HIGHLIGHT
|
เทรนด์การสรรหาพนักงานใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อุตสาหกรรมการสรรหามีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น Reeracoen บริษัทที่มีประสบการณ์ในธุรกิจด้านการจัดหางานมานานกว่า 16 ปี และมีการหางานให้กับคนไทยมากกว่า 10,000 คน จึงได้สร้างแพลตฟอร์มใหม่ SourcedOut แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับ Freelance Recruiter ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน SourcedOut มี Freelance Recruiter ลงทะเบียนไม่ต่ำกว่า 200 คน ทั้งหมดมีพื้นหลังในการทำงานด้าน HR หรือนักสรรหาโดยตรง โดยเกินครึ่งหนึ่งมีประสบการณ์ด้านการสรรหามากกว่า 2 ปีขึ้นไป และมาจากหลายภาคธุรกิจ เช่น IT, Manufacturing, Trading, Consulting, Bank, Retail, Hospitality, Construction เป็นต้น
วันนี้ HREX ได้คุยกับคุณ แก๊ป – พลวัต ลาภวณิชย์ New Business Development Manager ของ Reeracoen ชายผู้ดูแลงานด้านเกี่ยวกับการตลาดทั้ง Online และ Offline ของบริษัท รวมไปถึงเป็นหัวเรือใหญ่ของ SourcedOut ตั้งแต่เริ่ม จนกระทั่งเปิดเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ขึ้นมา
SourcedOut คืออะไร? ให้บริการอะไรบ้าง? เรามาทำความรู้จัก SourcedOut ไปพร้อมกัน
ในฐานะที่อยู่ในอุตสาหกรรมการสรรหา (Recruitment) มานาน มองเห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วงรอยต่อ COVID-19 นี้อย่างไรบ้าง
Human Resource เป็นงานที่จะต้องเจอความท้าทายเสมอ ถ้าเรามองในมุมของบริษัท สมมติบริษัทมีแพลนจะใช้งบประมาณสักก้อนเพื่อพัฒนาองค์กร แน่นอนว่างบเหล่านั้นก็มักจะถูกใช้ในส่วนของงานขาย การตลาด R&D หรือ Operation ก่อนด้าน Human Resource เสมอ เพราะส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มีผลโดยตรงต่อผลกำไรของบริษัท และด้วยทรัพยากรที่จำกัด แผนก HR ก็มักจะมาพร้อมกับความคาดหวังที่สูงเสมอ นั่นก็เพราะบุคลากรในบริษัทก็เป็นส่วนสำคัญและมีผลต่อการเติบโตขององค์กรมาก ๆ ไม่ต่างกับด้านอื่นเลย
พอเราเข้าสู่ปีที่ COVID-19 มีการแพร่ระบาด หลาย ๆ องค์กรต้องปรับตัวด้วยการลดรายจ่ายและงบประมาณ ลง โดยเฉพาะด้าน Human Resource ซึ่งปกติก็มักจะได้สัดส่วนของงบประมาณที่น้อยอยู่แล้ว ก็จะเป็นอันดับแรก ๆ ที่จะถูกตัดหรือลดงบประมาณลง แต่บุคลากรยังเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรยังคาดหวังสูงเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บคนเก่งเอาไว้ การพัฒนาคนในองค์กรให้เก่งขึ้น หรือหาบุคลากรเก่งใหม่ ๆ เข้ามาร่วมทำงานด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้นผมมองว่า ในด้าน Recruitment องค์กรต่าง ๆ จะเจอความท้าทายที่ว่า จะทำยังไงให้เราถึงยังคงเติมบุคลากรเก่ง ๆ ได้ จากตลาดผู้สมัครที่บริษัทอื่นเข้าถึงคนเก่งได้ง่ายและสูงขึ้น รวมถึงควบคุมงบประมาณด้าน HR ที่มีอย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุดด้วย
ปกติเวลาบริษัทจะหาพนักงานใหม่ในแต่ละช่องทาง มีปัจจัยหลักอะไรบ้างในการพิจารณาตัดสินใจเลือก
