บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีการแข่งขันที่สูง นอกจากแข่งขันการสร้างบ้าน คอนโด หรืออาคารสถานที่ที่มีความน่าอยู่ สวยงาม คุ้มค่าคุ้มราคาแล้ว ยังแข่งขันกันสร้างองค์กรเพื่อดึงดูดพนักงานมากความสามารถให้อยากมาร่วมงานด้วย
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) ผู้สร้างโครงการเด่น ๆ เช่น สามย่านมิตรทาวน์, เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ และโครงการสาทร สแควร์ ก็ถือเป็นอีกองค์กรที่มีชื่อเสียงด้านการทำงาน จนเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นองค์กรที่น่าร่วมงานด้วย พิสูจน์ได้จากการได้รับรางวัล Best Companies To Work For in Asia ประจำปี 2023 จาก HR Asia ไปครอง
HREX ได้พูดคุยกับคุณ วชิระ ฉัตรภูติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (Executive Vice President – Human Resources) เพื่อล้วงเคล็ดลับความสำเร็จที่ช่วยส่งให้กลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ถ้าพร้อมแล้ว ไปหาคำตอบได้ในบทสัมภาษณ์นี้เลย
อะไรคือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) ได้รับรางวัลจาก HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 และรางวัลนี้มีความหมายต่อองค์กรอย่างไร?
วชิระ: เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) ได้รับรางวัลนี้ เกิดจากการที่พนักงานรับรู้วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนขององค์กร และมีเป้าหมายในการทำงานชัดเจน ซึ่งเป็นวิถีที่พนักงานใช้ในการทำงานร่วมกันจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งครับ
เมื่อองค์กรมีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้พนักงานแสดงออกถึงการให้ความร่วมมือกับกิจกรรมในองค์กรอย่างสมัครใจ ทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะมุ่งมั่นทุ่มเทต่อเจตนารมณ์ (Company Purpose) “สร้างสรรค์พื้นที่ ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่” (Inspiring Experiences, Creating Places for Good) จนกลายเป็นความผูกพันที่พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ตลอดจนรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน ก่อให้เกิดแรงผลักดันให้องค์กรก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ นำมาสู่ความจงรักภักดีต่อองค์กรในที่สุด
ผมเชื่อมั่นว่า รางวัลนี้จะสามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากรด้าน HR ในการพัฒนาต่อยอดมาตรฐานงานด้านบริหาร และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความยั่งยืนต่อไปครับ
ที่ผ่านมา HR ฟังเสียงของพนักงาน แล้วนำมาปรับปรุงองค์กรให้น่าอยู่ น่าทำงานด้วยอย่างไรบ้าง
วชิระ: เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของพนักงานผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น การสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร (Employee Engagement Survey), การสำรวจความพึงพอใจของพนักงานต่อสวัสดิการ (Employee Benefits Survey), การสำรวจวัฒนธรรมองค์กร (Culture Survey) เป็นต้น
หลังจากที่สอบถามความคิดเห็น จนได้รับทราบผลการสำรวจความพึงพอใจแล้ว เราก็นำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงด้านต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงสวัสดิการ, การปรับปรุงระเบียบและนโยบายด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น ที่เราเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อการทำงานของบุคลากรทุกคนครับ
HR ยุคใหม่สามารถสนับสนุนการเติบโตขององค์กรให้เป็นองค์กรที่ทุกคนอยากร่วมงานด้วยได้อย่างไร
วชิระ: ธุรกิจในปัจจุบันต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน ตั้งแต่รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ความต้องการทักษะใหม่ ๆ ที่องค์กรมองหาจากพนักงาน ตลอดจนความคาดหวังของพนักงานต่อองค์กรที่เปลี่ยนไป เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญขององค์กร ทำให้ต้องวางกลยุทธ์การบริหารคนให้สอดคล้องกับกระแสความเปลี่ยนแปลงนี้
