ภาษาอังกฤษช่วยสร้าง Multicultural Organization เปิดโลกความเป็นสากลสู่องค์กร

คนที่ทำงานด้าน HR คงคุ้นเคยกับคำว่าโลกไร้พรมแดน (A World With No Boundary) ซึ่งเป็นคำที่สะท้อนให้เห็นว่าสังคมทำงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มก้อนเล็ก ๆ อีกต่อไป แต่เทคโนโลยีและค่านิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ทำให้โลกของเรากว้างใหญ่ขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เพราะเราสามารถสื่อสารกับคนทุกมุมโลกได้แบบเรียลไทม์, สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าถึงคนที่มีฝีมือจากทั่วโลกง่ายกว่าเดิม เราเรียกองค์กรแบบนี้ว่า Multicultural Organization หรือองค์กรที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมนั่นเอง

และในปัจจุบันการยกระดับภาษาอังกฤษภายในองค์กรไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเรามีแพลตฟอร์มอย่าง Globish Academia ที่พร้อมช่วยเหลือ HR แบบ One Stop Service ให้องค์กรของคุณสามารถยกระดับเป็นพหุวัฒนธรรมแบบไม่ต้องกลัวใคร

HR สามารถเปลี่ยนองค์กรให้มีความเป็นสากลได้อย่างไร และการรู้ภาษาอังกฤษจะสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในยุคปัจจุบันได้มากแค่ไหน หาคำตอบไปพร้อมกับเราที่ HREX.asia ได้เลย

Multicultural Organization คืออะไร ?

Multicultural Organization หมายถึงองค์กรที่มีบุคลากรมาจากหลายแห่ง มีความหลากหลายทางด้านภาษา วัฒนธรรม และความเชื่อ โดยบุคลากรทั้งหมดได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียม ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม และได้รับโอกาสในการเติบโตทางอาชีพเท่า ๆ กัน

McKinsey เผยว่าองค์กรที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมจะสามารถสร้างยอดขายได้ดีกว่าองค์กรที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ถึง 35% ขณะเดียวกันองค์กรที่มีผู้นำจากหลากหลายวัฒนธรรม จะมีโอกาสสร้างผลกำไรได้ดีกว่าองค์กรที่ผู้บริหารไม่มีความหลากหลายราว 25% ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากหากพิจารณาจากการแข่งขันทางธุรกิจยุคปัจจุบัน

สอดคล้องกับ Hult International Business School ที่บอกว่า องค์กรที่จะประสบความสำเร็จในปัจจุบันต้องให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางวัฒนธรรม ซึ่งการเป็น Multicultural Organization ถือเป็นก้าวแรก (Foundation) ที่จะทำให้องค์กรมีความเป็นสากล (Globally) 

Globish Academia จึงเห็นความสำคัญ เพราะเมื่อองค์กรเข้าใจเรื่องภาษาที่หลากหลายและรู้จักอยู่ร่วมกับคนแบบพหุวัฒนธรรมแล้ว เราก็สามารถจ้างพนักงานจากทั่วโลกโดยอ้างอิงจากทักษะ (Skilled-Base) แบบระยะสั้น (Gig Worker) ได้เลย องค์กรของเราจึงหลุดพ้นจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและทำให้เราทดลองสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย

Multicultural Organization มีประโยชน์กับการดำเนินธุรกิจอย่างไร ?

ในมุมมองของ Globish Academia สามารถพูดถึงประโยชน์ขององค์กรพหุวัฒนธรรมได้ดังนี้

1. ช่วยให้เราเข้าใจทักษะที่หลากหลายมากขึ้น (Diverse Skillset) : Multicultural Team จะทำให้องค์กรมีวิธีทำงานและแก้ไขปัญหาในรูปแบบใหม่ ๆ เพราะหากเราทำงานอยู่กับคนกลุ่มเดิม โดยวิธีคิดแบบเดิม เราก็จะไม่มีทางเข้าถึงกลยุทธ์ที่แตกต่างได้ และยิ่งบุคลากรสามารถอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้ดี เราก็จะมีความเข้าใจในลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าเดิมด้วย ความเข้าใจตรงนี้จะช่วยให้การมีส่วนร่วมของพนักงาน (Employees Engagement) มีประสิทธิภาพขึ้น
2. ช่วยให้เรามีทางเลือกในการว่าจ้างมากกว่าเดิม (Increase Talent Pool) : ไม่มีใครอยากทำงานกับองค์กรที่มีวัฒนธรรมขัดแย้งกับตนเอง ดังนั้นองค์กรแบบพหุวัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จจะถือเป็นข้อพิสูจน์เบื้องต้นที่ทำให้องค์กรของเราอยู่ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก นอกจากนี้ในยุคที่มีแรงงานในระบบน้อยกว่าที่เคย ความพร้อมในการว่าจ้างพนักงานที่หลากหลายจะช่วยแก้ปัญหานี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แบบเต็มเวลา แต่สามารถทำแบบพาร์ทไทม์เป็นโปรเจ็คท์ตามระยะเวลาที่กำหนดก็ได้
3. ช่วยให้เกิดนวัตกรรม (Innovation) : เมื่อเรารับฟังความเห็นจากคนที่หลากหลาย เราก็จะเข้าใจตลาดมากขึ้นว่าลูกค้าแต่ละรูปแบบต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบไหน ซึ่งหากเรานำความต้องการเหล่านั้นมาบูรณาการเข้าด้วยกัน ก็จะนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) ทำให้องค์กรเหนือกว่าบริษัทคู่แข่งอย่างน่าสนใจ

