สัมภาษณ์ สายัณห์ รอย แห่ง B. Braun Thailand (บี. บราวน์ ประเทศไทย) เจาะเคล็ดลับความสำเร็จ ในฐานะองค์กรที่มีคนอยากร่วมงานด้วยที่สุดจาก HR Asia 3 ปีซ้อน

HIGHLIGHT

  • คุณสายัณห์ รอย Managing Director ของ B. Braun Thailand ทำงานในองค์กรแห่งนี้ 9 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเชื่อมั่นในเรื่องการดูแลพนักงานให้ดีที่สุด และมุ่งเน้นเรื่องการสร้างระบบการทำงานที่ดี เพื่อให้พร้อมรับมือโลกที่วิถีการทำงานเปลี่ยนแปลงไปเสมอ
  • คุณสายัณห์ยืนยันว่า B. Braun Thailand ให้ความสำคัญกับเรื่อง Diversity ความหลากหลายในองค์กร ทั้งด้านวัฒนธรรม ความหลากหลายทางเพศ LGBTQIA+ รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ โดยหากพนักงานรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น จะทำให้เกิดไอเดียมาพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้ยิ่งขึ้น
  • แม้ B. Braun Thailand จะได้รางวัล Best Companies To Work For in Asia จาก HR Asia ไปครองถึง 3 ปีซ้อน (2020-2022) แต่คุณสายัณห์ยืนยันว่า B. Braun Thailand จะต้องไม่หยุดเพียงแค่นี้เพื่อสร้างองค์กรที่ดีขึ้น พัฒนาบุคลากรให้พร้อมสู้อนาคตต่อไปอย่างไม่มีหยุด
  • B. Braun Thailand ไม่หยุดยั้งที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนให้เกิดการปกป้องและพัฒนาสุขภาพของผู้คนในประเทศไทย

สัมภาษณ์ สายัณห์ รอย แห่ง B. Braun Thailand (บี. บราวน์ ประเทศไทย) เจาะเคล็ดลับความสำเร็จ ในฐานะองค์กรที่มีคนอยากร่วมงานด้วยที่สุดจาก HR Asia 3 ปีซ้อน

หากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ได้รับรางวัล Best Companies To Work For in Asia จาก HR Asia แม้เพียงครั้งเดียว ก็มากพอจะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยม และสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานแล้ว

แต่ในกรณีของ B. Braun Thailand บริษัทแบบครอบครัวที่ทำธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare) มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเข้ามาทำธุรกิจที่ไทยได้ 34 ปี สามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้ถึง 3 ปีติด (2020, 2021, 2022) แสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวา และไม่หยุดพัฒนาแม้จะได้รับรางวัลแล้วก็ตาม

HREX.asia มีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณ สายัณห์ รอย (Sayan Roy) Managing Director แห่ง B. Braun Thailand เป็นเวลาสั้น ๆ ถึงเรื่องการบริหารจัดการคน และการดูแลองค์กรให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข หากอยากรู้เคล็ดลับความสำเร็จล่ะก็ อ่านได้จากบทสัมภาษณ์นี้เลย

ทำไม B. Braun Thailand ถึงสนใจในการพัฒนาศักยภาพพนักงาน

สายัณห์: ผมคิดว่าพนักงานคือแกนหลักขององค์กรครับ เมื่อเราตกลงทำงานร่วมกันแล้ว เราก็ควรดูแลให้ดีที่สุด และควรมีกระบวนการเพื่อพัฒนาบุคลากรเสมอ ทั้งการมีโปรแกรม Human Resource Development หรือการสร้างความเป็นผู้นำ Leadership เป็นต้น เราต้องทำให้แน่ใจว่า พนักงานทุกคนจะทำงานด้วยกันได้ดีและมีประสิทธิภาพ นั่นคือสิ่งที่ผมเชื่อ

เรายังเห็นควรว่าต้องสนับสนุนให้เกิด Diversity (ความหลากหลาย), Equity (ความเสมอภาค), และ Inclusion (การมีส่วนร่วม) (หรือ DEI) ในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อการทำงานในปัจจุบันและอนาคต และในฐานะ Managing Director ผมเองต้องเป็นคนแรกที่เชื่อในเรื่องเหล่านี้ก่อน และให้คุณค่ากับประเด็นเหล่านี้ก่อนพนักงานด้วย

นโยบายนี้ไม่เพียงเป็นนโยบายของ B. Braun Thailand แต่ยังเป็น Mindset ของเราในระดับโลกด้วยครับ ถ้าเราอยากสร้างให้เกิดขึ้นจริงจัง เราก็ต้องเริ่มจากตัวเอง เริ่มจากพนักงานในองค์กรก่อน นี่คือพันธสัญญา (Commitment) ของเราทุกคนในองค์กรแห่งนี้ 

