HIGHLIGHT
|
ยิ่งโลกพัฒนาไปไกลเท่าไหร่ คนก็ต้องพัฒนามากขึ้นเท่านั้น องค์กรเองก็นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องหาวิธีพัฒนาพนักงานอย่างมีหลักการ อย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ทุกคนพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และการแข่งขันทางธุรกิจที่จะดุเดือดยิ่งขึ้นในอนาคต
ด้วยเหตุนี้บริษัทจัดหางาน Reeracoen Thailand จึงร่วมกับแพลตฟอร์มข้อมูลสำหรับทรัพยากรบุคคล HREX ทำแบบสำรวจหัวข้อ การศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กร “People Skill for Organization Growth” เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาของพนักงานได้รับจริงจากแต่ละองค์กร ซึ่งจะทำให้รับทราบว่า องค์กรในปัจจุบันกำลังมุ่งเน้นการอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านใด และควรพัฒนาด้านใดต่อเนื่องไปในอนาคต
สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามครั้งนี้ เป็นบุคลากรในแผนกทรัพยากรบุคคลจำนวน 156 องค์กรที่ไม่ซ้ำกัน และมาจาก 2 อุตสาหกรรมใหญ่ ๆ คือ อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) และ กลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต (Non-Manufacturing) และนี่คือผลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้
Contents
People Skill for Organization Growth #1 รูปแบบการพัฒนาบุคลากรในองค์กร
เริ่มจากประเด็นแรก ความถี่ในการจัดอบรม ผลการสำรวจพบว่าในอุตสาหกรรมการผลิตจะจัดอบรมแบบรายเดือนมากที่สุด คิดเป็น 36.36% รองลงมาคือจัดอบรมตามความจำเป็น 33.33% ส่วนการจัดอบรมรายสัปดาห์และรายไตรมาส เท่ากันที่ 12.12%
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต มักจะจัดอบรมตามความจำเป็นมากที่สุด คิดเป็น 41.46% รองลงมาคือจัดอบรมรายเดือน 22.76% และจัดอบรมรายไตรมาสเป็นอันดับที่ 3 คิดเป็น 14.63%
หากเจาะลงไปที่รูปแบบการเรียนรู้จะพบว่า อุตสาหกรรมการผลิตจะจัดฝึกอบรมภาคปฏิบัติมากที่สุด 90.91% รองลงมาคือการจัดสัมมนา/การประชุมภายนอก 72.73% และเข้าร่วมคอร์สออนไลน์เป็นอันดับ 3 ที่ 57.58%
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ก็มีรูปแบบการจัดอบรมและเรียนรู้แบบเดียวกันคือ ฝึกอบรมภาคปฏิบัติมากที่สุด 64.23% รองลงมาคือการจัดสัมมนา/การประชุมภายนอก 56.91% และเข้าร่วมคอร์สออนไลน์เป็นอันดับ 3 ที่ 46.34%
People Skill for Organization Growth #2 งบประมาณสำหรับการพัฒนาบุคลากร
การจัดอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานย่อมมีค่าใช้จ่ายเสมอ จากผลการสำรวจจะพบว่าอุตสาหกรรมการผลิตจะใช้งบประมาณมากกว่ากลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ แต่งบประมาณที่ใช้ไปก็อาจไม่สูงมาก ซึ่งสอดคล้องไปกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่ได้ดีมาก ทำให้หลายองค์กรจำเป็นต้องรัดเข็มขัดมากเป็นพิเศษ
โดยอุตสาหกรรมการผลิตมีงบประมาณในการฝึกอบรมระหว่าง 1-500,000 บาท มากที่สุด 36.36% รองลงมาคืองบประมาณ 500,000-1,000,000 บาทคิดเป็น 27.27% และงบประมาณ 1,000,000-1,500,000 บาทอยู่ที่ 18.18%
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต จะใช้งบประมาณน้อยกว่า 100,000 บาทในการอบรมมากที่สุดถึง 43.90% รองลงมาคืองบประมาณระหว่าง 1-500,000 บาทคิดเป็น 28.46% และอันดับ 3 คือใช้งบประมาณ 500,000-1,000,000 บาทอยู่ที่ 13.82%
หากลงรายละเอียดถึงหัวข้อการเรียนรู้ที่ให้เรียนมากที่สุดจะพบว่า ทั้งอุตสาหกรรมการผลิตและส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต มีความเหมือนกันหลายประการ
