LinkedIn คือสื่อสังคมออนไลน์ที่มีความพิเศษในด้านธุรกิจ

LinkedIn ถูกใช้งานเพื่อการสรรหาบุคลากรได้ทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เก็เช่นกัน การใช้ LinkedIn การจ้างงานก็กลายมาเป็นที่แพร่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้ด้วย แล้วคุณจะสามารถใช้ประโยชน์จาก LinkedIn สำหรับการสรรหาบุคลากรหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างไรบ้าง ? ในบทความนี้เราจะมาเผยตัวอย่างการใช้งาน LinkedIn และ กรณีตัวอย่างจากหลาย ๆ บริษัทกันครับ

1.LinkedIn สื่อสังคมออนไลน์ด้านธุรกิจ ที่มีประโยชน์ต่อการจ้างงานคืออะไร?

LinkedIn คือสื่อสังคมออนไลน์ที่เน้นการใช้งานในด้านธุรกิจ โดย มีผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 546 ล้านคนจากทั่วโลก ที่เป็นสมาชิกกับ LinkedIn

LinkedIn มีรูปแบบการใช้งานที่ไม่แตกต่างจาก Facebook โดยสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้โดยใช้ชื่อจริงได้ และทำการป้อนรายละเอียดต่าง ๆ เช่น อาชีพที่ ประวัติการศึกษา ประวัติการจ้างงาน ทักษะต่าง ๆ ที่มี เป็นต้น และยังสามารถลงทะเบียนข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของคุณ และเชื่อมต่อกับบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในแวดวงการทำงานได้อีกด้วย

Linkedin ถูกนำมาใช้งานอย่างไรบ้าง？

ที่ Linkedin มีทั้งคนที่ลงทะเบียนเพื่อลงประวัติการทำงานและทักษะของตัวเองเพื่อดึงดูดนายจ้าง และกลุ่มคนที่จะเข้ามาเพื่อคนหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ。

นอกจากนี้ สำหรับหลาย ๆ องค์กรแล้ว มันยังถูกใช้ในการคัดสรรบุคคลเพื่อเข้าทำงานได้โดยตรง หรือที่เรียกกันว่า Direct-sourceโดยการติดต่อแต่ละบุคคลแบบตัวต่อตัว

และแน่นอนว่า ไม่ได้มีเพียงการคัดสรรบุคคลที่เกิดขึ้นเท่านั้นแต่ละองค์กรยังสามารสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ได้บนหน้าเพจของตัวเองเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ข้อมูลต่าง ๆ ทั้งของบุคคลและของบรรดาบริษัทยังมีการโพสท์ขึ้นหน้าเว็บได้แบบเรียลไทม์ จึงทำให้ได้รับข้อมูลใหม่ล่าสุดที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ LinkedInยังมีฟังชันก์ที่ใช้ในการค้นหางาน

และคัดสรรบุคคลเพื่อการจ้างงานบนหน้าโปรไฟล์ของ LinkedIn เอง ยังนำเสนออยุ่ในรูปแบบของภาคธุรกิจ ที่นอกจาก การระบุ ชื่อ อีเมล์และสถานที่ทำงานแล้ว ก็ยังสามารถลงรายละเอียดของทักษะที่ตนเองมีและประวัติการถูกจ้างงานได้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ที่LinkedIn ผู้ใช้บริการยังสามารถสมัครงานไปยังฝ่ายจัดหางานต่าง ๆ ได้และนอกจากการที่บริษัทในฐานะของผู้จัดหางาน จะทำการเปิดรับสมัครงานแล้ว แต่การลงทะเบียนข้อมูลต่าง ๆ ทิ้งไว้บน LinkedInก็สามารถได้รับความสนใจจากผู้จ้างงานและเปิดโอกาสให้มีงานทำได้ด้วยเช่นกัน

แล้วภาคธุรกิจใดที่มีการใช้ LinkedIn ในการรับสมัครงานมากที่สุด?

ปัจจุบัน ผลการสำรวจโดยLinkedIn เอง  พบว่าธุรกิจที่มีปริมาณการจ้างงานมากที่สุดผ่าน LinkedIn คือภาคอุตสาหกรรมไอที

และเมื่อไม่นานมานี้ ภาคอุตสาหกรรมที่เรียกกันว่า Fintech (การรวมกันของ Financial relation + IT) ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้การเปิดรับสมัครงานด้านการเงินก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

เช่นเดียวกัน ถ้าคุณสังเกตุให้ลึกลงไปอีก จะพบว่าการจ้างจะมีทั้ง

ฝ่ายขาย, โอเปอเรเตอร์, วิศวกร, กฝ่ายพัฒนาธุรกิจ, ฝ่ายขายและการตลาด, โปรแกรมเมอร์,ผู้จัดการทั่วไป, การเงิน, การจัดการสินค้า, การบัญชี, ฝ่ายบุคคล, การประกันคุณภาพ, งานลูกค้าสัมพันธ์, งานให้คำปรึกษา

