องค์กรไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กแค่ไหนหากปราศจาก “คน” ก็เป็นเพียงตึกหรืออาคารเท่านั้น เพราะคนคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และแน่นอนว่าหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญขององค์กรก็คือ การหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดคนเก่งมาร่วมงานด้วยได้และสามารถรักษาคนเก่งไว้ได้ก็คือ “วัฒนธรรมองค์กร” นั่นเอง ซึ่งจริงๆแล้ววัฒนธรรมองค์กรเจ๋งๆ คูลๆ มันก็พอจะมี Concept หรือตีมหลักๆของมันอยู่ วันนี้ HREX ขอรวบรวมสรุปปัจจัยทั้ง 6 ข้อที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรดีๆ ดึงดูดคนเก่งให้อยากร่วมงานด้วย ! มาเริ่มกันที่ข้อแรกกันเลย
1. Trust : สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความความเชื่อใจและความยืดหยุ่น
หรือให้ความเป็น Ownership แก่คนในองค์กร เพราะความรู้สึกเป็นเจ้าของทั้งบริษัทจะทำให้พนักงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมีความรู้สึกห่วงใย และไม่ว่ามีปัญหาเรื่องใดก็มีความรู้สึกอยากแสดงความรับผิดชอบ เมื่อเกิดวัฒนธรรมความเชื่อใจแล้ว มันจะช่วยลดการปัดความรับผิดชอบ หรือเกี่ยงงานลงไปได้มากทีเดียว และยังสร้างลักษณะการทำงานแบบยืดหยุ่นซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่อีกด้วย เช่น การ Work From Anywhere , การเข้าออกงานอย่างยืดหยุ่นแบบ Flexible Time สิ่งเหล่านี้ทำให้พนักงานได้ออกแบบชีวิตและเวลาเป็นของตัวเอง คนเก่งจะได้ฉายแสง และแต่ละคนจะได้ดึงจุดแข็งและศักยภาพตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
2. Workplace Environment : สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การทำงาน
สภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การทำงานนั้นไม่ใช่แค่บรรยากาศและความสวยงามของออฟฟิศ แต่รวมไปถึงบรรยากาศที่เอื้อให้อยากทำงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่มีความสุข สนุก ทำให้พนักงานอยากมาทำงานทุกวัน เมื่อไหร่ที่สภาพแวดล้อมในการทำงานดี ไม่ Toxic ผลลัพธ์ในการทำงานก็จะออกมาดีด้วยเช่นกัน
3. Talent attract Talented People : วัฒนธรรมองค์กรที่คนเก่งดึงดูดคนเก่ง
ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้คนเก่งอยากร่วมงานด้วยนอกเหนือไปจากได้ทำงานในบริษัทดีๆ มีผลตอบแทนที่ดีแล้ว อีกเรื่องที่ค่อนข้าง Concern ก็คือ จะได้ทำงานกับคนเก่งๆ หรือทีมที่เก่งหรือเปล่า ? เพราะคนเก่ง ต่อให้มีทักษะครบถ้วนก็ตาม อีกทักษะหนึ่งที่มีก็คือต้องการการเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องการท้าทายตัวเอง และอยากลองอะไรใหม่ๆเสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะได้ทำงานกับคนที่ทำให้ได้เรียนรู้และได้พัฒนาทักษะตัวเอง
4. Good Leadership : มีผู้นำองค์กรที่น่าศรัทธา
ที่ไหนมีผู้นำที่ดี น่าศรัทธาก็ย่อมนำพาให้องค์กรนั้นมีวัฒนธรรมที่ดีไปด้วย แล้วผู้นำที่ดีเป็นอย่างไร ?คำตอบก็คือ เป็นผู้นำที่สร้างบรรยากาศที่ทำให้ทุกคน trust สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างปลอดภัย ไม่มีใครแทงข้างหลังใคร และเป็น leader ที่เสียสละ ทำเพื่อส่วนรวม เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ leader จะถูกทุกอย่าง แต่ leader มีหน้าที่ในการสร้างบรรยากาศให้เกิดความ trust แล้วนั่นจะนำมาซึ่ง Innovation และ Culture ต่างๆเอง
5. Caring & Empathy : วัฒนธรรมองค์กรที่เอาใจใส่ทุกคนอย่างเท่าเทียม
เรื่องนี้ต้องเริ่มต้นที่ผู้นำหรือผู้บริหารสูงสุดเป็นอันดับแรก ที่จะทำให้พนักงานทุกระดับรู้สึกว่า CEO ให้ความสำคัญ และเป็นการให้ด้วยความตั้งใจ ความตั้งใจนี้จะเป็นสิ่งที่คนได้รับรับรู้และรู้สึกได้ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อมโยงไปถึงการฟังและการประชุม ผู้นำที่ดีนั้นจะสามารถทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันในการแสดงความคิดเห็น และในฐานะผู้นำ สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การพูดเยอะ แต่คือการฟังเยอะที่สุด และพูดเป็นคนสุดท้าย เพราะการฟังเยอะนอกจากจะได้ไอเดียใหม่ๆแล้วแล้วยังได้ใจลูกน้อง ในขณะที่การพูดไม่อาจให้อะไรใหม่ได้เลย
6. Fairness : วัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานรู้สึกแฟร์
องค์กรที่ดีคือองค์กรที่สามารถหาจุดกึ่งกลางให้พนักงานรู้สึกยุติธรรมได้ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายถึงเรื่องผลตอบแทนที่ยุติธรรมอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมันยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจ แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบมากที่สุดคือความรู้สึกที่พนักงานได้รับจากองค์กร อาจเป็นการที่พนักงานทำงานออกมาได้ดีก็สมควรที่จะได้รับคำชมหรือได้รับเครดิต มันยิ่งกระตุ้นให้คนเก่งอยากพัฒนาผลงานยิ่งๆขึ้นไป
การได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมจะทำให้พนักงานคิดว่าที่ทำงานของตัวเองดีและยอดเยี่ยมเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่การได้รับคำชม ความรู้สึกภูมิใจในงานที่ตัวเองทำ จะทำให้พนักงานมีความรู้สึกว่าองค์กรของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมมากถึง 20 เท่าเลยทีเดียว !
HR มีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้
Q: ควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบไหน ที่ทำให้พนักงานสร้างนวัตกรรมในองค์กรได้ง่ายขึ้น
A: บริษัทที่อยากขับเคลื่อนเรื่องวัฒนธรรมองค์กร ควรเริ่มต้นที่ผู้นำ (Leader is Culture)
หากองค์กรมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตคือเรื่องนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียใหม่ ควรทำให้การทำงานในองค์กรมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมาก ๆ ไม่มีการปิดกั้นไอเดีย มีช่องทางการรับฟังเสียงของลูกค้าและพนักงาน ต้องอนุญาตให้มีการนำไอเดียไปทดลอง (Sandbox) และต่อยอดเป็นโครงการต่างๆ ให้เห็นผลลัพธ์ สิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศการทำงาน และวิถีการทำงาน (The way of work) ที่เอื้อต่อการคิดนวัตกรรม เช่นตัวอย่างการจัดบรรยากาศในที่ทำงานแบบสนุกสนาน ผ่อนคลาย มีการดูแลเรื่อง Well-Being ให้เหมาะสมตามช่วงวัยและลักษณะการทำงาน มีเวที มี Forum ให้ปล่อยของ Show & Share ในสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร