HIGHLIGHT
|
แม้การดูหนังโป๊ในออฟฟิศ (Workplace Pornography) จะเป็นเรื่องที่หลายคนเลี่ยงพูดถึง ทั้งด้วยค่านิยมทางสังคมหรือมองเป็นเรื่องส่วนตัวที่ยากยอมรับ แต่ประเด็นเรื่องการเสพสื่อลามกในที่ทำงานได้กลายเป็นปัญหาที่ HR ทั่วโลกต้องเจอ ซึ่งองค์กรแต่ละแห่งก็มีวิธีรับมือที่แตกต่างกันไป บ้างก็ไล่พนักงานคนดังกล่าวออก บ้างก็ตระหนักถึงโลกที่เปลี่ยนไป และพยายามออกแบบสวัสดิการให้สอดคล้องกับบริบทนั้น
มีตัวอย่างที่น่าสนใจอย่างบริษัท Stripchat จากประเทศไซปรัส ที่จัดทำห้องลับ (Pod) สำหรับช่วยตัวเองโดยเฉพาะ และเปิดโอกาส ให้บุคลากรใช้งานวันละไม่เกิน 30 นาที โดยสวัสดิการนี้แม้จะเต็มไปด้วยข้อถกเถียง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าการเสพสื่อลามกมีมิติให้เราต้องศึกษาทำความเข้าใจอีกมาก HREX จึงได้ค้นคว้า และสรุปออกมาเป็นเนื้อหาที่รับรองว่าเป็นประโยชน์กับผู้อ่านแน่นอน
สถิติการดูหนังโป๊ในที่ทำงาน (Workplace Pornography) เป็นอย่างไร ?
สำหรับในเมืองไทย แม้จะไม่มีสถิติที่ระบุถึงการเข้าถึงสื่อลามกของวัยทำงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่กล่าวในงาน TikTok Creator House ประจำปี 2567 ว่าเยาวชนไทยกว่าครึ่ง (54%) เคยพบเห็นสื่อลามกอนาจาร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูง แต่ก็ไม่แปลกนักหากเทียบกับอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยที่ 85% มากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่มีอัตราเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 64.4% จึงถือว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราแต่อย่างใด
ย้อนกลับมาที่โลกของธุรกิจ ท่ามกลางบรรยากาศของการทำงานที่เคร่งเครียด การหาเวลาผ่อนคลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของพนักงาน โดยแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป เช่นการปัดโทรศัพท์เพื่อช้อปปิ้ง, การฟังเพลงโปรด, การหาของกิน, การเข้าแอปหาคู่ ฯลฯ แต่รู้ไหมว่ามีคนจำนวนมากที่ใช้เวลาว่างนี้ไปกับการเสพสื่อลามก
ซึ่งนักจิตวิทยาและผู้ที่ทำงานด้าน Cyber Security กล่าวว่าการเติบโตของเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้บนอุปกรณ์ส่วนตัว คือ สาเหตุที่ทำให้ปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้น สอดคล้องกับการวิจัยของ SugarCookie ที่ทำแบบสำรวจกับพนักงาน 2,000 คนทั่วโลก และพบว่าผู้ตอบถึง 60% เคยดูหนังโป๊ระหว่างทำงาน
ทางด้าน Kaspersky ผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนติไวรัสชื่อดัง ก็ได้ทำแบบสำรวจออกมาเช่นกันในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างรุนแรง จนองค์กรส่วนใหญ่เปลี่ยนไปทำงานแบบ Hybrid Working โดยผู้ตอบ 33% จากทั้งหมด 6,000 คน ยอมรับว่าเคยใช้อุปกรณ์ของออฟฟิศ เข้าเว็บไซต์ลามกมาแล้ว
SHRM ได้เผยข้อมูลจากคุณ Michael Leahy ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Porn at Work : Exposing the office’s no.1 addiction ที่กล่าวว่าพนักงานชาย 20% และพนักงานหญิง 13% ยอมรับว่าเคยใช้อินเตอร์เน็ตของสำนักงานเพื่อดาวน์โหลดหนังโป๊ ขณะที่ HR จำนวน 2 ใน 3 จาก 500 คน ยอมรับว่าพวกเขาเคยเจอสื่อลามกในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของพนักงานมาแล้ว
ตัวอย่างของการดูสื่อลามกขณะทำงานที่คนไทยคุ้นเคย ก็คือเหตุการณ์ที่เหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเปิดภาพโป๊ดูระหว่างการประชุมสภา ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณมาก ๆ แต่ก็เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ และกรณีเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในปี 2022 เมื่อส.ส.ชื่อ Neil Parish ต้องลาออกจากพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในยุคของนายกรัฐมนตรี Boris Johnson เนื่องจากถูกจับได้ว่าดูหนังโป๊ในสภาสามัญชน (House of Commons) ถึง 2 ครั้งด้วยก้น