ซึ่งถ้ามองจากมุมนี้ คุณจะเห็นว่าการเปิดรับสมัครงานอยู่ในขอบเขตที่กว้างพอสมควรเลยทีเดียว

2.วิธีใช้งาน LinkedIn เพื่อ “ให้เข้าถึงตัวบุคลากรคุณภาพของบริษัทคู่แข่งได้”

เอาล่ะครับ ทีนี้มาถึงคำถามที่ว่า เราจะใช้ประโยชน์ LinkedInในการจ้างงานได้อย่างไรกัน？ต่อไปนี้ ผมจะแนะนำตัวอย่างการใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ จาก LinkedIn เพื่อการจ้างงานกันครับ

2-1. สามารถโพสต์รับสมัครงานบนหน้าเพจของบริษัทได้（มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าธรรมเนียม）

บนหน้าเพจบริษัท คุณสามารถแนะนำรายละเอียดหรือเขียนบทความต่าง ๆของบริษัทได้ และรวมถึงการประกาศรับสมัครงานของบริษัท  กรณีนี้จะทำให้บริษัทสามารถส่งตรงข้อเสนองานให้กับผู้คนที่สนใจเข้าเยี่ยมชมหน้าเพจของบริษัทได้ด้วย

ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมหน้าเพจของบริษัทก็จะมีแนวโน้มสูงที่จะสนใจในข้อมูลการรับสมัครงานของบริษัท หรือแม้แต่ผู้ที่ใช้บริการทั่วไป ก็สารถเข้าถึงข้อมูลรับสมัครงานที่โพสตืบนหน้าเพจและทำการสมัครได้อย่าง่ายดายอีกเช่นกัน

นอกจากนี้ในการเผยแพร่ข้อมูลของเพจบริษัทยังมีทั้งแบบไม่มีและแบบมีค่าใช้จ่าย ซึ่งผมจะอธิบายความแตกต่างของทั้งสองแบบดังต่อไปนี้

　การเผยแพร่ข้อมูลเพจบริษัท（แบบไม่มีค่าใช้จ่าย）

สำหรับรูปแบบที่ไม่มีค่าใช้จ่ายจะไม่สามารถทำการสมัครงานได้โดยตรงผ่าน LinkedIn  แต่คุณสามารถวางลิงก์เว็บไซต์ของบริษัทไว้บนหน้าแนะนำภาพรวมบริษัท ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะจากจุดนั้นผู้สมัครจะสามารถถูกเชื่อมโยงเพื่อทำการสมัครงานของบริษัทได้

　การเผยแพร่ข้อมูลเพจบริษัท（แบบมีค่าใช้จ่าย）

สำหรับรูปแบบที่มีค่าใช้จ่าย จะมีข้อเสนอเพิ่มเติมที่แตกต่างจากแบบฟรีดังนี้

ด้วยข้อเสนอดังกล่าว คุณจะสามารถบอกรายละเอียดทั้งหมดของบริษัทได้ และแน่นอนว่าการสมัครงานผ่าน LinkedIn ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

และ หากมีบุคคลที่คุณรู้จักผ่านLinkedInอยู่ในบริษัทที่โพสต์งานนั้น คุณก็สามารถให้คนรู้จักคนนั้นเสนองานให้แก่คุณได้ด้วย นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อกับผู้ที่โพสต์ข้อเสนอนั้นได้โดยตรงด้วย

[หน้าลิสต์งานที่รับสมัคร]

[หน้ารายละเอียดของงาน]

[หน้า บล็อกและภาพถ่าย]

2-2．ความสามารถในการค้นหาผู้สมัครที่เหมาะสม（มีค่าบริการ）

โปรแกรมแบบฟรี คุณต้องรอให้ผู้ใช้บริการเข้าไปยังเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อการสมัครงาน ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของผู้รอรับสาร。

แต่ถ้าคุณใช้โปรแกรมแบบที่มีค่าใช้จ่าย คุณสามารถค้นหาผู้สมัครที่เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ของคุณได้ ท่ามกลางผู้ใช้บริการจำนวนมากและยังสามารถติดต่อกับผุ้สมัครเหล่านั้นได้โดยตรงโวย

และด้วยตัวกรองในการค้นหา ฟังชันก์นี้จะช่วยให้คุณคัดสรรบุคคลได้ง่ายขึ้น ด้วยการจำกัดข้อมูลให้แคบลง ด้วยการระบุลักษณะธุรกิจหรืออาชีพ ทักษะความสามารถที่ต้องการเป็นต้น

ด้วยผลลัพธ์การค้นหา หากคุณพบกับผู้สมัครที่ตรงตามความต้องการ คุณก็สามารถส่งรายละเอียดต่างเพื่อประชาสัมพันธ์แก่ผู้สมัครโดยตรง รวมทั้งจดหมาย Scout Mail ด้วย

แน่นอนว่าการใช้คุณสมบัตินี้ จะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้สมัครที่กำลังตัดสินใจจะเปลี่ยนงานได้สบาย ๆ

ความสามารถในการค้นหาบริษัทคู่แข่ง（มีค่าบริการ）

คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งของ LinkedIn คือการสำรวจบุคคลกรของบริษัทคู่แข่งและรับรายละเอียดติดต่อโดยตรงได้

สามารถส่งจดหมาย Scout Mail ไปยังบุคลากรของบริษัทคู่แข่งได้ด้วย ซึ่งปกติแล้วมักจะทำการติดต่อได้ยากมาก

นอกจากนี้บริการนี้ยังสามารถช่วยให้คุณรับรู้การจัดการและทรัพยากรบุคคลที่มีขององค์กรคู่แข่ง รวมถึงการที่คุณสามารถดูประเภทของบุคคลกรและที่บริษัทคู่แข่งกำลังว่าจ้างอยู่ได้ด้วย

บริการดังกล่าวจาก LinkedIn จะช่วยให้คุณรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ขององค์กรคู่แข่ง เช่น บริษัทคู่แข่งมีการจ้างงานวิศวกรอยุ่กี่คน อายุหรือโครงสร้างตำแหน่งของคู่แข่งคืออะไร

วิศวกรเหล่านั้นมีประวัติการทำงานหรือทักษะที่มีเป็นอย่างไรบ้าง เป็นต้น

ในทางตรงข้าม คุณก็สามารถตรวจสอบได้ว่า พนักงานที่เคยเปลี่ยนจากบริษัทของคุณมีการรั่วไหลไปยังบริษัทคู่แข่งหรือไม่ ได้ด้วยเช่นกัน

การโฆษณา（มีค่าบริการ）

คุณสามารถลงทะเบียนเพื่อเผยแพร่โฆษณาบนหน้าฟีดหลักของ LinkedIn หรือในอีเมลที่ส่งจาก LinkedIn ได้ ฯลฯ

สมาชิกของ LinkedIn จะสามารถลงข้อมูลต่าง ๆ  เช่น คุณสมบัติ การศึกษา ประวัติการทำงาน ทักษะความสามารถ หรือคุณสมบัติอื่น ๆ รวมทั้งสามารถทำการโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายด้วยการลงทะเบียนได้

สำหรับรูปแบบโฆษณาของLinkedInที่มีให้บริการ เช่น Sponsored Job Ads, Sponsored content, Text ads, Sponsored InMail, Dynamic ads, Display ads ฯลฯ ซึ่งเรียกได้ว่ามีบริการอยู่หลายแบบหลายสไตล์ทีเดียว

การเฟ้นหาบุคคลที่น่าสนใจ (มีค่าบริการ)

คุณสามารถส่งจดหมาย Scout Mail ภายใน LinkedIn ไปยังบุคคลที่คุณค้นพบและสนใจผ่านฟังก์ชันการค้นหาได้

ก่อนหน้านั้น คุณจำเป็นที่จะต้องซื้อบริการที่เรียกว่า “Recruiter License” เสียก่อน หลังจากที่ได้รับมาแล้ว คุณถึงจะสามารถค้นหาบุคคลกรคุณภาพที่คุณต้องการและจึงแจกจ่าย Scout Mail ไปยังบุคคลเหล่านั้น

นอกจากนี้ยังสามารถจำกัดเป้าหมายในการแจกจ่ายให้แคบลงได้อีกด้วย  รวมถึงฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การคัดสรรง่ายขึ้นด้วยตัวกรองที่หลากหลายบนฐานข้อมูลของ LinkedIn ที่มีการรวบรวมข้อมูลทางธุรกิจซึ่งมีการโพสต์ไว้จำนวนมากบนโปรไฟล์ส่วนบุคคลต่างๆ อาทิ เช่น ทักษะ, ชื่อบริษัท, ตำแหน่ง,  ปีที่จบการศึกษา, สถานศึกษา หรือ ที่อยู่เป็นต้น

บทสรุป

เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

แม้ว่าตอนนี้ LinkedIn จะมีการเรียกเก็บค่าบริการในหลาย ๆ อย่าง แต่คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากการค้นหาผู้สมัครที่คุณต้องการด้วยความถูกต้องแม่นยำและคุณสามารถเข้าถึงผู้คนได้ด้วยโดยวิธีการโฆษณาหรือจดหมายscout mail ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังถือเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการจัดหางาน เพราะผู้ใช้บริการหลายพันคนที่นี่ ที่เป็นผู้สนใจจะเปลี่ยนงานที่มากคุณภาพรวมตัวกันอยู่ที่นี่ และยังสร้างโอกาสพบปะกับผู้คนที่ปกติแล้วมาสารถจะเจอได้ง่าย ๆ ด้วย

โดยรวมแล้ว การใช้งาน LinkedIn ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก ด้วยความต่อเนื่องในการประชาสัมพันธ์องค์กรสู่สาธารณะ และการเข้าถึงผู้สมัครได้อย่างราบรื่น  และอาจเป็นช่องที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังตามหาวิธีการดี ๆ ในการคัดสรรบุคลกรในตอนนี้ก็เป็นได้

การสรรหาพนักงานผ่าน Social Media