ไม่นานมานี้ ดิฉันได้รับเชิญไปพูดเรื่องความท้าทายของผู้นำองค์กรยุคนี้ หนึ่งในบทบาทสำคัญของผู้นำยุคนี้คือการบริหารจัดการกับสิ่งที่ดูเหมือนจะมีความขัดแย้ง แต่กลับเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง (Paradox Management) ซึ่งความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสมดุลระหว่างการขับเคลื่อนผลลัพธ์ขององค์กร (Result) และการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน (Wellbeing)
ความรับผิดชอบทั้งสองนี้อาจดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จที่ยั่งยืน
ทำให้ดิฉันนึกถึงซีรีส์จาก Netflix เรื่อง Secrets of the Blue Zones ซึ่ง Blue Zones หรือพื้นที่ที่ผู้คนมีอายุยืนและสุขภาพดีอย่างโดดเด่น สามารถให้บทเรียนที่มีค่าแก่ผู้นำในการสร้างสมดุลระหว่างผลลัพธ์และความเป็นอยู่ที่ดี พื้นที่เหล่านี้ เช่น โอกินาวาในญี่ปุ่นและซาร์ดิเนียในอิตาลี เต็มไปด้วยหลักการสำคัญที่สามารถนำมาปรับใช้กับการนำองค์กรเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลลัพธ์และความสุขของคนในองค์กรได้:
- หาความหมายของชีวิต (Ikigai): ผู้คนใน Blue Zones ตื่นขึ้นมาในแต่ละวันพร้อมเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตและอารมณ์ สำหรับผู้นำองค์กร การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรและค่านิยมส่วนตัวของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันช่วยให้ทีมงานทำงานอย่างมีความหมายและแรงจูงใจ มองเห็นว่างานของตนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ไม่ใช่แค่หน้าที่ที่ต้องทำให้เสร็จ
- เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ (Natural Movement): ใน Blue Zones การออกกำลังกายไม่ได้ถูกแยกออกมาเป็นกิจกรรมเฉพาะ แต่ผสานอยู่ในกิจวัตรประจำวันอย่างธรรมชาติ สำหรับผู้นำ อาจแปลงแนวคิดนี้ไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมสุขภาพกายและสมดุล เช่น การใช้โต๊ะทำงานแบบยืน การประชุมเดินคุย หรือการส่งเสริมโครงการสุขภาพ
- สร้างความรู้สึกเป็นส่วนร่วมและการเชื่อมโยงถึงกัน (Belonging and Connection): เครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งเป็นลักษณะเด่นใน Blue Zones ซึ่งช่วยเสริมความเป็นอยู่ที่ดี สำหรับผู้นำ การสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งโดยการส่งเสริมความร่วมมือและความไว้วางใจในทีมเป็นสิ่งสำคัญ การสร้างโอกาสในการสร้างทีม การยอมรับความสำเร็จ และการส่งเสริมการสื่อสารอย่างเปิดเผยสามารถเพิ่มความมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ในทีม
- ลดความเครียด (Downshifting): ผู้อยู่อาศัยใน Blue Zones มีกิจวัตรประจำวันที่ช่วยลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การสะท้อนตนเอง หรือการรวมตัวในชุมชน สำหรับผู้นำ การเป็นแบบอย่างและส่งเสริมการปฏิบัติที่คล้ายกันสามารถสร้างผลกระทบที่ดีต่อความเป็นอยู่ขององค์กร การจัดสรรเวลาสำหรับการพักผ่อนหรือกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย ช่วยให้ทีมงานสามารถฟื้นฟูพลังงานและโฟกัสได้
แน่นอนที่สุดเราคงไปเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมและความท้าทายจากภายนอกได้ยาก แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนหรือ RESET วิธีที่ผู้นำสามารถสร้างสมดุลนี้ภายในตนเองและให้กับคนรอบตัวได้
- ปรับเปลี่ยนความหมายของคำว่าความสำเร็จ (Redefine Leadership Success) ขยายความหมายของความสำเร็จให้ครอบคลุมทั้งสุขภาพและผลลัพธ์ โดยวัดผลจากความผูกพัน สุขภาพจิต และความพึงพอใจในการทำงานควบคู่ไปกับเป้าหมายทางการเงินและการดำเนินงาน
- เป็นต้นแบบในการสร้างความสมดุลนี้ (Embody the Balance) ผู้นำต้องแสดงให้เห็นด้วยการให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเอง เช่น การจัดการความเครียด การรักษาสมดุลระหว่างงานและชีวิต ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่มีพลังสำหรับทีม
- กำหนดเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจัง (Set tone from the top) ผู้นำระดับสูงสุดต้องกำหนดว่าการสร้างสมดุลระหว่างผลลัพธ์และความเป็นอยู่ที่ดีไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับการเติบโตในโลกที่ซับซ้อนในปัจจุบัน บทเรียนจาก Blue Zones สามารถให้แนวทางที่พิสูจน์แล้วสำหรับผู้นำในการบรรลุสมดุลนี้ ซึ่งส่งผลให้ทีมงานและองค์กรประสบความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมกัน
- นำเรื่องสุขภาพเข้าไปอยู่ในกลยุทธ์ (Embed Wellness in Strategy) ออกแบบกระบวนการทำงานและนโยบายที่ผสมผสานสุขภาพเข้าไปในวัฒนธรรมองค์กร เช่น ตารางงานที่ยืดหยุ่น การส่งเสริมการทำสมาธิ และการสร้างโอกาสให้พนักงานได้ฟื้นฟูพลังงาน
- ช่วยให้พนักงานเห็นว่างานของพวกเขามีความหมายต่อพันธกิจขององค์กร (Transform purpose into actionable leadership values) ความหมายที่ชัดเจนในงานไม่เพียงช่วยกระตุ้นผลลัพธ์ แต่ยังเสริมสร้างสุขภาพจิตและอารมณ์ด้วย
โดย
Dr. Sutisophan Chuaywongyart