Search
Close this search box.

เลือก HR Tech อย่างไรถึงตอบโจทย์องค์กร ระหว่าง Best of Breed หรือ All in One ?

เลือก HR Tech อย่างไรถึงตอบโจทย์องค์กร ระหว่าง Best of Breed หรือ All in One ?

HR Tech คือเครื่องมือที่ช่วยให้ HR สามารถบริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลัก ๆ HR Tech ที่มีอยู่มากมายในท้องตลาดจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นคือ

  1. Best of Breed ระบบที่เน้นความเชี่ยวชาญแค่ฟังก์ชั่นใดฟังก์ชั่นหนึ่ง แต่ทำออกมาได้ดีจนขึ้นชื่อลือชา
  2. All in One หรือ All Around ที่สามารถทำงานได้รอบด้าน มีหลายฟังก์ชั่นรองรับอยู่ในระบบเดียว 

ทั้งนี้ HR Tech แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เหมาะสมกับการใช้งานในองค์กรมีรูปแบบและความต้องการแตกต่างกันไป จนบางทีก็ทำให้ HR หลายองค์กรลังเลว่าควรเลือกใช้ HR Tech แบบไหนดีจึงจะคุ้มค่ากับองค์กรที่สุด

HREX ขอถือโอกาสนี้พาไปสำรวจข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบกัน เพื่อที่จะได้ช่วย HR ตัดสินใจได้ถูกต้อง และนำไปใช้งานได้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการขององค์กร

Contents

ข้อดีของ HR Tech ประเภท Best of Breed

1. มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

HR Tech ประเภท Best of Breed ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ถ้าเป็นระบบบันทึกเวลาเข้าออกงาน ก็จะทำได้แค่บันทึกเวลาเข้าออกงานเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ชดเชยมาก็คือ เครื่องมือประเภทนี้มักมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในด้านนั้นได้ดีมาก ๆ 

2. ใช้งานง่าย เรียนรู้ง่าย ไม่ซับซ้อน

เนื่องจากระบบโฟกัสที่ฟังก์ชั่นเดียว ทำให้กระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน สามารถเรียนรู้และใช้งานง่าย เหมาะกับทีม HR ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อน แต่ทรงประสิทธิภาพ

3. ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนานวัตกรรมและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง

ผู้ให้บริการ HR Tech แบบ Best of Breed มักพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในฟังก์ชั่นที่เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาอยู่เสมอ พร้อมตอบสนองต่อเทรนด์และความต้องการของตลาด เช่น หากตลาดกำลังตื่นตัวกับการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงาน ก็สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นนี้เข้าไปได้ในเวลาที่เร็วกว่า HR Tech อีกแบบ

4. ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเฉพาะทาง

HR Tech ประเภทนี้สามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม เช่น เครื่องมือสำหรับสรรหาพนักงานในสายไอทีที่เน้นการประเมินทักษะเฉพาะด้าน หรือระบบจัดการเวลาที่ออกแบบมาเพื่องานกะในธุรกิจบริการ มาพร้อมกับข้อมูลเชิงลึก (insights) ที่เป็นประโยชน์ เช่น ข้อมูลการวิเคราะห์ผลการสรรหา หรือการวัดผลการทำงานของพนักงานในมิติที่ละเอียด ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้แม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการนั้นได้ยิ่งขึ้นเลือก HR Tech อย่างไรถึงตอบโจทย์องค์กร ระหว่าง Best of Breed หรือ All in One ?

ข้อเสียของ HR Tech ประเภท Best of Breed

1. ขาดการเชื่อมโยงกับระบบอื่น

HR Tech ประเภท Best of Breed ไม่ได้มีแต่ข้อดี แต่มีข้อเสียเป็นข้อพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยหลัก ๆ แล้วพอเน้นที่การเอาดีด้านใดด้านหนึ่งไปเลย หมายความว่าระบบเหล่านี้จะไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับการทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น 

เช่น หากเป็นบริการช่วยสรรหาพนักงาน ระบบการสรรหาแยกส่วนอาจไม่สามารถส่งข้อมูลพนักงานใหม่เข้าสู่ระบบการจัดการเงินเดือนหรือระบบประเมินผลได้โดยตรง ทำให้ HR ต้องเสียเวลาโอนถ่ายข้อมูลระหว่างระบบนานกว่าปกติ