คุณมาทำงานที่ไทยที่ B. Braun Thailand 9 ปีแล้ว เห็นความเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการคนอย่างไรบ้าง

สายัณห์: เรามีความเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเชื่อมั่นในพนักงานเสมอ เพราะพนักงานคือศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ เราจึงต้องการพัฒนาศักยภาพของเขาในด้านต่าง ๆ ช่วยให้เขาเติบโตยิ่งขึ้น และมีความสุขในการทำงานยิ่งขึ้น

อย่างที่กล่าวไว้ว่า เรายังเชื่อเรื่อง DEI เชื่อมั่นว่าพนักงานต้องมาก่อน เราเชื่อเรื่องการเลื่อนตำแหน่งคนมีความสามารถจากภายใน สิ่งที่ผมทำมา 9 ปีนี้พัฒนาองค์กรไปหลากหลายรูปแบบ นำโดยระบบการทำงานของเราพัฒนาขึ้นทุกปี เพื่อให้พร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ เรายังมั่นใจว่า เราเป็นองค์กรด้านสุขภาพที่สนับสนุนให้เกิดการปกป้องและพัฒนาสุขภาพของผู้คนที่ดี เป็นองค์กรระดับโลกมีความน่าเชื่อถือครับ

สัมภาษณ์ สายัณห์ รอย แห่ง บี. บราวน์ ประเทศไทย เจาะเคล็ดลับความสำเร็จ ในฐานะองค์กรที่มีคนอยากร่วมงานด้วยที่สุดจาก HR Asia 3 ปีซ้อน

ได้ยินว่า B. Braun Thailand อนุญาตให้พนักงาน Work From Home เพื่อให้พนักงานทำงานได้สะดวกขึ้นในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก ทุกวันนี้ยังอนุญาตให้ WFH อยู่ไหม

สายัณห์: เรายังให้ WFH ได้ครับ เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปช่วง 2-3 ปีนี้คือ สภาพการทำงานที่เปลี่ยนไปทั้งโลก ไม่เฉพาะแต่ที่ B. Braun เท่านั้น 

เราเห็นประโยชน์จากการ WFH เนื่องจาก Productivity ของเราเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ขาดไปคือการมีปฏิสัมพันธ์กันของพนักงานในองค์กร ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราอยากแก้ไข เราอยากให้กำลังใจ ให้พนักงานทำงานที่บ้านต่อ แต่ในขณะเดียวกันเราก็อยากให้เขาเชื่อมโยงถึงกันและกันด้วย

สำหรับใครที่มาทำงานที่ออฟฟิศ เรามีมุมกาแฟให้ทุกคนได้พูดคุยกัน ได้สานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ตอนนี้เราอยากสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบผสมผสาน ให้เกิดความยืดหยุ่น ความสม่ำเสมอ สร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับพนักงานครับ

หลายองค์กรเลิกให้พนักงาน WFH เพราะพบปัญหาจากการทำงานหลายอย่าง ที่ B. Braun Thailand เจอปัญหาอะไรบ้างหรือไม่

สายัณห์: เรายังทำงานที่บ้านต่อ เพราะเรารู้ว่าการจราจรในกรุงเทพฯ นั้นยากลำบากแค่ไหน (หัวเราะ) แต่ละคนต้องใช้เวลาบนท้องถนนไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมันมีค่าและสามารถเอาไปทำอะไรให้ประโยชน์ได้มหาศาลมาก

แต่ช่วง 2-3 ปีนี้เราเห็นว่าเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมาก และมันช่วยสนับสนุนการ WFH ได้มากทีเดียว ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นไม่กี่ปีเราคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ ตอนนี้มายด์เซ็ตผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว เทคโนโลยีทำให้เกิด Ecosystem ช่วยให้เกิด Productivity เพิ่มขึ้น เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้

อย่างไรก็ตาม เราก็อยากให้คนแวะเวียนมาทำงานที่ออฟฟิศด้วย อย่างน้อยสัก 50% เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน ผมเชื่อมั่นว่า มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เรายังต้องรู้จักกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน ทักทายกัน รู้จักกันมากยิ่งขึ้นครับ

ผมคิดว่าทุกองค์กรควรวางระบบ วางนโยบายให้ชัดเจนครับ มิฉะนั้นองค์กรจะไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น เรามีนโยบายให้มาทำงานที่ออฟฟิศเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเข้าพร้อมกันตรงเวลากันหมด ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำของแต่ละทีมที่จะจัดการว่า ใครควรเข้ามาวันไหน แต่เราก็ไม่ได้ห้ามพนักงาน Work From Home 

