HIGHLIGHT
|
เวลาพูดถึงสายการบินที่ดีที่สุดในโลก สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) มักจะเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลาในการเดินทาง ความราบรื่นในการเชื่อมต่อเที่ยวบิน บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามบิน ราคาตั๋วโดยสาร ระบบความบันเทิงบนเครื่อง และความทันสมัยของเครื่องบิน เป็นต้น
นอกจากนั้น บริการระดับพรีเมี่ยมของ Singapore Girl หรือแอร์โฮสเตสของสายการบิน ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ได้ใจลูกค้าจำนวนมากเป็นอย่างดี ความเป็นมืออาชีพของพนักงานต้อนรับ การเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม และความใส่ใจในบริการ ทำให้มั่นใจว่าเมื่อขึ้นมาบนเครื่องบินแล้ว ทุกคนจะลงจากเครื่องไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจแน่นอน
แต่รู้หรือไม่ว่ากว่า Singapore Airlines จะได้คนมาเป็น Singapore Girl นั้นไม่ใช่ง่ายเลย เพราะต้องผ่านขั้นตอนการสมัครงานหลายด่าน รวมถึงการเทรนนิ่งสุดโหดหินกว่าจะได้สวมเสื้อโสร่งเคบาย่าเป็นเครื่องแบบในการปฏิบัติงาน และเป็นหน้าเป็นตาให้กับสายการบินได้
หากอยากรู้ว่า Singapore Airlines ปั้น Cabin Crew ที่ขึ้นชื่อเรื่องบริการ จนทำให้คนทั่วโลกหลงรักได้อย่างไร ติดตามรายละเอียดได้ในบทความนี้เลย
Contents
ประวัติ Singapore Airlines กับการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในโลก
Singapore Airlines ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1947 แรกเริ่มเดิมทีใช้ชื่อว่า Malayan Airways โดยในขณะนั้นสิงคโปร์ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย
แต่หลังจากสิงคโปร์ได้รับเอกราชในปี 1965 สายการบินก็เปลี่ยนชื่อเป็น Malaysia-Singapore Airlines (MSA) ก่อนที่ในปี 1972 มาเลเซียและสิงคโปร์จะแยกประเทศออกจากกัน ทำให้สายการบินถูกแบ่งออกเป็น 2 สายการบินด้วย นั่นคือแห่งชาติคือ Malaysian Airlines และ Singapore Airlines
หลังจากนั้น Singapore Airlines ก็อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลสิงคโปร์ แต่ก็สามารถเติบโตอย่างน่าสนใจและสม่ำเสมอ สามารถขยายเส้นทางบินอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสายบินแรกที่สั่งซื้อเครื่องบิน Airbus A380 มาให้บริการลูกค้าในเที่ยวบินพาณิชย์ จนปัจจุบันให้บริการครอบคลุมกว่า 130 จุดหมายปลายทางใน 35 ประเทศ มีพนักงานกว่า 24,000 คนจากหลากหลายสัญชาติ ที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อให้มั่นใจว่าจะมอบคุณภาพการบริการ ความปลอดภัย และนวัตกรรมที่ดีให้แก่ลูกค้าทุกคน
Singapore Airlines ยังได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของโลกจาก SkyTrax ประจำปี 2004, 2007, 2008, และ 2018 ไปครองอีกด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่า Singapore Airlines จะเติบโตโดยไม่เคยเผชิญอุปสรรคอะไรเลย หนึ่งในอุปสรรคครั้งใหญ่ที่กระทบองค์กรก็คือช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อทั่วทั้งโลกไม่สามารถออกเดินทางด้วยเครื่องบินได้ ทำให้ Singapore Airlines มีผลประกอบการติดลบ และต้องปลดพนักงานกว่า 20% หรือประมาณ 4,300 คน