ปัญหานี้มีผลกระทบในระยะยาว โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนของข้อมูลสูง เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดจากการทำงานที่ขาดความเชื่อมโยงได้ เช่น ข้อมูลพนักงานซ้ำซ้อนหรือขาดหาย เป็นต้น

2. อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

หากเทียบกันแล้ว HR Tech ประเภท Best of Breed มักมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับระบบ All in One แต่หากต้องการให้ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันกับระบบอื่น ๆ ได้ ก็ต้องบูรณาการระบบ หรือซื้อระบบอื่น ๆ มาใช้งานเพิ่ม ซึ่งทำให้ต้องเสียงบประมาณเพิ่มตามไปด้วย

นอกจากนี้ หากตัดสินใจซื้อระบบอื่นมาทำงานอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้ว แต่กลับพบว่าข้อมูลไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนและยืดเยื้อ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับทีม IT และ HR ในองค์กรเข้าไปอีก

3. มีขีดจำกัดในการขยายการใช้งาน

พอ HR Tech ประเภท Best of Breed มักออกแบบมาเพื่อรองรับฟังก์ชั่นเดียวโดยเฉพาะ การขาดความยืดหยุ่นอาจกลายเป็นอุปสรรคหากองค์กรต้องการขยับขยายเพื่อเติบโต หรือปรับกลยุทธ์ เช่น หากต้องการใช้ข้อมูลจากหลายระบบเพื่อสร้างรายงานแบบองค์รวม ระบบที่ไม่สามารถรวมข้อมูลจากฟังก์ชั่นอื่น ๆ ได้จะกลายเป็นจุดอ่อน ทำให้องค์กรไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่

4. ยิ่งพึ่งพาผู้ให้บริการหลายราย ยิ่งมากคน มากความ

การการพึ่งพาระบบ Best of Breed หลายตัวจากผู้ให้บริการหลายเจ้า เพิ่มความเสี่ยงในการใช้งาน หากผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งหยุดการให้บริการหรือเกิดปัญหาทางเทคนิค ระบบที่ใช้ในฟังก์ชั่นนั้นอาจหยุดชะงัก และส่งผลต่อกระบวนการทำงานอื่น ๆ ในองค์กร

นอกจากนี้ การติดต่อสื่อสารกับผู้ให้บริการแต่ละรายก็มีความยุ่งยากตามไปด้วย อย่าลืมว่าแต่ละที่มีนโยบายหรือวิธีการสนับสนุนเบื้องหลังไม่เหมือนกัน พอมากคนมากความเข้าเท่าไหร่ องค์กรก็ยิ่งต้องเสียเวลาประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องมากเท่านั้น

ข้อดีของ HR Tech ประเภท All in Breed

1.ครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นในระบบเดียว

แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นได้ชัดของ HR Tech ประเภท All in One ก็คือสามารถใช้งานทุกฟังก์ชั่นที่ HR ต้องการได้ในระบบเดียว เช่น ระบบ A สามารถทำได้ทั้งช่วยสรรหาบุคลากร ช่วยจัดการเงินเดือน ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน หรือสามารถฝึกอบรมและพัฒนา รวมถึงการประเมินผลการทำงานได้ด้วย เป็นต้น

พอทำได้หลายอย่าง ก็ไม่ต้องแยกใช้งานหลายซอฟต์แวร์ ช่วยลดความยุ่งยาก ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานแยกส่วน เช่น เมื่อสรรหาบุคลากรสำเร็จ ข้อมูลของพนักงานใหม่จะถูกบันทึกในระบบทันที และเชื่อมต่อไปยังการจัดการเงินเดือนและการประเมินผลการทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้ทีม HR สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดเวลาในการป้อนข้อมูลซ้ำ

2. ข้อมูลทุกอย่างจัดสรรเป็นระบบและเชื่อมโยงกัน

การเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ HR Tech แบบ All in One ทำให้ทุกส่วนของการจัดการ HR สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เช่น การใช้ข้อมูลจากระบบประเมินผลการทำงานเพื่อนำมาวิเคราะห์การเลื่อนตำแหน่ง หรือการเชื่อมโยงข้อมูลการฝึกอบรมกับเป้าหมายการพัฒนาพนักงานในระยะยาว