เหนือสิ่งอื่นใด เราเชื่อมั่นในตัวผู้นำของแต่ละทีม เราให้ความไว้วางใจ (Accountability) และเสริมสร้างความไว้วางใจ (Trust) ซึ่งกันและกันว่าผู้นำจะพาทุกคนไปสู่เป้าหมายได้ เราจึงต้องสร้างความเชื่อใจคนในทีมให้เกิดขึ้นครับ

ก่อนหน้านี้คุณเล่าว่า B. Braun Thailand เชื่อมั่นเรื่อง DEI พอจะขยายความเพิ่มเติมได้หรือไม่ว่า ความหลากหลายสำคัญอย่างไร

สายัณห์: ความหลากหลาย เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจกัน เราสนับสนุนความหลากหลายด้านวัฒนธรรม ทั้งในระดับภูมิภาค ประเทศ ช่วงวัย รวมถึงความหลากหลายทางเพศ LGBTQIA+ และอย่างที่บอกว่า เรายังสร้างองค์กรที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สามารถมาทำงานแบบปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety Culture)

พนักงานของเรารู้ว่าพวกเขาได้รับความเปิดกว้างให้สามารถแบ่งปันความคิดเห็น สามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ เราสนับสนุนความหลากหลายทางความคิด ถ้าคุณทำให้องค์กรปลอดภัยไม่เพียงทางกาย แต่รวมถึงทางจิตใจได้ จะทำให้พนักงานมีความมั่นใจ กล้าที่จะแชร์ไอเดียต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกลำบากใจ และจะทำให้เกิดไอเดียที่ดีที่สุดต่อองค์กร การอยู่ในองค์กรที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัย สามารถแสดงความคิดเห็นได้ จะทำให้ความคิดสร้างสรรค์นั้นเบ่งบานสวยงาม

เรายังสนับสนุนให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ B. Braun Thailand มีพนักงานผู้หญิงมากกว่า 75% ไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ หรือองค์กรอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีพนักงานผู้ชายมากกว่า เราสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้เรื่อง DEI ว่าสำคัญต่อองค์กรและการทำงานอย่างไร เรายังมี Employee Diversity Club มีผู้นำของแต่ละทีมที่เชื่อมั่นในเรื่องนี้เข้าร่วมด้วย ตลอด 2 ปีที่ทำขึ้นมา ทุกคนทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายในองค์กร

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียง 1 ในไม่กี่อย่างที่แสดงให้เห็นว่า เราเอาจริงเอาจังกับการทำให้เกิด ความหลากหลายในองค์กรมากเพียงใด

B. Braun Thailand ได้รับรางวัล Best Companies to Work For จาก HR Asia ถึง 3 ปีซ้อน รางวัลเหล่านี้มีความหมายอย่างไรบ้าง

สายัณห์: เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจของบริษัทครับที่ได้รับรางวัล Best Companies to Work For จาก HR Asia ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายและกิจกรรมที่เราทำอย่างไม่ลดละ ผสมผสานด้วยการฟังเสียงของพนักงาน การได้รับรางวัลนี้ แสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้ว ขอขอบคุณที่ HR Asia มอบรางวัลนี้ให้กับเรา และขอบคุณพนักงานทุกคน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จตลอดมา

แต่เราไม่ได้ทำงานเพื่อหวังว่า พอได้รางวัลแค่ปีเดียวแล้วก็หยุด เรามองเป็นกระบวนการในระยะยาวไม่ต่างกับการวิ่งมาราธอนครับ และเราหวังว่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

สัมภาษณ์ สายัณห์ รอย แห่ง บี. บราวน์ ประเทศไทย เจาะเคล็ดลับความสำเร็จ ในฐานะองค์กรที่มีคนอยากร่วมงานด้วยที่สุดจาก HR Asia 3 ปีซ้อน

อะไรคือความท้าทายที่สุดด้าน HR ของ B. Braun Thailand ในปี 2023

สายัณห์: โลกเปลี่ยนแปลงไปมากครับ ทั้งวิถีการทำงาน การรับพนักงานใหม่ และการพัฒนาศักยภาพพนักงานในองค์กร เทคโนโลยีการแพทย์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ช่วยให้การรักษาคนไข้ การดูแลสุขภาพดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นคือเรื่องสำคัญสำหรับเรา ในระดับนานาชาติ เราเตรียมพร้อมพนักงานหลายด้านให้พร้อมรับมืออนาคต และเราหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น เราสร้าง Ecosystem ขึ้นมารองรับการทำงาน ใช้เทคโนโลยีที่มีดึงความสามารถที่ดีที่สุดออกมา