ทิ้งท้ายกันด้วยการสำรวจจาก Pornhub แพลตฟอร์มสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ที่เน้นย้ำว่าการดูหนังโป๊ในเวลาทำงานเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพราะข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของแพลตฟอร์มเผยว่า นอกจากเวลา 4 ทุ่มถึงตีหนึ่งแล้ว เวลาที่คนนิยมเข้า Pornhub ที่สุดก็คือ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้จะเลิกงาน จึงเป็นไปได้ว่าผู้คนเริ่มต้องการผ่อนคลาย ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านนั่นเอง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เราจะพบว่าการดูหนังโป๊หรือสื่อลามกในที่ทำงานอาจทำให้เรา ‘ตกงาน‘ แบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นคุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงยอมเอาอาชีพมาเสี่ยงกับความสุขเพียงชั่วคราวแบบนี้ ?
ทำไมพนักงานถึงดูหนังโป๊ในที่ทำงาน (Workplace Pornography)
Psychology Today ได้รายงานผลวิจัยในเดือนมีนาคม 2021 หัวข้อ Psychology of Addictive Behaviors และได้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจว่า พนักงานที่ดูหนังโป๊ในที่ทำงานนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากเบี่ยงเบนความสนใจจากสภาวะอารมณ์อันไม่ปกติที่เกิดจากงาน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด, ความกดดัน หรือแม้แต่ความเบื่อหน่าย เพราะสื่อลามกอาจเปิดโอกาสให้เราจินตนาการถึงสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมถึงช่วยตอบสนองความต้องการเบื้องลึกบางอย่างได้ดี และอีกเหตุผลหนึ่งที่เรียบง่ายที่สุด ก็คือเป็นการปลดปล่อยความต้องการทางเพศออกมานั่นเอง
คุณ Craig Jackson ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก Birmingham City University สหรัฐอาณาจักรกล่าวว่า แม้เหตุผลข้างต้นจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานตัดสินใจดูหนังโป๊ในที่ทำงาน แต่ก็มีวัตถุประสงค์ที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาด้วย เช่นการมองว่าตนไม่มีคุณค่าในองค์กร, รู้สึกว่าถูกมองข้ามจากหัวหน้าอยู่บ่อยครั้ง หรือรู้สึกว่าตนไม่ได้ถูกใช้งานอย่างถูกต้อง, ไม่มีความท้าทายใหม่ ๆ และรู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม การดูหนังโป๊จึงเป็นนัยซ่อนเร้น ที่ช่วยให้พวกเขาเผชิญกับความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาได้ง่ายขึ้น
เพื่อให้เห็นภาพกว่าเดิม ในขณะที่เรารู้สึกว่าถูกบริบททางสังคมกดทับ การดูหนังโป๊ในที่ทำงานจะให้ความรู้สึกของการเป็นผู้ชนะและความขบถ (Sense of Victory and Rebellion) ไม่ต่างจากในยุคก่อนที่พนักงานแอบไปเล่นการพนัน หรือแอบไปทำอะไรแบบสุ่มเสี่ยงในเวลางาน การดูหนังโป๊ในที่ทำงานก็เป็นเพียงพัฒนาการจากแบบอนาล็อกมาเป็นดิจิตอลเท่านั้น ซึ่งผู้กระทำมักมาพร้อมความรู้สึกสะใจลึก ๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับกฎขององค์กร และพอทำไปเรื่อย ๆ แบบที่ไม่โดนจับได้ ก็จะยิ่งรู้สึกดีจนอยากทำอีกซ้ำ ๆ จนถอนตัวไม่ขึ้นในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตามการดูหนังโป๊ไม่ได้มีเพื่อสะท้อนความอึดอัดออกมาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกและความผ่อนคลายได้ด้วย โดยคุณ Paula Hall ตัวแทนจาก UK Council of Psychotheraphy ให้ข้อมูลว่าสื่อลามกอาจถูกมองเป็นสิ่งตอบแทน (Rewards) ก็ได้ เช่นเวลาคนทำงานสำเร็จ, ได้ยอดขายตามที่หวัง บางคนก็จะฉลองโดยการไปกินข้าวมื้อใหญ่ หรือซื้อของชิ้นโปรด แต่บางคนก็จะเลือกมาดูหนังโป๊แทน เรียกว่า “ในนิยามของความสุข” สื่อลามกก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีเช่นกัน
