Search
Close this search box.

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

HIGHLIGHT

  • เศรษฐกิจของโลกยังจำเป็นต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยจุดที่น่าสนใจก็คือการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องสงคราม, ผู้อพยพ, เงินเฟ้อ และภาษี
  • สิ่งที่ทุกองค์กรต้องทำในปัจจุบัน คือการสร้างความเข้าใจเรื่อง AI Literacy แบบ 100% ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงลงมาถึงพนักงานระดับทั่วไป เราคาดเดาอนาคตของ AI ไม่ได้แบบ 100% แต่การเตรียมตัวให้พร้อมจะทำให้เราปรับตัวได้ง่ายขึ้น
  • ความท้าทายด้าน Sustainability ของไทยประกอบด้วย 1) ระบบการผลิตอาหารที่ไม่ยั่งยืน 2) เศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมและไม่ยั่งยืน 3) คุณภาพและความเหลื่อมล้ำของการศึกษาและสาธารณสุข 4) ธรรมภาภิบาลและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อน 5) การอนุรักษณ์ความหลากหลายทางชีวภาพ 6) การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • Gartner กล่าวว่าทักษะที่เราต้องใช้ในงาน ๆ หนึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 10% ในทุกปี และทักษะที่เรามีใน 3 ปีที่แล้วถึง 30% จะไม่เป็นประโยชน์กับการทำงานในปัจจุบัน
  • คุณสมบัติที่ CEO ยุคใหม่ต้องมีประกอบด้วยการคิดเป็นระบบ, การสำรวจตัวเอง, คิดทั้งเรื่องกำไรและเห็นอกเห็นใจพนักงาน, สื่อสารเป็น, ความสามารถในการฟื้นตัวจากความท้าทายอย่างรวดเร็ว

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

แม้ Future Trends Ahead Summit 2024 จะเป็นงานแบบ Exclusive ที่เปิดให้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น แต่ HREX ก็ได้มีโอกาสทำสรุปมาให้ผู้อ่านได้ศึกษาเรียนรู้กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยงานปีนี้มาในหัวข้อ Knowing The Future, Be The Winners of Tomorrow ที่จะพาคุณไปได้รู้จักเทรนด์แห่งอนาคตในหัวข้อต่างๆ ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาด ผู้บริโภค การลงทุน เทคโนโลยี ความยั่งยืน การวางกลยุทธ์ การเรียนรู้ และทรัพยากรบุคคล เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในวันพรุ่งนี้ จากบรรดาสปีกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ

‘โอกาสและความเสี่ยง’ เศรษฐกิจโลก 2024 โดยดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย – Kiatnakin Phatra

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

ผู้บรรยายใช้วิธีแบ่งเป็นหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้

  1. เศรษฐกิจโลกกำลังจะเติบโตสวนทางกัน : เศรษฐกิจจะชะลอตัวในปี 2024 ก่อนจะฟื้นตัวในปี 2025 ขณะที่สหรัฐอเมริกายังแข็งแกร่ง แต่จีนจะชะลอตัวลงมากกว่าที่หลายคนคิด
  2. อัตราดอกเบี้ยโลกผ่านจุดสูงสุดและเริ่มปรับตัวลดลง : เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับลดลงจากสูงสุดที่ 8% ลงมาเหลือประมาณ 3% ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของ FED คาดว่าจะทยอยลดลงจาก 5.5% เหลือ 4.5%
  3. การเมืองระหว่างประเทศเป็นประเด็นที่มีความไม่แน่นอน : ในปี 2024 จะมีการเลือกตั้งระดับชาติอย่างน้อยใน 60 ประเทศ เช่น ในไต้หวัน, อินเดีย, อินโดนิเซีย, รัสเซีย, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้า, ผู้อพยพ, เงินเฟ้อ และภาษี
  4. เศรษฐกิจไทยจะยังฟื้นตัวช้า และจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น : การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและส่งออกจะยังเป็นปัจจัยหนุนหลัก, นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจะส่งผลต่อเศรษฐกิจเพียงระยะสั้น, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังอ่อนแอ, คาดว่ากนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% นอกจากเศรษฐกิจจะแย่กว่าที่คาด จึงจะมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี อนึ่งผู้บรรยายกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยจะตกต่ำลงทุกครั้งที่มีวิกฤต และทุกครั้งจะมีการเปลี่ยนเครื่องจักรเศรษฐกิจจากการลงทุน > ส่งออก > ท่องเที่ยว ตามลำดับ โดยปัญหาที่สำคัญที่สุดอีกอย่างก็คือประชากรไทยกำลังลดลง คนจะแก่ก่อนรวย