ด้วยความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจากทุกแผนกและฟังก์ชั่นในที่เดียว องค์กรสามารถสร้างรายงานที่ครอบคลุมและเข้าใจภาพรวมของทรัพยากรบุคคลได้ดียิ่งขึ้น เช่น การวิเคราะห์แนวโน้มการลาออก การคำนวณ ROI ของโปรแกรมฝึกอบรม หรือการคาดการณ์ความต้องการพนักงานในอนาคต การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์และการประมวลผลข้อมูลข้ามฟังก์ชั่นช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารได้ง่ายขึ้นด้วย

3. ต้นทุนรวมที่จ่ายคุ้มค่ากับผลที่ได้

แม้ HR Tech แบบ All in One มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบ Best of Breed ในตอนแรก แต่เมื่อเทียบกันในระยะยาวแล้ว ระบบ All in One มักมีต้นทุนรวมที่คุ้มค่ากว่า เพราะการลงทุนในระบบเดียวช่วยลดค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษาระบบหลายตัว ค่าเชื่อมต่อข้อมูล หรือค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งานหลายแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งยังช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการกับผู้ให้บริการหลายราย ทำให้ทีม HR สามารถเอาเวลาไปดูแล และพัฒนาองค์กรได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเสียเวลาไปกับการแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค

4. ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร

การใช้งาน HR Tech ระบบ All in One ช่วยให้องค์กรดูทันสมัยและมีมาตรฐานในการบริหารจัดการพนักงาน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรในสายตาของผู้สมัครงานและพนักงานปัจจุบัน 

เช่น หากใช้บริการสรรหาพนักงานผ่านแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย หรือการติดตามผลการพัฒนาพนักงานผ่านระบบที่โปร่งใส สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ดึงดูด Talent มากความสามารถให้อยากมาร่วมงานด้วย

5. Self-Service Platform พนักงานไม่ต้องรอ HR แต่เข้าถึงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง 

ระบบ All in One มักพร้อมกับฟีเจอร์ Self-Service ที่ช่วยให้พนักงานสามารถจัดการ เข้าถึง และตรวจสอบข้อมูลของตัวเองได้โดยไม่ต้องรอ HR ส่งให้ เช่น ข้อมูลวันลาที่เหลือ ประวัติการฝึกอบรม ช่วยลดภาระงานขอ HR และเพิ่มความพึงพอใจให้กับพนักงานด้วย

เลือก HR Tech อย่างไรถึงตอบโจทย์องค์กร ระหว่าง Best of Breed หรือ All in One ?

ข้อเสียของ HR Tech ประเภท All in One

1. ขาดความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

HR Tech ประเภท All in One มักออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นงาน HR ก็จริง อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่มีความเชี่ยวชาญในฟังก์ชั่นใดฟังก์ชั่นหนึ่งอย่างลึกซึ้ง เช่น ระบบสรรหาอาจไม่มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยเท่ากับระบบ Best of Breed ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการสรรหาโดยเฉพาะ และฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมทั้งหมดมักเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ไม่ได้พัฒนาให้มีความลึกซึ้งหรือมีประสิทธิภาพสูงสุดในงานใดงานหนึ่ง

และพอระบบ All in One ชูจุดขายว่าทำได้หลายอย่าง สิ่งที่ลูกค้าจะคาดหวังก็คือ มันต้องทำแต่ละอย่างได้ดีจริง ๆ ด้วย ไม่ได้ดีแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลายเป็นความท้าทายของทีมงานผู้พัฒนาระบบด้วยว่าจะสามารถทำงานทุกอย่างออกมาให้ดีได้จริงหรือไม่

2. ความยุ่งยากในการปรับใช้

การติดตั้งและปรับใช้ระบบ All in One มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างซับซ้อนและต้องการการตั้งค่าที่ละเอียดอ่อน เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล การปรับแต่งฟังก์ชั่นให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะขององค์กร เป็นต้น