อย่างไรก็ตาม หลังวิกฤติคลี่คลายในปี 2022 ผลประกอบการของ Singapore Airlines ก็กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง และดีถึงขนาดที่ 2 ปีที่ผ่านมาให้โบนัสพนักงานสูงถึง 8 เดือนเลยทีเดียว
หรือล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา เที่ยวบิน SQ321 ที่ออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อเดินทางมายังประเทศสิงคโปร์ เจอสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงจนตกหลุมอากาศ ต้องขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
เหตุการณ์ครั้งนี้รวมแล้วมีผู้บาดเจ็บกว่า 70 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน Singapore Airlines ใช้โอกาสนี้ทำ Crisis Management อย่างดีด้วยการรายงานสถานการณ์ตลอดตั้งแต่เวลาลงจอด วิธีการเยียวยาลูกค้าทั้งที่ต้องรักษาตัวที่ไทย และคนที่สามารถส่งกลับสิงคโปร์ได้
โดยคุณ Goh Choon Phong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ผ่าน Facebook ขององค์กรด้วยตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้นยังแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และให้ความมั่นใจว่าจะดูแลผู้โดยสารทุกคน ทั้งผู้โดยสารตกค้างที่ไม่ไ่ด้รับบาดเจ็บให้เดินทางกลับสิงคโปร์โดยสวัสดิภาพ รวมถึงการยืนยันว่าจะดูแลพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินนั้นที่ได้รับบาดเจ็บอย่างดีเช่นกัน
จนมีคำกล่าวว่า สมแล้วที่เป็นสายการบิน Singapore Airlines และหากไปเกิดขึ้นกับการสายบินอื่น อาจไม่มีทางควบคุมสถานการณ์ หรือเยียวยาผู้คนได้อย่างว่องไวและใส่ใจเพียงนี้
คุณสมบัติเบื้องต้นที่ต้องมี หากอยากทำงานกับ Singapore Airlines
ด้วยประวัติความเป็นมาอันยาวนาน การมีผลประกอบการที่ดี การฝ่าวิกฤติแล้วยืนหยัดมาได้อย่างมั่นคง จึงไม่น่าแปลกใจหาก Singapore Airlines จะเป็นองค์กรที่ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักบิน พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือตำแหน่งอื่นใดก็ตาม
แต่ไม่ใช่ว่า SIngapore Airlines จะรับคนเข้ามาทำงานด้วยง่าย ๆ เพราะท่ามกลางผู้ที่อยากร่วมงานด้วยจำนวนมาก ย่อมมีการแข่งขันที่สูงตามไปด้วย และที่สำคัญ SIngapore Airlines เองก็มีขั้นตอนการคัดเลือกพนักงานที่ไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน
โดยเนื้อหาในบทความนี้จะขอพูดถึงแค่การสรรหา Cabin Crew อย่าง Singapore Girl (และ Boy) เท่านั้น โดยคนจะเข้ามาทำงานนี้ได้ เบื้องต้นต้องมีคุณสมบัติโดยคร่าว ๆ ดังนี้
- ผู้หญิงต้องมีส่วนสูงมากกว่า 1.58 เซนติเมตร ส่วนผู้ชายต้องมีส่วนสูงมากกว่า 1.65 เซนติเมตร
- มีความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษ
- อายุขั้นต่ำต้อง 18 ปีขึ้นไป และไม่มีการระบุว่าไม่ควรเกินกี่ปี
- ผ่านการสอบ GCE ‘O’ Level (สอบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของสิงคโปร์) อย่างน้อย 5 วิชา (รวมภาษาอังกฤษ) หรือได้คุณวุฒิ Higher Nitec ซึ่งเป็นคุณวุฒิวิชาชีพระดับสูง เป็นหลักสูตรเฉพาะทางด้านเทคนิคและวิชาชีพของสิงคโปร์
- มีบุคลิกดี และมีใจรักการบริการ
5 ข้อนี้คือคุณสมบัติเบื้องต้นเท่านั้น โดยปัจจุบัน ข้อมูลในหน้าเว็บของสายการบินเปิดรับพนักงานที่มีสัญชาติสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย รวมถึงไทย
โดยขณะนี้จะเปิดรับพนักงานจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีเท่านั้น ถ้าใครมั่นใจว่ามีคุณสมบัติเบื้องต้นครบถ้วนล่ะก็ สามารถยื่นใบสมัครผ่านเว็บไซต์ของสายการบินได้เลย หรือหากประเทศไหนยังไม่เปิดรับล่ะก็ ให้เตรียมความพร้อมดี ๆ เพื่อที่หากประตูแห่งโอกาสเปิดเมื่อไหร่ จะได้คว้าโอกาสทันท่วงที
ยิ่งสัมภาษณ์งานเด่น ยิ่งเพิ่มโอกาสทำงานกับ Singapore Airlines
จากคุณสมบัติของ Singapore Girl ข้างต้นอาจดูเหมือนว่าใคร ๆ ก็สมัครได้ และมีโอกาสสูงที่จะได้งาน แต่ขอแจ้งให้ทราบเลยว่า ขั้นตอนการสัมภาษณ์งานของ Singapore Airlines นั้นหนักหนาเอาเรื่องทีเดียว และต้องผ่านการสัมภาษณ์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างน้อย 2-3 รอบด้วย
แต่หากใครกังวลว่าการสัมภาษณ์จะโหดหินเกินกว่าที่ตัวเองจะฝ่าไปได้ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีหลายเว็บไซต์ทำบทความแนะนำวิธีตอบคำถามสัมภาษณ์งานกับ Singapore Airlines ให้ผ่านและปังไว้อย่างละเอียด โดยเราขอเลือกบางคำถามมาให้พิจารณาดังต่อไปนี้
1. คุณติดตามข้อมูลข่าวสารด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างไรบ้าง
คำถามนี้ดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวกับงานบริการบนเครื่องบินเท่าไหร่ แต่กรรมการผู้สัมภาษณ์จะใช้คำถามนี้เพื่อพิจารณาว่า คุณมีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาแนวโน้มความเป็นไปของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีหรือไม่
หากเจอคำถามนี้ ควรต้องตอบเพื่อเน้นย้ำว่าคุณมีความรู้เรื่องอุตสาหกรรมการบินในภาพรวม สามารถนำเสนอได้ว่าคุณจะช่วยเพิ่มความสำเร็จให้กับองค์กรได้อย่างไร อาจเอ่ยถึงการไปงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีการบิน การลงทะเบียนเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการบินก็ได้
2. คุณมีวิธีทำงานอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มีความกดดัน
คล้ายคลึงกับคำถามสัมภาษณ์ในหลายองค์กร คำถามนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์อันตึงเครียดที่อาจไม่คาดคิดมาก่อน สิ่งที่กรรมการอยากได้ยินก็คือ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก คุณตั้งสติแล้วฝ่าฟันมันไปได้อย่างไร แล้วผลที่ตามมาเป็นอย่างไรบ้าง หากสามารถบรรยายถึงวิธีการและผลลัพธ์ให้คณะกรรมการมองเห็นอย่างเป็นรูปธรรมล่ะก็ จะเป็นแต้มต่อสำคัญทีเดียว