‘Transformation องค์กรในยุค AI First ให้ก้าวกระโดดในปี 2024’ โดยคุณเรืองโรจน์ พูลผล -KBTG

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

ปัจจุบัน K-Bank เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มธนาคารบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย มีผู้ใช้งานมากกว่า 22 ล้านคน ครอบคลุม Financial Transaction ถึง 35% ของประเทศไทย คิดเป็น 1.3% ของ GDP ประเทศไทย และองค์กรนี้ให้พนักงานอยู่ที่บ้านแบบ Work From Home ถึง 100% โดย KBTG เข้าใจอย่างดีว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ AI Transformation ที่เราต้องทำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานได้แล้ว และไม่ใช่แค่เรื่องของปัญญาประดิษฐ์อย่างเดียว แต่เป็นการนำ AI , Machine Learning และ Data เข้ามาใช้ร่วมกัน จะขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปไม่ได้ เพราะแม้เราจะมีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม แต่หากข้อมูลที่ถือเป็นรากฐาน (Foundation) ไม่มีประสิทธิภาพ เราก็จะไม่สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์มาเรียนรู้เนื้อหาที่เกิดประโยชน์ได้อยู่ดี

การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันล้วนมีเรื่อง AI เข้ามาเกี่ยวข้องในทุกเรื่อง ทุกที่ ทุกเวลา World Economic Forum เห็นตรงกันว่า AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่นำไปใช้ได้กับทุกอย่างจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา (General Purpose Technology) ไปแล้ว ดังนั้นเราสรุปได้ว่าการเติบโตของ AI ได้ก้าวเลยจุดหักศอกมาแล้ว และมันจะ “ไม่มีวันช้าลง” อีกแล้ว

AI จะกลายเป็นเรื่องของ Multi-Model มันจะมีประสิทธิภาพขึ้น, เร็วขึ้น, กินพลังงานน้อยลง โดยเฉพาะ Generative AI ที่จะก้าวไปเป็นแบบ Longtail ผู้บรรยายกล่าวว่าปัจจุบันมีการนำ AI ไปใช้กับท่าเรือแล้ว ซึ่งงานตรงนี้เคยเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีคนอยากไปทำ แต่ AI ก็เข้าไปช่วยได้ นอกจากนี้ Generative AI จะเข้าไปเร่งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง ถ้าเราไม่รู้จักปรับตัว เราจะถูกทิ้งห่างได้เลย

AI จะมีประโยชน์กับ Blue Collar มากกว่า White Collar เราจะมีทักษะแค่กลาง ๆ ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราสามารถถูกคนที่มีทักษะน้อยกว่าใช้ AI เป็นตัวช่วยและผลักดันตัวเองขึ้นมาจนเก่งกว่าเราได้อย่างง่ายดาย และ AI จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจที่เกี่ยวจ้องกับดิจิทัล มากกว่าธุรกิจที่เป็นแบบ Physical First กล่าวคือ AI ไม่ได้มีประโยชน์กับทุกคนแบบเท่า ๆ กัน ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละงานด้วย

โจทย์ในปีนี้ของทุกองค์กรคือการสร้าง AI Literacy แบบ 100% ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงเรื่อยไปจนถึงพนักงานระดับล่างสุด, เราต้องออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ (Redesign Business Model) แต่อย่าลืมเรื่องของ ‘Human First ก่อน AI First’ เอาแต่ให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานทั้งหมดโดยไม่เตรียมพนักงานให้พร้อมเลย เพราะ AI หลาย ๆ ส่วนก็ยังจำเป็นต้องให้คนคอยกำกับดูแล ทั้งนี้เพราะเราไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้แบบถูกต้องทั้งหมด แต่การทำคนให้พร้อม จะช่วยให้เราปรับตัวเข้าหาสิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