อุตสาหกรรมการผลิต จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟท์สกิลมากที่สุดถึง 84.85% รองลงมาคือเรื่องกฎระเบียบและข้อบังคับที่ 72.73% และการแก้ไขปัญหาเป็นหัวข้ออันดับ 3 ที่ 48.48%
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟท์สกิลมากที่สุดเช่นกันที่ 75.61% รองลงมาคือเรื่องกฎระเบียบและข้อบังคับ คิดเป็น 51.22% แต่จะแตกต่างกันในอันดับ 3 ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดการโครงการมากกว่าที่ 32.52%
People Skill for Organization Growth #3 เป้าหมายในการจัดการฝึกอบรมและการเรียนรู้
ก่อนจะให้พนักงานเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทุกองค์กรย่อมต้องตั้งเป้าหมายไว้เสมอว่า อยากให้เรียนรู้เรื่องใด เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านใด มิฉะนั้นจะเรียนแบบไม่มีทิศทาง และไม่สามารถนำสิ่งที่ได้ไปใช้งานจริงได้เลย
จากการสำรวจพบว่า องค์กรในอุตสาหกรรมการผลิต วางเป้าหมายสำคัญของการเรียนรู้อยู่ที่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 75.76% รองลงมาคือเรื่องการพัฒนาผู้นำ 45.45% และอันดับ 3 เพื่อลดต้นทุนการผลิตที่ 33.33%
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตวางเป้าหมายสำคัญของการเรียนรู้เช่นเดียวกันคือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากที่สุดที่ 47.97% รองลงมาคือเรื่องการเพิ่มความสร้างสรรค์ 43.09% และอันดับ 3 จะให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันมากกว่าที่ 41.46%
ผลการสำรวจครั้งนี้เน้นย้ำถึงลำดับความสำคัญของการฝึกอบรมเฉพาะอุตสาหกรรม โดยองค์กรด้านการผลิตมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการผลิต ความเป็นผู้นำ ต้นทุน และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความต่อเนื่องของความเป็นผู้นำ
แต่อีกด้านหนึ่ง องค์กรที่ไม่ใช่ผู้ผลิตจะเน้นการผลิตนวัตกรรม และการเติบโตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความโดดเด่นในตลาด การปรับโปรแกรมการฝึกอบรมให้เหมาะกับลำดับความสำคัญเหล่านี้สามารถช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ และรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันได้
บทสรุป
ผลสำรวจ People Skill for Organizational Growth ครั้งนี้พบว่า องค์กรส่วนใหญ่ใช้การฝึกอบรมภาคปฏิบัติและคอร์สออนไลน์เป็นหลัก โดยอุตสาหกรรมการผลิตเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ขณะที่ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการผลิตเน้นนวัตกรรมและการบริการ มีเป้าหมายหลักของการฝึกอบรมคือการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ความพึงพอใจของพนักงาน และการสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด การจัดการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแนวทางและเป้าหมายระหว่าง 2 อุตสาหกรรมจะแตกต่างหรือเหมือนกันหรือไม่ ผลที่ออกมานี้ตอกย้ำว่า ทุกองค์กรล้วนต้องพัฒนาแล้วก้าวต่อไปข้างหน้าเสมอ ไม่อาจหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมได้ มิฉะนั้นจะขาดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และถูกกลืนกินจนหายไปในท้ายที่สุด
สำหรับองค์กรไหนที่มีงบประมาณไม่เยอะ แต่ต้องการ HR Solution ที่ช่วยให้สามารถพัฒนาองค์กรได้ตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ สามารถมาค้นหาผ่าน HREX ได้เลย เราพร้อมช่วยจัดหา Training & Coaching ที่ตอบโจทย์กับองค์กรของคุณแล้ว มาค้นหาได้เลยทางลิงก์นี้ หรือโทร. 061-4326202 และ 095-3481195