ความท้าทายของการสร้าง Multicultural Organization คืออะไร ?

การเป็น Multicultural Organization ไม่ใช่เรื่องง่าย โดย Harvard Business Review กล่าวว่า องค์กรแบบพหุวัฒนธรรมมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างคนในทีม เพราะถ้าผู้นำไม่สามารถลองรวมความหลากหลายทางแนวคิดที่เกิดขึ้นได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานก็จะเกิดปัญหาทันที ดังนั้นหากคุณกำลังมีนโยบายรับคนต่างชาติ เราต้องแน่ใจก่อนว่าองค์กรได้วางรากฐานไว้ดีพอแล้ว เพราะแม้ Multicultural Organization จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็มีความท้าทายที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน

ความท้าทายของการสร้าง Multicultural Organization ในสายตา Globish Academia มีดังนี้

1. รูปแบบการสื่อสาร (Communication Style) : ในประเทศฝั่งตะวันตก การสื่อสารจะมีความชัดเจนและตรงไปตรงมา ผู้ฟังสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการสื่อได้โดยทันที แต่วิธีการสื่อสารแบบนี้ต่างจากวัฒนธรรมเอเชียในบางประเทศที่มักเล่าเรื่องราวแบบปากไม่ตรงกับใจ เนื้อหาจริงที่ต้องการสื่อไม่ถูกพูดออกมา แต่ผู้ฟังมีหน้าที่พิจารณาจากน้ำเสียง การเลือกใช้คำ และบริบทอื่น ๆ มาประกอบ เพื่อทำความเข้าใจอีกฝ่ายอย่างแท้จริง นี่คือพื้นฐานเบื้องต้นที่จะทำให้เราร่วมงานกับคนต่างชาติได้ และหากเราไม่เข้าใจวัฒนธรรมนี้ เราก็จะตัดสินว่าอีกฝ่ายน่ารำคาญ เป็นการปิดกั้นโอกาสในการเข้าถึงตลาดแรงงานไปโดยปริยาย
2. ปัญหาของการใช้ภาษาและการออกเสียงที่ถูกต้อง (Pronunciation and Language Fluency) : แม้ภาษาอังกฤษจะมีสถานะเป็นดั่งภาษากลางในการทำธุรกิจ แต่บางครั้งการใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องหรือใช้สำเนียงผิดพลาด ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนส่งผลเสียต่อการทำงานได้ ดังที่ Harvard Business Review ยกตัวอย่างคำบ่นจากพนักงานเชื้อสายลาตินอเมริกาที่กล่าวว่า “ปัญหาสำคัญในการทำงานก็คือ ผมไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำศัพท์ไหนมาอธิบายสิ่งที่คิดอยู่ในหัว” ความไม่ชำนาญนี้จะทำให้เราสูญเสียสิทธิ์บางอย่างไปให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น แม้จะมีสถานะอยู่ในระดับเดียวกันก็ตาม คนที่ไม่ชำนาญในการใช้ภาษา (Nonfluent) จะไม่สามารถทำงานกับองค์กรแบบ Multicultural ได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีฝีมือมากแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่สามารถอธิบายสิ่งที่ต้องการออกมาให้ชัดเจนได้
3. มีทัศนคติเรื่องงานและลำดับขั้นขององค์กรต่างกัน (Authority & Hierarchy) : ในบางวัฒนธรรมคนที่มีตำแหน่งต่ำกว่าจะไม่สามารถก้าวไปพูดคุยกับคนที่เป็นหัวหน้าได้เลย แต่ในบางวัฒนธรรมพนักงานไม่ว่าจะระดับใดก็ตามจะมีลักษณะเหมือนเพื่อน สามารถแบ่งเส้นระหว่างเรื่องส่วนตัวและการทำงานได้อย่างชัดเจน ซึ่งหาก HR ไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลายนี้ และเอามุมมองของตนไปตัดสินว่าพนักงานคนใดคนหนึ่งไม่มีมารยาท ก็ถือเป็นคำตัดสินที่ไม่เป็นธรรม เรายึงต้องศึกษามองของพนักงานต่างชาติที่อยู่ในองค์กรของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าทุกฝ่ายจะมีความสุขในการทำงาน

การเรียนภาษาใหม่ เป็นประโยชน์กับ Multicultural Organization อย่างไร ?