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้น ก็คือเส้นแบ่งระหว่างเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวได้จางลง (Blurred Boundary) จากความนิยมของ Hybrid Workplace ที่ทำให้คนใช้เวลาในพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น และการดูหนังโป๊ในเวลาทำงานจากที่บ้านก็เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะมีสายตาของใครเข้ามาสอดส่องจนเกิดความวุ่นวาย
ศาสตราจารย์ Craig Jackson ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า คนทำงานในปัจจุบันใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นมากเกินไป มักรู้สึกว่าตนสามารถควบคุมเวลาทำงานและเวลาเวลาพักได้ด้วยตัวเอง และการใช้ “อุปกรณ์ของตัวเอง บนแฟลตฟอร์มของตัวเอง ในพื้นที่ของตัวเอง” ในเวลาพัก (ที่คิดขึ้นเอง) ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร หากไม่ทำให้งานเสีย ทั้งที่พวกเขาควรใส่ใจในภาพรวมของงานมากกว่านี้
แต่นอกจากปัจจัยที่น่าเป็นห่วง เขาก็พบแง่มุมที่น่าสนใจและไม่น่าเชื่อด้วย คือพนักงานบางคน กลับทำงานดีขึ้นเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดบาปในการดูสื่อลามก เรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทางศีลธรรม (Moral Trade-Off) ประเด็นนี้คือข้อพิสูจน์ว่าเรื่องเหล่านี้มีมิติซับซ้อน HR ต้องศึกษาหาความรู้ เพื่อคิดค้นแนวทางปฏิบัติที่ร่วมสมัยและตอบโจทย์ทุกฝ่ายที่สุด
การดูหนังโป๊ในที่ทำงาน (Workplace Pornography) ส่งผลเสียกับงานอย่างไร ?
สิ่งแรกที่เราต้องนึกถึงก็คือการเอาเวลาทำงานไปใช้กับเรื่องอื่น เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ แน่นอนว่าการพักเบรคเพื่อทานข้าวหรือในบริบทอื่น ๆ ตามความเหมาะสมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไป แต่การเอาเวลาไปดูหนังโป๊ เป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถาม โดย HR แต่ละคนคงมีคำตอบแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละองค์กร ทว่า ตามปกติแ ล้วพนักงานที่ถูกจับได้ว่าดูหนังโป๊ในองค์กรมักจบไม่สวย บ้างก็ถูกใบเตือน บ้างก็ถูกไล่ออกออกจากงาน เป็นต้น
ปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในแง่ของภาพลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล (Cyber Security) เพราะเว็บไซต์ที่ให้บริการสื่อลามกมักมีไวรัสแฝงอยู่ ซึ่งหากใช้อุปกรณ์ของออฟฟิศในการเข้าถึง ก็อาจทำให้ข้อมูลสำคัญถูกโจรกรรมไปได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการเล่นพนันออนไลน์ได้เช่นกัน
คุณ Wendy L Patrick ทนายความด้านกฎหมายแรงงานจากสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมและความรุนแรงในที่ทำงานกล่าวว่า “สื่อลามกมักเต็มไปด้วยเนื้อหาที่เหนือจริง และขัดแย้งกับหลักมนุษยธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศเป็นหลัก
ดังนั้นการที่คนดูหนังโป๊อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะนำแนวคิด หรือมุมมองที่เป็นปัญหาจากหนังมาใช้ จนเกิดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน อันเนื่องมาจากการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม, การตัดสินใจที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น หรือแม้แต่การทำพฤติกรรมบางอย่างที่ขัดต่อบรรทัดฐานอันดีงามของสังคม โดยจุดที่อันตรายที่สุดก็คือการล่วงละเมิดทางเพศ (Sexual Harassment) ที่เป็นปัญหาใหญ่ขององค์กรทั่วโลกในปัจจุบัน”
HR สามารถรับมือกับปัญหาการดูหนังโป๊ในที่ทำงาน (Workplace Pornography) ได้อย่างไร ?