ทำธุรกิจอย่างมีหัวใจ เพื่อสร้างกำไรและดูแลโลกไปพร้อมกัน โดย ผศ.ชล บุนนาค – SDG Move

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

การทำธุรกิจให้ยั่งยืนจำเป็นมาก ๆ สำหรับการอยู่รอด โดยเราต้องเข้าใจเรื่อง Triple Planetary Crisis ได้แก่เรื่องของภาวะโลกร้อน (Climate Change), มลพิษ (Pollutions), การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss) สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากปฏิบัติการทางเศรษฐกิจของมนุษย์ ​ที่อาจต้องย้อนไปถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ซึ่งนำไปสู่การลงนามสำคัญ เช่น Sustainable Development Goals และ PARIS2015 ที่เหล่าประเทศในสหประชาชาติให้การรับรอง ดังนั้นการทำธุรกิจในปัจจุบันจึงหลีกเลี่ยงการคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ไม่ได้อีกต่อไป

กระดุม 3 เม็ดเพื่อทำธุรกิจที่มีหัวใจ

A : Act to reduce harm

  • ตรวจสอบตลอดห่วงโซ่คุณค่าว่าเราสร้างผลกระทบต่อสังคมและโลกอย่างไรบ้าง
  • จัดการผลกระทบทางลบดังกล่าว
  • ลดความเสี่ยง ลดต้นทุน ซึ่งอาจเพิ่มกำไรให้กับบริษัทได้ด้วย

B : Benefit Stakeholders

  • สำรวจดูว่าตลอดห่วงโซ่คุณค่านั้น เราทำงานกับใครบ้าง และเราจะสร้างประโยชน์ร่วมกันคนเหล่านั้นได้อย่างไร (เช่นเกษตรกร, ผู้บริโภค, คนไร้บ้านที่ต้องการอาหาร ฯลฯ)
  • อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมประเภท CSR

C : Contribute to Solutions 

  • เราสามารถทำให้ธุรกิจของเรา มีส่วนในการแก้ไขปัญหาความยั่งยืนได้อย่างไร

ประเทศไทยมี 6 ความท้าทายด้านความยั่งยืน ได้แก่

  • ระบบการผลิตอาหารที่ไม่ยั่งยืน
  • เศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมและไม่ยั่งยืน
  • คุณภาพและความเหลื่อมล้ำของการศึกษาและสาธารณสุข
  • ธรรมภาภิบาลและกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อน
  • การอนุรักษณ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
  • การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

‘Corporate People Development’ ทักษะสำคัญของพนักงานในศตวรรษที่ 21 โดยคุณโอชวิน จิรโสตติกุล – FutureSkill

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

Gartner ได้ออกมาบอกว่าทักษะที่เราต้องใช้ในงาน ๆ หนึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 10% ในทุกปี และทักษะที่เรามีใน 3 ปีที่แล้วถึง 30% จะไม่เป็นประโยชน์กับการทำงานในปัจจุบัน หมายความว่าถ้าเราเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาแล้วไม่ได้คิดหาความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาเลย สิ่งที่เราเรียนจบมาก็อาจไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตเลย

องค์กรในปัจจุบันต้องให้ความสำคัญกับทักษะมากขึ้น (Skill Based Organization) ซึ่งการหางานในปัจจุบันก็มองผู้สมัครในบริบทที่สอดคล้องกับข้อมูลนี้เช่นกัน องค์กรจะเริ่มมี Internal Mobility เพื่อใช้ทักษะของพนักงานให้คุ้มค่าที่สุด ยิ่งคนมีทักษะหลากหลายก็จะยิ่งมีโอกาสทางหน้าที่การงานมากขึ้น ซึ่ง Deloitte บอกว่าคน 66% อยากทำงานกับบริษัทที่เห็นคุณค่าในทักษะของพวกเขา มากกว่าโฟกัสเรื่องของ “ดีกรี” เพียงอย่างเดียว