3-4 ปีก่อน เราไม่เคยคิดจะใช้ e-Learning แบบนี้ แต่ระยะหลัง มันคือสิ่งที่ดีมาก มีหลายสถาบันมาพร้อมวิธีการสอนหลากหลาย มี e-Learning Module น่าสนใจจำนวนมากให้เราเอามาใช้งานได้ ยังไม่รวมข้อมูลจากเวทีเสวนาต่าง ๆ เช่น เวที TEDx Talks คอยให้ความรู้อีก ด้วยข้อมูลจำนวนมากเหล่านี้ ทำให้เราได้พัฒนาสกิลต่าง ๆ นั่นคือความเปลี่ยนแปลงด้านบวกที่เห็นได้ชัดเจน และเราเอามาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

สาเหตุที่เราต้องพัฒนา เพราะมันเกี่ยวข้องกับการมี Growth Mindset ด้วย ซึ่งสำคัญต่อการเติบโตขององค์กร ตลอดจนการเติบโตของประเทศ พวกเราทุกคนต้องไม่หยุดพัฒนา และต้องไม่หยุดเดินหน้าต่อไปครับ เพราะมันคือพื้นฐานของมนุษย์ครับ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฟีดแบ็คของพนักงาน B. Braun Thailand ที่มีต่อ HR เป็นอย่างไรบ้าง

สายัณห์: ตอนได้รางวัลครั้งแรกเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ยังแพร่ระบาดหนักเมื่อสัก 2 ปีก่อน ตอนนั้นการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Practices) ยังค่อนข้างจำกัดในการดูแลสุขภาพกายและใจของพนักงาน แต่เราก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่ เราจัดหาวัคซีนมาให้พนักงานไปจนถึงครอบครัวของพนักงาน

รางวัลที่ได้มาบ่งบอกว่า เราพยายามเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพนักงานเสมอ คอยดูแลไม่ห่างไกลไปไหน เรามองเห็นประโยชน์ของการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะช่วงพรีโควิด (Pre-Covid) ช่วงเรียนรู้จากโควิด (Learning From Covid) และเดินหน้าต่อไป (Moving Forward) HR Team ของเราไม่หยุดพัฒนานโยบายและทำให้เกิด Work Life Balance

3 ปีที่เราได้รางวัลนี้ติดกัน เราได้ปรับปรุงมาตรฐาน แสดงให้เห็นว่า เรามาถูกทางแล้ว แต่เรารู้ดีว่ามันจะต้องไม่สิ้นสุดแค่นี้ เรายังต้องสนับสนุนให้เขารู้สึกปลอดภัย

ผมเชื่อว่างานด้าน HR ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ HR เท่านั้น แต่พนักงานทุกคนสามารถช่วยพัฒนาด้านนี้ได้ทั้งนั้น เรารู้สึกว่า ผมอาจตอบคำถามนี้ได้ไม่ดีเท่าพนักงาน แต่ผมจะถือว่าผลของการได้รางวัลจาก HR Asia เป็นคำตอบของคำถามนี้ เพราะนี่คือผลที่มาจากองค์กรที่มีความเป็นกลางครับ

ในฐานะ Managing Director ของ B. Braun Thailand คิดว่า ทุกองค์กรจำเป็นต้องมี HR หรือไม่

สายัณห์: ผมไม่เชื่อว่างาน HR เป็นงานของฝ่าย HR เพียงเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นงานของทุกคน ผู้นำทุกคนต้องดูแลพนักงานของตัวเองเสมอ เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าเกิดมีคนบ่นว่า ทำไมพนักงานถึงลาออก มันอาจไม่ได้เป็นผลมาจาก HR ไม่ดูแล แต่อาจเป็นผลมาจากผู้นำก็ได้ 

HR มีหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนการทำงานของผู้คน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ดี (Workforce Environment) ช่วยสร้าง ช่วยเตรียมพร้อม เรื่องทักษะความสามารถ แต่พวกเขาทำงานคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีผู้นำ ช่วยนำพาองค์กร คนที่เป็นแกนกลางในสิ่งที่เราทำ HR สนับสนุนการเติบโต การทำงานของทุกคน

หลังโควิดบทบาทของ HR หลังจากนี้จะมีความสำคัญมากขึ้น เราหวังว่า B. Braun Thailand จะเติมเต็มความต้องการของพนักงานได้ ให้พวกเขามี Work Life Balance ผมเชื่อว่า HR ต้องเป็น Business Partner ที่ดี ช่วยเติมเต็มองค์กรเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ ผ่านการสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ เช่น สนับสนุน DEI สร้างความน่าเชื่อถือ นี่คือสิ่งที่เรายึดมั่นเสมอมา

และเราหวังว่า เราจะช่วยกันทำให้วัฒนธรรมองค์กรของเราที่เรียกว่า “ABC” หรือ “Amazing B. Braun Culture” แข็งแรง และเติบโตอย่างยั่งยืนสืบไปในอนาคตครับ

ผู้เขียน

Paranaphat Anui

Paranaphat Anui

Take Off Toward a Dream

บทความที่เกี่ยวข้อง