การแก้ปัญหาเรื่องพนักงานดูหนังโป๊ในเวลาทำงานเป็นเรื่องที่ HR ต้องให้ความสำคัญ และไม่ทำให้พนักงานรู้สึกอับอายจนไม่สามารถปรับตัวและมีชีวิตอย่างสันติสุขในที่ทำงานได้อีก HR จำเป็นต้องมีการวางแผนนโยบายที่ดี มีการวัดผลที่ดี และต้องมีการบังคับใช้ที่ดี ซึ่งเราสามารถสรุปกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหา Workplace Pornography เป็น 5 หัวข้อได้ดังนี้
การมีนโยบายที่ชัดเจน (Clear Policies)
- องค์กรต้องมีการพัฒนาและอัพเดทฐานข้อมูลของเว็บไซต์ต้องห้าม ไม่ให้เชื่อมต่อได้กับสื่อลามกได้ หากใช้เครือข่ายขององค์กร นอกจากนี้ก็ต้องมีกฎระบุให้ชัดเจนว่ามีเนื้อหาแบบไหนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับการพนัน, เรื่องที่เกี่ยวกับชาติ ศาสนา, เรื่องที่เกี่ยวกับความรุนแรง และเรื่องที่เกี่ยวกับสื่อลามก เป็นต้น
- เมื่อออกนโยบายชัดเจนแล้ว ก็ต้องใช้วิธีสื่อสารที่หลากหลาย ให้ตรงกับวิถีของพนักงานแต่ละระดับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงตามสายในโรงงาน, อีเมล หรือแม้แต่การส่งข้อความไปที่เครื่องมือสื่อสารส่วนตัว เพราะเมื่อแน่ใจว่า พนักงานทุกคนรับรู้แล้ว การลงโทษเมื่อเจอผู้ฝ่าฝืนก็จะทำได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
การติดตั้งโปรแกรมและตรวจสอบอุปกรณ์ของพนักงานเสมอ
- องค์กรบางแห่งจะติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้อย่างจำกัด และกำหนดให้พนักงานใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานขององค์กรเท่านั้น หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นก็จะถูกระบบล็อคไว้ทันที ซึ่งแม้จะทำให้เกิดข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างเห็นผลที่สุด อย่างไรก็ตาม HR ต้องทดลองใช้งานเองด้วย เพื่อให้รู้ว่าเนื้อหาที่เราปิดกั้นนั้นไม่กระทบกับเรื่องอื่นที่ใกล้เคียง เช่นการปิดกั้นสื่อลามก อาจทำให้เนื้อหาที่ปลอดภัยอื่น ๆ ถูกปิดกั้นไปด้วย ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ขึ้น ก็จะทำให้กระบวนการทำงานติดขัด ไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์เลย
- หากสำรวจแล้วว่าซอฟต์แวร์ขององค์กรไม่ได้ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการทำงาน เราก็ต้องให้ฝ่ายไอที หรือผู้ที่ดูแลด้านความปลอดภัย อัพเดทระบบให้ทันสมัยเสมอ เพราะต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เราปิดกั้นในวันนี้ อาจมีเวอร์ชั่นใหม่ให้เราต้องรับมือในวันรุ่งขึ้นทันที
การให้ความรู้กับพนักงาน
- องค์กรจำเป็นต้องจัดอบรมในเรื่องที่เกี่ยวกับจริยธรรมในการทำงาน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของการใช้อุปกรณ์ในออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังหมายถึงวิธีวางตัว, การแต่งกาย, การรับประทานอาหาร หรือการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น
การมอบหมายให้หัวหน้าทีมสอดส่องดูแล