หาก HR ให้ความสำคัญกับการอบรมเรื่องภาษา ก็จะถือเป็นภาพสะท้อนให้พนักงานเห็นว่าองค์กรพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยให้พนักงานมีความเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลายมากกว่าเดิม (Diversity & Inclusion) เพราะเราคงไม่มีทางเข้าใจวัฒนธรรมของคนอื่นได้เลยหากไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้เรื่องภาษาจึงเป็นบริบทสำคัญขององค์กรที่ต้องการก้าวสู่ความเป็นสากล

การเรียนรู้ภาษากับ Globish Academia ส่งผลดีต่อ Multicultural Organization ดังนี้

1. ช่วยให้เราเข้าใจการใช้ภาษามากขึ้น (Communication Awareness) : องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสอนภาษาใหม่ ๆ คือการสะท้อนว่าบริษัทให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของการมีส่วนร่วม (Inclusive Culture) ที่สำคัญการเข้าใจภาษาอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้เราสื่อสารกับลูกค้าหรือบุคลากรต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะหากเราเข้าใจภาษาเพียงผิวเผิน เราจะทำได้แค่เพียงสื่อสารเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถพูดคุยรายละเอียดอย่างตรงจุด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญทั้งในแง่ของธุรกิจและในแง่ของความสัมพันธ์

2. ช่วยให้เราเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลายขึ้น (Culture Awareness) : สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ก็คือภาษาส่งผลโดยตรงต่อสิ่งที่เราคิด มีคำที่มีความหมายอย่างหนึ่งในภาษาไทยแต่ไม่สามารถแปลเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันก็มีสำนวนภาษาอังกฤษ ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาไทยด้วยภาษาไทยอย่างชัดเจนเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเราไม่มีคำดังกล่าวให้พูดชีวิตประจำวัน เราก็จะไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คนต่างชาติคิดได้อย่างชัดเจน การเข้าใจภาษาอื่น ๆ จะช่วยให้เราเข้าใจวัฒนธรรมของพวกเขาได้ง่ายขึ้น ตรงจุดมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อการร่วมงานในแต่ละวัน

3. ช่วยให้เราเข้าใจเพื่อนร่วมงานมากขึ้น (Better Workflow) : แนวคิดของเรื่องนี้คือการเข้าใจว่าภาษาคือเครื่องมือในการเข้าสังคมที่มีประสิทธิภาพที่สุด ลองนึกภาพดูว่าหากเรามีพนักงานที่พูดได้มากกว่าสองภาษา  องค์กรของเราก็จะมีความเป็นสากล สามารถเปิดตลาดไปสู่ตลาดใหม่ ๆ ได้มากขึ้น องค์กรสามารถรับพนักงานชาวต่างชาติได้มากขึ้น และรู้ว่าจะร่วมมือกันได้อย่างคล่องตัวไม่มีอุปสรรคทางภาษา ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ในหลายองค์กรที่ไม่กล้าปรับตัวเป็นองค์กรพหุวัฒนธรรม นอกจากนี้การเข้าใจภาษาของกันและกันยังช่วยลดทอนเวลาทำงานจากเดิมที่ต้องใช้ล่าม กลไกเล็กน้อยเหล่านี้คือข้อได้เปรียบที่ช่วยให้เราเหนือกว่าคู่แข่งได้จริง

4. ถือเป็นสวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจ (Premium Benefit) : Forbes ได้ทำการวิจัยและพบว่ามีพนักงานบริษัทน้อยกว่า 50% ที่สามารถพูดได้มากกว่า 1 ภาษาอย่างสมบูรณ์แบบ (Fluency) ดังนั้นการเรียนการสอนเรื่องภาษาใหม่ ๆ จะถือเป็นสวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจ เพราะส่งผลในแง่บวกโดยตรงต่อความก้าวหน้าทางอาชีพ (Career Path)
5. ทำให้เกิดภาษากลางในองค์กร (Inclusive Language) : เป้าหมายสูงสุดขององค์กรแบบพหุวัฒนธรรมคือการทำให้ทุกฝ่ายเข้าหากันได้อย่างดี ซึ่งวิธีที่ควรเป็นคือการสร้างภาษากลางขึ้นมาอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้หมายถึงการสื่อสารทางวาจาเท่านั้น แต่รวมถึงภาษากายด้วย องค์กรที่มีความเข้าใจเรื่องนี้จะอยู่เหนือความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ทุกคนรู้ว่าสิ่งใดควร ทำสิ่งใดไม่ควรทำ สิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด นี่คือองค์กรแห่งอนาคตที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน

ได้เวลายกระดับความรู้เรื่องภาษาอังกฤษในองค์กรด้วย Globish Academia

เมื่อพูดถึงการเรียนภาษาสำหรับองค์กร สิ่งที่ HR ต้องเข้าใจคือการเรียนโดยมีเป้าหมายและใช้รูปแบบการสอนที่เหมาะกับทักษะดั้งเดิมของบุคลากรแต่ละคน ซึ่งการวางรากฐานตรงนี้จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ออกแบบหลักสูตรได้อย่างตรงจุดที่สุด

และนี่คือจุดเด่นของ Globish Academia ที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาจากผู้นำด้านการสอนภาษาอังกฤษ มาเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรเพื่อยกระดับภาษาสำหรับองค์กีที่สนใจ โดยมีบริการออกแบบหลักสูตรให้ในแต่ละองค์กร (Tailor-made English Course) เช่น การออกแบบคอร์ส Tech Talents ภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานสาย Tech ของ SCG digital และ English Course for Riders ของ Line Man WONGNAI เป็นต้น

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา Globish Academia ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านธนาคารและการเงิน, อาหาร, เทคโนโลยี, ค้าปลีก, สุขภาพ, โรงงานอุตสาหกรรม และอีกมากมาย

สิ่งสำคัญที่จะลืมไปไม่ได้ก็คือโลกการทำงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศแล้ว ดังนั้นการจะให้พนักงานทุกคนมาเรียนพร้อมกันในห้องถือเป็นเรื่องยากและล้าสมัย ดังนั้น Globish Academia จึงมาพร้อมกับแนวคิด Anytime and Anywhere เปิดโอกาสให้เรียนได้จากทุกที่ ทุกเวลา ขอเพียงลงทะเบียนเรียนล่วงหน้า 1 ชั่วโมงก็พอ ขณะเดียวกัน Globish Academia ยังมีรายงานให้เหล่า HR แบบครอบคลุม ครบทุกด้าน ทั้งทางด้านการเรียนจบ การพัฒนาทางการเรียน และความพึงพอใจของผู้เรียน ซึ่งทำให้เกิดการวัดผลในหลายด้านทั้งกับผู้เรียนและทาง Globish เอง

สิ่งสุดท้ายและสำคัญที่สุดคือ Globish Academia ให้บริการแบบ One Stop Service มีทีมงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้คำแนะนำในการเรียนที่เหมาะสมและคอยสนับสนุนการทำงานของ HR ด้วย ผู้ดูแลสามารถติดต่อเพื่อรับคำแนะนำจากทีมงานได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริการทางหน้าบ้าน อย่างการให้ข้อมูลแนะนำคอร์สเรียนที่เหมาะสม, การประสานงานในการออกแบบหลักสูตรสำหรับแต่ละองค์กร ตลอดจนงานบริการหลังบ้าน เช่น การเตรียม Monthly Report, การชำระเงิน และการติดตามผู้เรียน เป็นต้น

บทสรุป

การเพิ่มทักษะให้พนักงานเรื่อย ๆ คือสิ่งที่จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงคุณค่า และรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา มากกว่ามองเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายเท่านั้น ซึ่ง Globish Academia ก็เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ช่วยให้เราวางแผนได้ง่ายขึ้น ทำให้เรารู้ว่าควรจัดอบรมด้านภาษาอังกฤษให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานขององค์กรอย่างไร เพราะคงไม่ดีแน่หากเราต้องเสียทรัพยากรไปกับการเรียนภาษาที่แม้จะมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ตรงกับสิ่งที่องค์กรต้องนำไปใช้จริง

ดังนั้นหากองค์กรไหนกำลังต้องการ Upskill-Reskill พนักงานให้มีทักษะด้านภาษายิ่งขึ้น Globish Academia สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับองค์กรถือเป็นตัวเลือกชั้นดีในการพัฒนาบุคลากร ช่วยให้พนักงานสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้มาใช้งานจริง ไม่ต้องลังเลอะไรอีกแล้ว บอกเลยว่านี่คือตัวเลือกแรกที่คุณควรพิจารณา !

อ่านข้อมูลของ Globish Academia เพิ่มเติมได้ที่นี่ globish.co.th