ถ้าพูดถึงปัจจัยที่บริษัทต่าง ๆ พิจารณาในการเลือกใช้ช่องทางของการหาพนักงาน อาจจะมี 3 ส่วนหลัก ๆ
ส่วนแรกที่สำคัญสุดเลยคือจะใช้ช่องทางไหน ช่องทางนั้นก็ต้องมี Pool ของผู้สมัครในสายงานด้านนั้น ๆ อยู่จำนวนมาก หรือครอบคลุมตำแหน่งต่าง ๆ ในบริษัทของเรา หรือข้อดีข้อเสียของแต่ละช่องทาง ซึ่งตรงนี้ก่อนที่เราจะใช้ Service ก็สามารถขอ Data ของผู้สมัครใน Talent Pool ของแต่ละ Service มาเปรียบเทียบกันก่อนได้
ราคาของการใช้แต่ละช่องทางก็มีส่วนสำคัญที่บริษัทต่าง ๆ ก็ต้องมีการควบคุมให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด
อีกปัจจัยที่บริษัทต่าง ๆ มักจะมองถึงคือเรื่องของความรวดเร็วในการได้ผู้สมัคร เราจะเห็นว่าเริ่มมีการใช้บริษัทจัดหางานหรือ Head Hunter ที่มากขึ้น เพราะสมัยนี้เรารอคนเก่ง ๆ มาสมัครไม่ได้แล้ว มันไม่ทันหรอก กลายเป็นว่าในการทำ Recruit สมัยนี้ เราต้องเข้าไปหาผู้สมัครเก่ง ๆ แทน
อะไรคือข้อดี-ข้อเสียของการสรรหาในแต่ละแบบ เช่น การหาพนักงานเอง การใช้เว็บไซต์ประกาศงาน หรือการใช้ Recruitment Agency แล้วบริษัทแต่ละขนาดหรืออุตสาหกรรมควรใช้การสรรหาแบบไหน
จริง ๆ เราคงจะบอกว่า จะเว็บไซต์ประกาศงานหรือการใช้บริการแบบ Recruitment Agency ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียทั้งนั้น อยู่ที่ว่าบริษัทให้น้ำหนักกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ราคา หรือความเร็วในการหาพนักงาน แบบไหนเหมาะสมกับองค์กรมากกว่ากัน ผมเห็นหลายบริษัทเลือกจะใช้ทั้ง 2 ช่องทางควบคู่กันก็เยอะ ก็ยิ่งสามารถเปิดโอกาสเข้าถึงผู้สมัครเก่ง ๆ ได้เพิ่มขึ้นไปอีก
วิธีคิดหรือกระบวนการสรรหาแบบไหนที่ไม่เวิร์คแล้วในปัจจุบัน
ผมมองว่าการสมัครงานมันง่ายขึ้นมาก แล้วปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ใช้เวลาและให้น้ำหนักกับการหาคนเก่งเข้ามาพัฒนาองค์กรมากขึ้น เราจะเห็นว่าสมัยนี้กลายเป็นบริษัทหรือ HR พยายามใช้เครื่องมือเพื่อเข้าหาผู้สมัครเพิ่มขึ้น มีการทำ Employer Branding เพื่อให้คนรู้จักองค์กร มีมุมมองที่ดีกับองค์กรมากขึ้น หลัก ๆ ก็เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดแรงงานกับองค์กรอื่นได้
จะเห็นว่าเราจะรอให้คนเข้ามาสมัครงานแบบสมัยก่อนไม่ได้แล้ว แต่ก็ต้องปรับแนวทางการสรรหาแบบ Passive คือรอให้คนเข้ามาสมัคร เปลี่ยนเป็นแบบ Active คือเป็นฝ่ายเข้าหาผู้สมัครบ้างแล้ว
SourcedOut เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ผมคิดว่า Source หรือ Service ในด้าน Recruitment ตอนนี้มันมี Trade Off หมด เราอาจจะได้ประโยชน์ในเรื่องของราคา แต่มุมกลับกันก็ต้องใช้เวลาและทรัพยากรสูง หรือถ้าเราเลือกวิธีการที่จะได้คนเร็ว ตรงคุณสมบัติ และลดการใช้ทรัพยากรในองค์กรลง แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
สำหรับ SourcedOut เราออกแบบด้วยการดึงข้อดีของแต่ละ Service มารวมไว้ด้วยกัน คือบริษัทสามารถคาดหวังผู้สมัครงานที่ตรงคุณสมบัติ รวมถึงสามารถลดภาระของ HR ในองค์กรลง โดยที่ตอบโจทย์ในเรื่องของราคาด้วย!