- HR ต้องกระตุ้นให้เหล่าผู้นำสอดส่องดูแลพฤติกรรมของพนักงานอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกรณีที่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว
- ผู้นำสามารถหาวิธีลงโทษตามแนวทางของกลุ่มก้อนตัวเองได้เลย ภายใต้บริบท ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือสร้างปัญหาให้กับองค์กร โดยสามารถเริ่มจากการตักเตือนทางวาจา > การออกใบเตือนแบบเป็นทางการ > การสั่งพักงาน > การยกเลิกสัญญาเป็นลำดับขั้นไปเรื่อย ๆ อนึ่งองค์กรบางแห่งอาจมีนโยบายลงโทษหัวหน้าที่ไม่สามารถดูแลคนในสังกัดของตนด้วย
สร้างมาตรฐานการทำงานให้ผู้คนกล้าแสดงความเห็น (Feedback Culture)
- เมื่อปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้น การตรวจสอบโดยคนเพียงกลุ่มเดียวไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึงอีกต่อไป เราจึงต้องดึงพนักงานภายในองค์กรมาเป็นตัวช่วย ในที่นี้ HR ต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะคงไม่มีใครอยากเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการเสียความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานโดยไม่จำเป็น เหตุนี้องค์กรสามารถเปิดช่องทางติดต่อแบบไม่ระบุตัวตนถึง HR ได้เลย ซึ่งจะช่วยทั้งเรื่องการแก้ปัญหาสื่อลามกในองค์กร ตลอดจนเรื่องละเอียดอ่อนอื่น ๆ ทำให้องค์กรรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามปัญหานี้อาจถูกแก้ไขในอนาคตหรือมีแง่มุมใหม่ ๆ มาชี้ประโยชน์ให้เราเห็น เพราะนอกจากในแง่ลบแล้ว การดูสื่อลามกก็มีข้อดีในแบบของมันหากถูกใช้ในบริบทที่ถูกต้อง ซึ่งก็คงไม่ต่างอะไรนักกับเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์ในที่ทำงาน ซึ่งเคยเป็นเรื่องต้องห้ามในอดีต แต่กลับกลายเป็นสวัสดิการที่น่าดึงดูดขององค์กรชั้นนำอย่าง Google และมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าสามารถสร้างประโยชน์ให้กับการทำงานได้จริง
บทสรุป
ในขณะที่เรากำลังพูดถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราก็ต้องคำนึงถึงข้อเสียที่จะเกิดควบคู่กันตามไปด้วย อย่างกรณีของการเสพสื่อลามกในเวลาทำงาน ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามยุคสมัย แต่หากเราพบว่าปัญหานี้ได้นำไปสู่ ความวุ่นวายอื่น ๆ เช่นบังเอิญมีลูกค้ามาเห็น จนทำลายภาพลักษณ์และทำให้องค์กรต้องเสียประโยชน์ HR ก็ควรเลือกคุยกับเขาแบบตัวต่อตัว เพราะการเผชิญหน้าเพื่ออธิบายเรื่องนี้ ดีกว่าการส่งข้อความไปไล่ออก ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรืออีเมลก็ตาม
แต่ถ้าหากคุณมองว่าปัญหานี้ยากเกินแก้ไข เราขอแนะนำให้ลองหาตัวช่วย ไม่ว่าจะในขั้นตอนอบรมพนักงาน หรือแม้แต่คำแนะนำอื่น ๆ ให้องค์กรของคุณสามารถรับมือกับทุกปัญหาได้อย่างมืออาชีพ และถ้าไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลจากไหน เราขอแนะนำให้ใช้บริการ HR Products & Services แพลตฟอร์มที่รวบรวมบริการและผลิตภัณฑ์ HR ไว้มากที่สุดในเมืองไทย จะเป็นหัวข้อเล็กหรือใหญ่ ที่นี่มีครบ
Sources |