นอกจากนี้ ทีม HR และ IT อาจต้องเรียนรู้ระบบใหม่และการปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับระบบนานกว่าที่ควร รวมถึงต้องเสียเวลาฝึกอบรมพนักงานในทุกระดับเพื่อให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความยุ่งยากนี้อาจทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ช้ากว่าที่คาด 

3. อาจไม่เหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก มีงบประมาณจำกัด

HR Tech ประเภท All in One มักมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับระบบ Best of Breed แม้ระบบ All in One อาจช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่สำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือองค์กรที่ไม่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล และมีงบประมาณจำกัด ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงอาจเป็นอุปสรรคในการเติบโตมากกว่าโอกาสองค์กรหรือ IT อาจเผชิญกับความยุ่งยากในการบริหารจัดการ และดึงข้อมูลที่ซับซ้อนจากระบบการจัดการข้อมูลก็จะยิ่งท้าทายขึ้น

4. ความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียว

การใช้ระบบ All in One ทำให้องค์กรต้องพึ่งพาผู้ให้บริการเพียงรายเดียวสำหรับทุกฟังก์ชั่น HR หากเกิดปัญหากับผู้ให้บริการ เช่น การหยุดให้บริการ ปัญหาทางเทคนิค หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งาน อาจส่งผลกระทบต่อทุกกระบวนการ HR ที่ใช้งานระบบอยู่

นอกจากนี้ หากผู้ให้บริการไม่มีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง หรือฟีเจอร์บางอย่างล้าสมัย องค์กรอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่ไม่สามารถแก้ไขได้เอง ทำให้เกิดความเสี่ยงในระยะยาว โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานเทคโนโลยี

5. ขาดความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง

ระบบ All in One มักถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในรูปแบบมาตรฐานที่ครอบคลุมฟังก์ชั่นทั่วไปขององค์กรส่วนใหญ่ แต่เมื่อองค์กรมีความต้องการเฉพาะ เช่น การออกแบบกระบวนการ HR ที่มีลักษณะเฉพาะของธุรกิจ ระบบ All in One อาจไม่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระหรือเต็มที่

เช่น องค์กรที่มีโครงสร้างการประเมินผลซับซ้อน หรือมีรูปแบบการจัดการเวลาทำงานที่ไม่เหมือนกับองค์กรทั่วไป อาจพบข้อจำกัดในการปรับแต่งระบบให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของตัวเองได้

บทสรุป

HR Tech แต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป หากองค์กรต้องการ Solution ที่เชี่ยวชาญในงานเฉพาะ และมีทีมงานที่พร้อมจะจัดการการบูรณาการ HR Tech แบบ Best of Breed อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

แต่หากองค์กรต้องการระบบที่ครอบคลุมและง่ายต่อการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์ HR Tech แบบ All in One อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า

แต่ท้ายที่สุด ก่อนตัดสินใจใช้งานระบบใด ๆ HR ควรประเมินความต้องการและเปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละตัวเลือก ว่าเหมาะสมกับขนาดองค์กร วัตถุประสงค์ และความต้องการเฉพาะด้านหรือไม่ เพื่อให้การลงทุนใน HR Tech สร้างคุณค่าที่ดีที่สุดให้แก่องค์กร

ทั้งนี้ หากต้องการหา Solution แต่ไม่รู้จะหาจากไหน สามารถมาค้นหาผ่านแพลตฟอร์ม HR Products & Services ของ HREX ได้ เรามี HR Solution มากกว่า 170 บริการให้เลือกใช้ ค้นหาได้ทางลิงก์นี้

หรือหากสุดท้ายเห็นตัวเลือกจำนวนมากในท้องตลาดแล้วยังไม่รู้จะเลือกอะไรจึงจะดีต่อองค์กรที่สุด สามารถมาขอคำปรึกษาจาก HREX ได้เลย เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อมาได้เลยทางลิงก์นี้

HREX ปรึกษา HR Solution

Sources:

elementsuite

fuel50

ผู้เขียน

Picture of Paranaphat Anui

Paranaphat Anui

Take Off Toward a Dream

บทความที่เกี่ยวข้อง