ผู้บรรยายยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของ Netflix ตั้งแต่การเป็นบริษัทจัดเช่าสื่อ จนมาเป็น Streaming Service ชื่อดังของโลก หรือแม้แต่ธุรกิจตัวต่อ Lego ที่หันมาจับตลาดเกมส์และภาพยนตร์ เป็นต้น นี่คือธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับตัว แต่ก็มีธุรกกิจอีกมากมายที่ปรับตัวไม่ทันและล้มหายไปจากท้องตลาด 

Innovation Skills คือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญภายใน 5 ปีนับจากนี้ ประกอบด้วย 5 หัวข้อ ได้แก่

  1. AI / Big Data
  2. ความคิดเชิงวิเคราะห์
  3. การคิดเชิงสร้างสรรค์ Creative Thinking
  4. Leadership and Social Influence
  5. Talent Management

ผู้บรรยายเน้นย้ำว่าอาชีพทุกอย่างจะถูก Disrupt อยู่แล้ว และ Generative AI จะทำให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด งานด้านการศึกษา, งานศิลปะ, งานสร้างสรรค์ มีโอกาสถูก Automated ไม่มากก็น้อย เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน มากกว่าปล่อยให้มันกลืนกินจนต้องตกที่นั่งลำบาก

CEO For The Future เมื่อโลกกำลังเปลี่ยนไป ผู้นำต้องปรับอย่างไรให้กับการเปลี่ยนแปลง โดยคุณชนาทิพย์ วูวงศ์ – Kincentric

สรุปทุกเรื่องที่คุณต้องรู้จากงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

ตัวอย่างความท้าทายใน 3 ปีที่ผ่านมาของบริษัทระดับโลก ประกอบด้วย

Netflix : กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทคู่แข่ง ส่งผลให้ผู้สมัครลดลงอย่างมาก

Meta : เผชิญกับกระแสต่อต้านจากสังคม จากกรณีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นลดลงอย่างหนัก

Tesla : โดนยอดขาย BYD จากจีนแซง

นอกจากนี้ยังรวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19, การสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน, ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์, ทัศนคติต่อการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป, สงครามแย่งชิงคนเก่ง, การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและแรงกดดันทางด้าน ESG

ดังนั้น Kincentric ได้สัมภาษณ์ CEO กว่า 1,000 คนจากบริษัทชั้นนำ เพื่อหาคำตอบว่าคนที่เป็นผู้นำต้องเตรียมตัวอย่างไร และได้คำตอบว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกการทำงานได้แก่

  1. ขนาด, ความเร็ว, ความเชื่อมโยงของความเสี่ยง
  2. ความคาดหวังทางสังคมสูงขึ้น
  3. ลูกค้า พนักงาน นักลงทุน กล้าแสดงความเห็นมากขึ้น
  4. เป้าหมายของการทำงานเปลี่ยน

แล้ว CEO ยุคใหม่มีบทบาทต่างจากเดิมหรือไม่ ? ผู้บรรยายกล่าวว่ามีอยู่ 5 ประการที่ CEO ยุคใหม่ต้องทำ ได้แก่

  1. นิยามความสำเร็จแบบใหม่ (Redefine Success)
  2. สร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Engage Stakeholders)
  3. ขยายเครือข่าย (Build a diverse Ecosystem)
  4. สร้างผลลัพธ์ด้วยความยืดหยุ่นและให้อำนาจ (Agile and Empower Team)
  5. ตื่นตัวตลอดเวลา (Stay Alert)

คุณสมบัติที่ CEO ยุคใหม่ต้องมีประกอบด้วย

  1. การคิดเป็นระบบ (System Thinking) กล้าคิด กล้าเสียง กล้าตัดสินใจ และรอบคอบ
  2. การสำรวจตัวเองและการปรับตัว (Self Reflection and Adaptability)
  3. ผสมผสานระหว่างการทำกำไรและการเห็นอกเห็นใจพนักงาน (Blends Results with Empathy)
  4. ต้องสื่อสารให้เป็น ให้เหมาะกับผู้รับสาส์น (Communication with the Heart)
  5. ความสามารถในการฟื้นตัวจากความท้าทายอย่างรวดเร็ว (Resilience)

CTA HR Products & Services

ผู้เขียน

Picture of HREX.asia

HREX.asia

Connect People to the Best HR Solution เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน

บทความที่เกี่ยวข้อง