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) จึงเลือกใช้กลยุทธ์ “Happy 8 หรือความสุข 8 ประการ” เป็นความสุขที่ทำให้คนเราเกิดสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า คน คือ หัวใจขององค์กร การสร้างคนที่มีความสุขให้อยู่รวมกัน จะเกิดเป็นองค์กรแห่งความสุข (Happy workplace) ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น โดยมีหน่วยงาน People Passion เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างความสุขให้แก่พนักงาน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ครับ
มีคำกล่าวว่า HR ยุคใหม่ต้องเป็นนักวางกลยุทธ์ และเป็น Business Driver เราจะเปลี่ยนตัวเองให้มีความพร้อมได้อย่างไร
วชิระ: การทำงานของทุกส่วนงานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของงานที่ทำ การเปลี่ยนแปลงขององค์กรเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งฟังก์ชั่นการทำงานของ HR ก็เช่นกันที่ต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงเสมอ HR จึงต้องพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวคิดใหม่ เพื่อนำมาสร้างความสำเร็จให้เกิดกับองค์กร
ในมุมมองผมในฐานะผู้ดูแลงานด้านทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร โดยบทบาทต้องเป็น Business Partner เพื่อให้หน่วยงาน HR เป็น Business Driver ขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุพันธกิจต่าง ๆ และเพื่อให้ HR มีความสามารถและมีความพร้อมในการวางกลยุทธ์ด้านทรัพยากรมนุษย์ให้แก่องค์กรเพื่อร่วมผลักดัน Business Result จึงต้องมีความสามารถด้านต่าง ๆ ดังนี้
- Business Acumen มีความเข้าใจเรื่องธุรกิจขององค์กร และการประยุกต์ใช้ รวมถึงความเข้าใจกระบวนการทำงานขององค์กร รู้จักเชื่อมโยงการทำงานในองค์กร และรู้ธุรกิจในภาพกว้าง
- Cultural Awareness มีความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรมเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
- Digital Fluency มีความรู้ ความเข้าใจทักษะด้านดิจิทัล เพื่อสร้างสรรค์ พัฒนา ปรับตัวกับงานด้านทรัพยากรบุคคล
- Data Analytics and Visualization มีความรู้ ความเข้าใจวิธีจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งเป็นพื้นฐานของกลยุทธ์และโซลูชั่นด้านการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์
- Managing and Engaging People with Change มีความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผู้คน โดยการทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำและผู้จัดการคนอื่น ๆ เป็นผู้ริเริ่ม
- Consultancy Skills มีทักษะด้านการให้คำปรึกษาที่หลากหลายครับ
คิดว่าภายใน 5 ปีต่อจากนี้ HR มีภารกิจอะไรบ้าง ที่ต้องทำเพื่อยกระดับองค์กรและรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน
วชิระ: เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand) วางกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ผ่าน 5 แนวทาง ดังนี้
- ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรแบบมุ่งผลสำเร็จ (Achievement Culture)
- วางแผนผู้สืบทอดตำแหน่งและการรักษาพนักงานที่มีความสามารถ (Succession and Talent Retention)
- เพิ่มความคล่องตัวขององค์กรผ่านระบบเทคโนโลยีและดิจิทัล (Digital / IT Enhancement)
- ให้ความสำคัญด้านคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน (Well-Being Organization)
- ให้ความสำคัญด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (Diversity Equity and Inclusion)
นี่คือ 5 ภารกิจที่ HR ต้องทำเพื่อสร้างให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สุดท้ายนี้ อยากบอกอะไรกับ HR / คนทำงานที่กำลังหมดไฟ และต้องการกำลังใจเพื่อเดินหน้าต่อไปบ้าง
วชิระ: ผมอยากบอกทุกคนว่า ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ในใจของเรา ไม่มีกำแพงขวางกั้นจิตวิญญาณของเรา ไม่มีสิ่งใดกีดขวางการเติบโตของเรา นอกจากตัวเราเองครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