นอกจากนี้ตัวแพลตฟอร์มเอง เราใช้เครือข่ายของ HR เข้ามาช่วยมองหาพนักงาน ซึ่งโดยปกติแต่ละ Source ก็มักจะมีข้อจำกัดในบางอุตสาหกรรมที่อาจจะมี Talent Pool ผู้สมัครด้านนั้น ๆ น้อย หรือแม้แต่ความถนัดของตัว Recruiter เอง ที่อาจจะเข้าถึงพนักงานในบางกลุ่มได้ยาก
แต่ข้อดีของเครือค่าย HR แบบ SourcedOut คือ ยิ่งเรามี Community ของนักสรรหา Recruiter มากขึ้น ซึ่งแต่ละคนก็มีความถนัดจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เข้าถึง pool ของผู้สมัครได้ทุกกลุ่ม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะเจอพนักงานคนเก่งได้ง่ายยิ่งขึ้น
รูปแบบนี้ช่วยให้เกิด Win-Win Relationship กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้อย่างไร
คอนเซปต์ของ SourcedOut หรือแพลตฟอร์ม Freelance Recruiter เราตั้งใจคิดขึ้นมาเพื่อให้ทุกส่วนที่อยู่ใน Community ของเราได้ประโยชน์ ถ้ามองในมุมถึงบริษัทต่าง ๆ แน่นอนว่า เรามีโอกาสได้ใช้ Service ที่ราคาไม่สูง ช่วยลดงานของ HR ในบริษัทลง รวมถึงจุดเด่นที่ Recruiter แต่ละคนมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่ต่างกัน เราก็จะได้ผู้สมัครจาก Talent Pool ใหม่ ๆ ที่ Source ปัจจุบันอาจจะมีข้อจำกัด
ในส่วนของ User ที่อยากเข้ามาร่วมกับ Freelance HR Community ของเรา สิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์ได้มาก ๆเลยคือแพลตฟอร์มตัวนี้ เราสามารถเลือกได้ทั้งเวลาในการทำงาน เราจะใช้เวลาทั้งวัน หรือจะเลือกทำเป็นงานเสริม แบบหลังเลิกงานประจำ วันเสาร์อาทิตย์ หรือแม้แต่เดือนนั้นเรายุ่งมาก จะเลือกทำในเดือนที่เราสะดวกก็ได้ เราไม่มีการกำหนดว่าเดือนหนึ่งจะต้องส่งผู้สมัครกี่คน หรือจะต้องทำยอดเท่าไหร่ สิ่งที่เราคาดหวังคืออยากให้ HR ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมกับ Community ของเราได้แบบไม่มีข้อจำกัด
SourcedOut เข้ามาแก้ปัญหาในกระบวนการสรรหาของบริษัทต่าง ๆ ได้อย่างไรอีกบ้าง
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เวลาบริษัทต่าง ๆ จะใช้ Service ที่ช่วยหาพนักงานใหม่ ก็มักจะมองอยู่ 3 เรื่องหลัก ๆ คือสามารถหาผู้สมัครได้ตรงความต้องการไหม? ราคาคุ้มค่าไหม? และได้ผู้สมัครได้เร็วมากน้อยแค่ไหน? ซึ่งตัว service เองก็อาจจะตอบโจทย์ได้ทั้ง 3 ข้อ
อย่างเรื่องราคา เราสร้างโมเดลธุรกิจที่ทำให้เราสามารถเสนอในเรทราคาที่ทุกบริษัทสามารถตัดสินใจใช้ Service ได้ไม่ยากเลย แต่ในทางกลับกัน ก็ต้องตอบความคาดหวังได้ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติผู้สมัคร ช่วยลดภาระและเวลาของ HR ในด้านการสรรหา
