเคียงคู่ CEO และผู้บริหารคนอื่น มีหน้าที่ควบคุมดูแลการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลทั้งหมด สามารถเปลี่ยนแปลงนโยบาย เป้าหมาย หรือข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อรักษาและพัฒนาพนักงานทั้งหมด ตำแหน่งนี้มักมีประสบการณ์ทำงาน 15 ปีขึ้นไป และจบสายงานพัฒนามนุษย์โดยเฉพาะ

HR Community Expert Partner พูดถึงเรื่องนี้ว่า…

ปราการ วงษ์จำรัส Assistant Chief Executive Officer Human Resources

“การเติบโตในทุก ๆ สายงาน สามารถเติบโตได้ทั้งในแนวตั้ง และ แนวนอน สำหรับงานในสาย HR ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ถ้าแบ่งตามฟังก์ชั่นการทำงานจะมีหลักๆ อยู่ ดังนี้ 

  1. Recruitment 
  2. HR Business Partnership 
  3. Compensation and benefit 
  4. Training 
  5. HR Share service 
  6. HR Compliance 
  7. HRIS   

ทีนี้การเติบโตในสายงาน HR สามารถเติบโตได้แนวตั้ง คือ การได้รับการ Promotion ประจำปี หรือบางทีมี Sub-band ต้องมีการขยับปรับ Sub-band ย่อยก่อน อธิบายง่าย ๆ คือ การเติบโตแนวตั้ง เราจะได้รับการปรับตำแหน่งจาก Junior เป็น Senior จาก Senior เป็น Manager ในฟังก์ชั่นงานของเรา

ส่วนการเติบโตในแนวนอน เนื่องจากเรามองแล้วว่าหนทางการได้รับการปรับตำแหน่งมีเงื่อนไขที่ยากลำบาก ประกอบกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาจไม่ชอบงานที่ทำในฟังก์ชั่นงานนี้เลย อยากขอย้ายไปทำฟังก์ชั่นงานอื่น เช่น ทำงานด้าน Recruitment มาสักระยะเริ่มเบื่อแล้ว อยากขอไปทำงานฟังก์ชั่น HR Business Partnership ก็สามารถทำได้ถ้าผ่านการสัมภาษณ์โอนย้ายภายใน วิธีการนี้เป็นการเติบโตในแนวนอน เพื่อให้เราได้หลายฟังก์ชั่น รองรับการเติบโตเป็น Manager ในอนาคตได้ เพราะเงื่อนไขในการเป็น Manager อาจต้องรู้มากกว่า 1 ฟังก์ชั่นงานของ HR เช่น ต้องรู้ Recruit  HRBP Training  เพื่อเป็นพื้นความรู้และประสบการณ์ในงาน แต่ละฟังก์ชั่นอาจแข็งแรงไม่เท่ากัน ก็เป็นได้ การเติบโตแนวนอน เหมือนเป็นการได้เรียนรู้ และเติบโตในอนาคต”

เทคนิคการเติบโตใน Career Path ของ HR

Career Path ของ HR

ถ้าทุกคนสนใจการทำงานสายทรัพยากรบุคคล หรือทำงานในสายนี้อยู่แล้ว เรามีเทคนิคการเติบโตใน Career Path ของ HR มาฝากกัน

  • เป็นตัวเอง – ถ้าเราสนับสนุนให้พนักงานเป็นตัวของตัวเอง มีงานอดิเรก มีเป้าหมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การทำงานเสมอ HR ก็ควรเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ไม่ใช่พนักงานที่เข้ามาทำงานไปวัน ๆ
  • เป็นผู้นำทางความคิด – ช่วงแรก ๆ การแบ่งปันความคิดและประสบการณ์กับคนอื่นอาจรู้สึกฝืนสักหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกับคนอื่นจะทำให้เรามีคอนเน็คชั่นมากขึ้น เรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น เพื่อสร้างตัวตนของเราในแวดวงนี้
  • เป็นผู้รู้ – ในที่นี้หมายถึงการมีความรู้ทางบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งควรเข้าใจอย่างถ่องแท้และทราบถึงความรับผิดชอบในทุกบทบาท เพื่อที่ว่าในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเลื่อนขึ้น เราก็จะพร้อมในการรับตำแหน่งนั้น ๆ ที่สำคัญคือต้องเข้าใจการดำเนินงานในองค์กรแบบ 360 องศาด้วย
  • เป็นมนุษย์ – เมื่อ HR ทำงานร่วมกับมนุษย์ เราก็ควรมีความเป็นมนุษย์กับคนอื่น หาใช่ผู้คุมกฎที่ทำหน้าที่จ้องจับผิดพนักงานคนอื่นอยู่เสมอ สิ่งนี้เกิดขึ้นง่าย ๆ เพียงแค่เดินเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานอื่นบ้าง ว่าเขาทำอะไร มีโปรเจกต์อะไร ติดขัดตรงไหนไหม นอกเหนือจากการรู้จักกันผ่านเอกสารหรือฐานข้อมูลบริษัทอย่างเดียว

บทสรุป

เหตุผลที่ต้องสร้าง Career Path ให้พนักงานในองค์กร

เพราะทุกคนล้วนต้องการความก้าวหน้าทางอาชีพ การรู้จักเส้นทางที่ตัวเองกำลังเดินย่อมดีกว่าการทำงานไปวัน ๆ และจะดียิ่งขึ้นหากเรารู้ว่า วิธีการเติบโตในเส้นทางอาชีพนั้นต้องเตรียมตัวอย่างไร

HR ก็เช่นกัน ในเมื่อเรามีหน้าที่วาง Career Path ให้พนักงานคนอื่น ทำไมเราถึงไม่ออกแบบ Career Path ของตัวเองบ้าง แล้วเราก็จะมีเป้าหมายการทำงานในเส้นทางทรัพยากรบุคคลอย่างแท้จริง

ที่มา

ผู้เขียน

Picture of Sahatorn Petvirojchai

Sahatorn Petvirojchai

Manager of HREX.asia who works in media platforms for a long time. Interested in Global Culture, Marketing, and Self Development.

บทความที่เกี่ยวข้อง