3. อะไรคือคุณสมบัติสำคัญที่สุด ของการเป็นพนักงานต้อนรับที่ประสบความสำเร็จ
ผู้สัมภาษณ์ต้องการประเมินความรู้ของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องมี ดังนั้นผู้สมัครงานควรอธิบายด้วยความเข้าใจ พร้อมยกตัวอย่างทักษะที่จำเป็นสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ประสบความสำเร็จได้ เช่น การให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ทักษะการสื่อสารและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นต้น
4. สายการบินมีเป้าหมายในการให้บริการที่เหนือชั้น เราสามารถนำกลยุทธ์หรือนวัตกรรมใดมาปฏิบัติเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไรบ้าง
คำถามนี้ประเมินความรู้ของคุณเกี่ยวกับบริการและประสบการณ์ของลูกค้า วิธีการตอบคำถามนั้นต้องคำนึงถึงการใช้นวัตกรรมเพื่อปรับปรุงและยกระดับประสบการณ์ในการบินของลูกค้า นอกจากนี้ต้องอธิบายให้ได้ว่า สิ่งที่เสนอแนะไปจะช่วยเสริมสร้างคุณค่า และช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
เช่น การลงทุนใน AI เพื่อสร้างระบบการทำงานอัตโนมัติ จะช่วยปรับปรุงบริการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลยุทธ์นี้สามารถช่วยให้สายการบินเดินทางได้ตรงเวลา รักษาความสามารถในการแข่งขัน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ เป็นต้น
5.ในงานก่อนหน้านี้ คุณเคยเผชิญปัญหาแล้วแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
คำถามนี้ช่วยให้นายจ้างประเมินความสามารถของคุณในการคิดวิเคราะห์และหาวิธีแก้ปัญหาเชิงรุก และยังช่วยให้เข้าใจว่าคุณเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้หรือไม่ การตอบคำถามต้องตอบโดยให้รายละเอียดของสถานการณ์ และระบุว่าคุณเป็นผู้ริเริ่มแก้ไขปัญหานั้นโดยไม่ต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งให้คุณทำ การแก้ปัญหานั้นได้ผลลัพธ์อย่างไร และประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไร
เช่น ฉันสังเกตเห็นข้อบกพร่องในกระบวนการลำเลียงผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ซึ่งก่อให้เกิดความล่าช้าในระหว่างการขึ้นเครื่อง เพื่อแก้ไขปัญหานี้จึงเสนอระบบการทำงานแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ หลังนำเสนอความคิดของฉันต่อฝ่ายบริหาร พวกเขาตกลงและอนุญาตให้ฉันนำไปปฏิบัติ ระบบใหม่นี้ประสบความสำเร็จและปรับปรุงเวลาในการขึ้นเครื่องได้ถึง 25% ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับองค์กร เป็นต้น
ข้อควรระวังของการสัมภาษณ์งานกับ Singapore Airlines