ลองคิดดูว่า Resume ผู้สมัคร 1 ฉบับ HR ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติ โทรไปสกรีน รวมถึงขั้นตอนการนัดเข้ามาสัมภาษณ์อีก ถึงจะได้ผู้สมัครอย่างที่บริษัทคาดหวังไว้ ยิ่งถ้าเป็นบริษัทใหญ่ ๆ การเปิด 1 ตำแหน่ง อาจจะมีผู้สมัครเกิน 1 พันคน ถามว่าเราต้องใช้เวลาขนาดไหนในขั้นตอนการ recruit
แต่การใช้ Service ของ SourcedOut เหมือนมี HR อีก 200 คนเข้ามาช่วยในขั้นตอนการสรรหาให้หมดแล้ว เราอาจจะเหลือ Shortlist ผู้สมัครไม่กี่คนที่ตรงกับที่บริษัทกำลังมองหาอยู่ การคัดกรองจุดนี้จะถูกคัดกรองผ่าน Freelance Recruiter แต่ละคน รวมถึงมีการสัมภาษณ์คัดกรองอีกรอบโดยทีมงานของ SourcedOut ก่อนจะส่งผู้สมัครให้กับบริษัทต่าง ๆ มันก็ช่วยลดภาระของ HR ลงได้มาก
นอกจากนี้ อย่างที่ผมบอกว่าแนวทางของการ Recruit จะเป็นรูปแบบที่ Active มากขึ้น คือ HR อาจจะต้องมีการเข้าหาผู้สมัครเก่ง ๆ ที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทต้องการก่อนที่อื่น ซึ่งการใช้แพลตฟอร์ม SourcedOut ก็เหมือนเรามี HR อีก 200 คนในการช่วยเข้าถึงผู้สมัครได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
ส่วนถ้ามองในมุมของ User หรือ HR ที่เข้ามาร่วม Community ของ SourcedOut เราสามารถสร้าง Community ได้เร็วและใหญ่ขนาดนี้ นั่นเพราะเราพยายามสร้างสิ่งแวดล้อมและวิธีการที่ตอบโจทย์การใช้งาน อย่างแรกเลยคือความสะดวก เราสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ผ่านการสมัครหน้าเว็บเหมือนเราสมัครสมาชิกเว็บไซต์ใดเว็บไซต์นึ่ง นอกจากนี้เรายังสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ตอบโจทย์ User ทุกกลุ่ม เช่น ไม่มีการกำหนดเป้าหมาย เวลาในการทำงาน หรือแม้แต่สถานที่ แต่ในมุมกลับกันก็มีรูปแบบแรงจูงใจที่น่าสนใจให้ ทั้งสำหรับคนที่มองเป็นงานเสริม หรือแม้แต่เพียงพอที่จะหันมาทำเป็นงานหลักได้เลยครับ
คาดหวังให้ SourcedOut เติบโตไปถึงจุดไหน
ขอพูดถึงจุดที่เราอยู่ก่อน เรามั่นใจว่าในไทยตอนนี้ SourcedOut เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวม Freelance Recruiter กว่า 200 คนที่สมัครเข้ามาใช้งานกับเรา ก็ต้องถือว่าเป็น Community ที่ใหญ่ที่สุดในไทยแน่นอน เป้าหมายในระยะสั้นของเราคือการสร้าง Community นี้ให้เข้มแข็ง รวมถึงสร้างระบบการทำงานต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ User ที่เข้ามาใช้งานให้เเกิดรายได้เสริมอย่างยั่งยืน เมื่อเรามี Community ของ HR ที่เข้มแข็งแล้ว Service หรือตัวแพลตฟอร์มเองมันก็จะตอบโจทย์ให้กับบริษัทของลูกค้าในเรื่องการหาพนักงานได้เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า หลังจากเรามีระบบที่เข้มแข็งแล้ว ผมเชื่อว่าระบบนี้สามารถนำไปใช้ได้ในทุกประเทศ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะเห็นรูปแบบการสรรหาที่ไม่มีกำแพงหรือพรมแดนก็ได้นะครับ (ยิ้ม)