แม้การสัมภาษณ์งานกับ Singapore Airlines จะมีแนวคำถามให้เตรียมความพร้อมก่อนอยู่แล้ว แต่บ่อยครั้งผู้สมัครงานจำนวนมากก็ดันพลาดตอบคำถาม หรือพูดบางอย่างที่ผิดที่ผิดทาง เป็นเหตุให้ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ช่อง TikTok ชื่อ tani99sha ซึ่งเป็นอดีต Singapore Girl เคยทำคลิปอธิบายเอาไว้ว่า ถ้าอยากทำงานกับ Singapore Airlines ล่ะก็ นอกจากจะเป๊ะเรื่องการตอบคำถามอย่างชาญฉลาดแล้ว ยังมีสิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ควรเลี่ยงดังต่อไปนี้
- หากถูกถามว่า เพราะอะไรถึงอยากทำงานกับ Singapore Airlines ห้ามตอบเด็ดขาดว่าอยากเที่ยวรอบโลก เพราะจะถูกมองว่าไม่ได้มีความตั้งใจอยากทำงาน ไม่ได้มาช่วยสร้างคุณค่าให้องค์กรอย่างแท้จริง
- วางตัวและบุคลิกให้ดีเสมอ นั่งหลังตรง ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะคณะกรรมการจะดูลักษณะท่าทางทุกอย่าง ทั้งวิธีการเดิน การนั่ง การพูด การนำเสนอตัวเอง การสบตา รวมถึงการแต่งกาย สำหรับผู้ชาย อย่าใส่กางเกงยีนส์ไปสัมภาษณ์ แต่ให้ใส่เสื้อเชิ้ตสุภาพ ติดกระดุมเรียบร้อย และเลือกกางเกงที่สีเข้ากัน
- เวลากรรมการถามอะไร ให้ตอบเฉพาะสิ่งที่เขาถามเท่านั้น ห้ามพูดอะไรที่อยู่นอกเหนือคำถาม เช่น ถ้ากรรมการให้แนะนำตัวเอง ก็แนะนำตัวเองไป แต่อย่าเพิ่งรีบบอกว่า อยากทำงานกับ SIngapore Airlines ด้วยเหตุผลว่า… ให้เก็บคำตอบนี้ไปตอบในคำถามต่อไป ซึ่งเขาจะถามแน่นอน
- ในการสัมภาษณ์แต่ละรอบ คณะกรรมการจะแบ่งผู้สมัครงานออกเป็น 2 กลุ่มให้แสดงความคิดเห็นในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง คำแนะนำของคุณ tani99sha ก็คือ อย่าเป็นคนแรกที่เริ่มพูด เพราะกรรมการไม่ได้ต้องการมองหาคนที่จะมาเป็นผู้นำ แต่ต้องการคนที่ทำงานเป็นทีมได้ (Team Player) คนที่สามารถรับฟังคำสั่ง แล้วปฏิบัติต่อได้ตรงกับที่สั่งไว้
- ผู้สมัครงานควรพูดถึงการทำงานเป็นทีม การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา หรือพูดถึงการบริการ ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่สายการบินต้องการจากผู้สมัครเช่นกัน
- เวลาสัมภาษณ์ ห้ามแสดงออกผ่านสีหน้าหรือท่าทางว่าไม่รู้ในสิ่งที่กรรมการหรือใครก็ตามกำลังพูด เพราะกรรมการจะมองว่าผู้สมัครงานไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีพอ
- สำหรับผู้สมัครงานที่เป็นผู้ชาย สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเข้าห้องสัมภาษณ์ก็คือ จงเป็นคนแรกที่เปิดประตูให้ทุกคนเข้ามาในห้อง และเมื่อสัมภาษณ์เสร็จก็อย่าลืมเป็นคนแรกที่เปิดประตูให้ทุกคนเดินออกจากห้องด้วย และที่สำคัญ อย่าลืมกล่าวสวัสดี ทักทายทุกคนด้วย
นอกจากคุณ tani99sha แล้ว ยังมีแอร์โฮสเตสหลายคนทำคลิปให้ความรู้แก่ผู้คนออกมาบ่อยครั้ง หรือเขียนออกมาในรูปของบทความที่น่าสนใจ ลองไปติดตามหากันได้ทั้งใน TikTok, Youtube และ Google ได้เลย
หลักสูตร 14 เดือนปั้น Singapore Girl ให้พร้อมบินกับ Singapore Airlines
หากผ่านด่านการสัมภาษณ์งานมาได้ล่ะก็ ยินดีด้วยที่คุณเข้าใกล้โอกาสที่จะได้ร่วมงานกับ SIngapore Airlines ไปอีกขั้นแล้ว !
แต่อย่าเพิ่งดีใจจนเกินไป เพราะยังต้องผ่านอุปสรรคสุดหฤโหดอย่างการเข้าคอร์สฝึกอบรมการเป็น Cabin Crew ที่ใช้เวลานานถึง 15 อาทิตย์ หรือประมาณ 4 เดือน เรียกได้ว่านานที่สุดในบรรดาการฝึกของสายการบินแล้วก็ว่าได้
ทั้งนี้ บทเรียนที่จะได้เจอตลอด 15 สัปดาห์ จะครอบคลุม 6 เรื่องหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของสายการบิน โดยเฉพาะเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งจะเสิร์ฟให้กับผู้โดยสารในแต่ละชั้นแตกต่างกันไป
- เรียนรู้เรื่องขั้นตอนการบริการ นำโดยมารยาทในการบริการ และวิธีปฏิบัติต่อลูกค้าในแต่ละระดับ เริ่มจาก Economy Class ตามด้วย Business Class และปิดท้ายที่ First Class
- เรียนรู้วิธีการรับมือกับผู้โดยสารที่มีความต้องการที่แตกต่างและหลากหลาย ทั้งเพศ สัญชาติ อายุ เป็นต้น
- เรียนรู้วิธีการวางตัวอย่างเป็นมิตร และเป็นธรรมชาติ ไปจนถึงการดูแลเครื่องแต่งกาย รวมถึงผมเผ้าให้เรียบร้อย
- เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม จนสามารถพูดคุยสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอื่น ๆ ที่พบเจอบ่อยในลูกค้าของสายการบิน
- เรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เรียนรู้วิธีการทำงานอย่างปลอดภัย ทั้งต่อตัวเองและต่อผู้โดยสาร รวมถึงเตรียมพร้อมตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน เช่น หากเครื่องบินต้องแล่นลงจอดบนทะเล เป็นต้น
และหากใครสามารถผ่านหลักสูตรเหล่านี้ล่ะก็ จะได้สัญญาร่วมงานกับ Singapore Airlines ซึ่งตามปกติแล้วจะอยู่ที่ 5 ปี หรือตามแต่จะตกลงตามศักยภาพที่ออกมา แล้วได้สวมเสื้อโสร่งเคบาย่าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ Singapore Girl แต่ละคนอย่างแน่นอน
อยากเทรนพนักงานให้เก่งเท่า Singapore Airlines อย่าลืมใช้ HR Solutions ที่ใช่ ช่วยพัฒนาองค์กร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เคล็ดลับความสำเร็จของ Singapore Airlines นั้น มาจากการเลือกพนักงานที่ใช่ แล้วฝึกฝนพวกเขา เจียระไนจนเป็นเพชรเม็ดงาม ถือเป็น 2 งานขั้นพื้นฐานที่ช่วยพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และเป็นบทเรียนที่หลายองค์กรสามารถนำไปเป็นเยี่ยงอย่างได้
หากองค์กรไหนอยากเห็นองค์กรพัฒนาไปสู่เป้าหมายแบบ Singapore Airlines บ้าง แต่ไม่รู้จะหาพนักงานจากไหน ลองมาค้นหา Recruitment Solution ที่จะช่วยตามหาพนักงานมาช่วยยกระดับองค์กรได้ ผ่านแพลตฟอร์ม HR Products & Services ของ HREX ที่รวบรวมบริการและผลิตภัณฑ์ HR มากที่สุดในไทยได้เลย ทางลิงก์นี้
และหากรับพนักงานเข้ามาแล้ว ก็อย่าลืมหาเครื่องมือสำหรับการ Training & Coaching พนักงาน ให้กลายเป็นเพชรเม็ดงาม ซึ่งก็สามารถค้นหาได้ผ่าน HREX เช่นกัน ทางลิงก์นี้
บทสรุป
รากฐานความสำเร็จของทุกองค์กร เกิดขึ้นจากการมีคนที่ใช่ร่วมขับเคลื่อนองค์กร และสายการบินระดับโลกอย่าง Singapore Airlines ก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้กระบวนการคัดเลือกและฝึกอบรมพนักงานของ Singapore Airlines จะมีรายละเอียดเยอะ และค่อนข้างทรหด แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งทีมงานชั้นยอดที่มีความสามารถสูง มีความมุ่งมั่น มีใจรักการให้บริการ ให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้โดยสาร
HREX หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนวทางการคัดคนและพัฒนาคนของ Singapore Airlines จะเป็นแบบแผนที่หลายองค์กรได้นำไปปรับใช้ เพื่อเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จบ้าง ไม่มากก็น้อย
Sources: |